KTC สร้าง Knowledge Sharing [PR.NEWS]

จูงมือเยาวชนบ้านมหาเมฆ ย้อนรอยพระอัจฉริยภาพด้านการกีฬาเรือใบ เป็นการจัดกิจกรรมแบ่งปันทั้งความรู้ และความคิดไปสู่สังคมในรูปแบบต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

​“เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมน้อมรำลึกถึงพระอัจฉริยภาพด้านการกีฬาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในครั้งนี้จึงได้จัดกิจกรรม “ย้อนรอยพระอัจฉริยภาพด้านการกีฬาเรือใบ”  ขึ้น ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่พระอัจฉริยภาพด้านกีฬาเรือใบ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และเปิดโอกาสให้เยาวชนจากสถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านมหาเมฆ จำนวน 20 คน ได้เรียนรู้ถึงวิธีการแล่นเรือใบ ภายใต้การดูแลของสมาคมกีฬาแข่งเรือใบแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์

 

พร้อมกันนี้ ยังได้จัดช่วงเสวนาโดยกีระติ บัวลง นักกีฬาเรือใบตัวแทนระดับทีมชาติไทย ผู้มีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เป็นแรงบันดาลใจ ร่วมบอกเล่าเรื่องราวเส้นทางการฝึกฝนก่อนที่จะประสบความสำเร็จเพื่อให้เยาวชนได้ตระหนักถึงความมุมานะ และความขยันหมั่นเพียร อันเป็นพื้นฐานของความสำเร็จในอนาคต

​​พลเรือตรี วิพันธุ์ ชมะโชติ กรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ สมาคมกีฬาแข่งเรือใบแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า สมาคมกีฬาแข่งเรือใบแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2508 และส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันเรือใบเป็นครั้งแรก ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคครั้งที่ 16 ณ นครเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย แต่การแข่งขันครั้งสำคัญคือ การแข่งขันกีฬาแหลมทอง ครั้งที่ 4 เมื่อ พ.ศ.2510 ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ โดยในครั้งนั้นประเทศไทยได้รับเหรียญทอง จากฝีพระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญา ทั้งสองพระองค์ทรงเข้าร่วมการแข่งขันในฐานะนักกีฬาทีมชาติไทย ทรงทำคะแนนในการแข่งขันเรือใบประเภท โอ.เค

ณัชฐิณี ปลีกล่ำรัตนศิริ ผู้ปกครอง สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านมหาเมฆ กล่าวในตอนท้ายว่า

“สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านมหาเมฆ สังกัดกองส่งเสริมการพัฒนาและสวัสดิการเด็กเยาวชนและครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นสถานสงเคราะห์สำหรับเด็กชายที่กำพร้า ไร้ที่พึ่ง แต่มีความประพฤติดี มีความมานะพยายามบากบั่นในการเรียน และมีผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ดี โดยเริ่มดำเนินการรับเด็กเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2497 ปัจจุบันอุปการะเลี้ยงดูเด็กชายที่มีอายุ 6-18 ปี ที่ประสบปัญหาต่างๆ จำนวน 150 คน โดยทางสถานสงเคราะห์ฯ ได้มุ่งเน้นพัฒนาให้เด็กมีความเจริญเติบโต ทั้งทางด้านสังคม อารมณ์ และจิตใจ เพื่อนำส่งคนดีกลับสู่สังคมต่อไป”

Stay Connected
Latest News