การบินไทยเปิดตัว Circular Uniform นำร่องชุดไทยสำหรับลูกเรือหญิง และเสื้อโปโลพนักงาน ตั้งเป้าสู่ ‘Zero waste Living’

บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดตัวยูนิฟอร์มใหม่ในกลุ่ม Circular Series นำร่องด้วย ชุดไทยสำหรับพนักงานหญิงใส่ต้อนรับบนเครื่องบิน ที่มีส่วนผสมของเส้นใยรีไซเคิลจากขวด PET 70% พร้อมด้วยเสื้อโปโลสำหรับพนักงานทุกคน ซึ่งผลิตมาจากการรีไซเคิลชุดยูนิฟอร์มเก่า พร้อมประกาศขับเคลื่อนองค์กรสู่ Net zero ภายในปี 2050

คุณชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ​การบินไทย​​ปรับเปลี่ยนยูนิฟอร์มชุดไทยของ​พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินหญิง จากที่เคยใช้ผ้าไหมทั้ง 100% มาเป็นการใช้เส้นจากจากขวด PET รีไซเคิล 70% ผสมกับผ้าไหม 30% โดยขวด PET บางส่วนจะนำมาจากการแยกขยะบนเครื่องบินที่ให้บริการมากกว่าวันละ 120 เที่ยวบินไปสู่จุดหมายต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งผ้า 1 หลา ต้องใช้ขวด PET 18 ขวดในการผลิต โดยยูนิฟอร์มชุดไทยทั้งชุด ต้องใช้ขวด PET จำนวน 54 ขวด ​นอกจากนี้ ยังได้เปิดตัวเสื้อโปโลองค์กรล็อตใหม่ที่ผลิตมาจากอัพไซเคิลจากชุดยูนิฟอร์มเก่าที่พนักงานนำมาส่งคืน สำหรับแจกให้พนักงานทุกคนอีกด้วย โดยยูนิฟอร์มเก่าน้ำหนัก 2 กิโลกรัม จะสามารถนำมาผลิตเสื้อโปโล Circular ได้ 1 ตัว

“การนำเส้นใยรีไซเคิลจากขวด PET มานำร่องตัดเย็บเป็นชุดไทยของพนักงานต้อนรับ เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงการผสมผสานอัตลักษณ์ความเป็นไทยให้เข้ากับแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนไปสู่สายตานักท่องเที่ยวจากทั่วโลก  เนื่องจากเครื่องแบบชุดไทยเรือนต้นของการบินไทยเป็นที่รู้จักแพร่หลายระดับนานาชาติ และได้รับการยอมรับเรื่องความสวยงาม รวมทั้งสร้าง​การจดจำได้ถึงเอกลักษณ์ที่สะท้อนความเป็นสายการบินแห่งชาติ เปรียบเสมือนประตูบานแรกที่เปิดต้อนรับผู้โดยสารจากประเทศต่างๆ

โดยผู้โดยสารเฉลี่ยแต่ละเที่ยวบินของการบินไทยจะเป็นต่างชาติราว 80% และเป็นคนไทยราว 20% ​ในแต่ะละวันจะมีพนักงานต้อนรับกว่า 1 พันคน โดยเฉพาะพนักงานหญิง 600-700 คน ซึ่งนอกจากความสวยงาม และอัตลักษณ์ที่โดดเด่นแล้ว ชุดยูนิฟอร์มใหม่นี้ ยังดูแลรักษาง่าย สามารถคงรูปได้ดีแต่ให้ความยืดหยุ่นและคล่องตัวในการใช้งาน และยังได้มีการทดสอบในด้านความปลอดภัยที่เป็นตามมาตรฐานสากลด้วย โดยจะเริ่มปรับเปลี่ยนให้​พนักงานหญิงกลุ่มใหม่ที่จะเริ่มทำการบินตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป ก่อนจะทยอยเปลี่ยนให้พนักงานต้อนรับหญิงทั้งหมดที่มีมากกว่า 2,100 คน จากพนักงานต้อนรับราว 3,000 คน ภายในกลางปีหน้าเป็นต้นไป”

ทั้งนี้  ที่ผ่านมาการบินไทยเริ่มดำเนินการเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานด้วยการนำเครื่องบินและเครื่องยนต์สมัยใหม่ที่มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงและการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำมาใช้ในการให้บริการ และปรับปรุงการปฏิบัติการบิน อาทิ การนำเทคนิค Single Engine Taxi และการลดน้ำหนักการบรรทุกมาปรับใช้ในการปฏิบัติการบิน เป็นต้น นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการปรับปรุงกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาอย่างยั่งยืนซึ่งรวมถึงการจัดทำแผนการนำเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF-Sustainable Aviation Fuel) มาใช้ทำการบิน และการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจด้านอื่นๆ นอกเหนือจากกิจกรรมการบิน อาทิ กิจกรรมครัวการบิน กิจกรรมสายช่าง กิจกรรมการบริการภาคพื้น ตลอดจนกิจกรรมเพื่อสร้างความยั่งยืนทางสังคม อาทิ การสนับสนุนผลิตภัณฑ์จากภาคการเกษตรของเกษตรชาวไทยและผู้ประกอบการรายย่อย เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่บริษัทฯกำหนดไว้

 

“การรบินไทยมุ่งมั่นขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตอย่าง​​ยั่งยืนผ่านแนวคิด “Zero Waste Living” ภายใต้แนวทางการดำเนินงาน 3 มิติ ได้แก่ FROM PLANES TO PLANET-การบินเพื่อสิ่งแวดล้อม FROM WASTE TO WEALTH-การพัฒนาเพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ และ FROM PURPLE TO PURPOSE-จากใจสู่เป้าหมายเพื่อความยั่งยืน โดยกว่า 2 ทศวรรษที่ผ่านมา ได้ทำการปรับ​ปรุงกระบวนการทำงานด้านต่างๆ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกผ่านกิจกรรมและโครงการริเริ่มต่างๆ ทั้งในรูปแบบการลดการใช้ทรัพยากร ลดปริมาณขยะด้วยการนำวัสดุที่ไม่ใช้งานแล้วกลับมาพัฒนาสร้างคุณค่าให้เกิดประโยชน์เพื่อให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) สะท้อนการให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจควบคู่ไปกับ​การพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยวาง​เป้าหมายในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ​ Net Zero ภายในปี 2050″

Stay Connected
Latest News