เทสโก้ เดินตามเป้า SDGs จับมือคู่ค้าร่วมกันลดขยะจากอาหาร

 

กลุ่มเทสโก้ ประกาศความร่วมมือกับซัพพลายเออร์ผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ที่สุด 24 บริษัท เพื่อร่วมลดปริมาณขยะจากอาหารให้ได้ครึ่งหนึ่งภายในป2573 ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ

มร. เดฟ ลูอิส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มเทสโก้ ประกาศความร่วมมือกับซัพพลายเออร์ผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ที่สุด 24 บริษัท เพื่อร่วมกันลดปริมาณขยะจากอาหารให้ได้ครึ่งหนึ่งภายในปี พ.ศ. 2573 ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ คู่ค้าทั้ง 24 ราย ซึ่งมียอดขายสินค้าในเทสโก้รวมกันกว่า 17,000 ล้านปอนด์ ( 760,000 ล้านบาท) จะเริ่มเปิดเผยข้อมูลการทิ้งอาหารภายในธุรกิจของตนเองอย่างโปร่งใสภายในเวลา 12 เดือนข้างหน้า และได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะร่วมกันลดปริมาณขยะจากอาหารตลอดห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงการคิดค้นนวัตกรรมที่จะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถลดปริมาณขยะจากอาหารที่บ้านอีกด้วย

 

ทั้งนี้ เทสโก้ ยังได้ประกาศเพิ่มเติมว่าขณะนี้ธุรกิจของกลุ่มเทสโก้ในสาธารณรัฐไอร์แลนด์ โปแลนด์ สโลวาเกีย สาธารณรัฐเช็ก และฮังการี ได้เริ่มต้นรายงานตัวเลขข้อมูลการทิ้งอาหารภายในการดำเนินธุรกิจแล้ว ในขณะที่เทสโก้ สหราชอาณาจักรได้เริ่มเปิดเผยข้อมูลมาตลอดระยะเวลา 4 ปี แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของกลุ่มเทสโก้ในการเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใสและนำข้อมูลนั้นมาใช้ประโยชน์ในการลดปริมาณขยะจากอาหารภายในธุรกิจค้าปลีกของกลุ่ม

สำหรับ เทสโก้ โลตัส ประเทศไทย ได้ประกาศเจตนารมณ์ไม่ทิ้งอาหารที่ยังรับประทานได้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยเป็นผู้ประกอบการค้าปลีกรายแรกในประเทศไทยที่จะบริจาคอาหารสดที่จำหน่ายไม่หมดให้ผู้ยากไร้ทุกวัน เริ่มต้นจากไฮเปอร์มาร์เก็ต 24 สาขาในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ก่อนขยายสู่ทุกสาขาใหญ่ทั่วประเทศในอนาคต ภายใต้ “โครงการกินได้ ไม่ทิ้งกัน”

นอกจากนั้น เทสโก้ โลตัส ยังใช้กลยุทธ์จากฟาร์มถึงโต๊ะอาหาร (Farm to Fork) ช่วยลดการสูญเสียอาหารตลอดห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่แหล่งเพาะปลูก กระบวนการตัดแต่ง บรรจุ ไปจนถึงขนส่งจำหน่าย และบริโภค โครงการรับซื้อผลผลิตตรงจากเกษตรกร ช่วยให้เทสโก้ โลตัส และเกษตรกรสามารถวางแผนการเพาะปลูกร่วมกันตามความต้องการของตลาด ลดปัญหาพืชผลล้นตลาดจนกลายเป็นขยะอาหาร

สำหรับสินค้าที่ไม่อยู่ในภาพสมบูรณ์แบบแต่ยังคงรับประทานได้ จะถูกนำมาลดราคาเป็นสินค้าป้ายเหลือง ที่นอกจากจะเป็นการช่วยลดปัญหาขยะที่เกิดจากอาหารแล้ว ยังเป็นการช่วยลดค่าครองชีพของลูกค้าและประชาชนผู้มีรายได้น้อยอีกด้วย

หากยังคงมีสินค้าที่จำหน่ายไม่หมดหลังจากลดราคา จะทำการคัดแยกสินค้าที่ยังคงอยู่ในภาพดี เพื่อบริจาคให้กับมูลนิธิและองค์กรการกุศลที่เป็นพันธมิตรกับเรา เพื่อนำไปปรุงเป็นมื้ออาหารให้กับผู้ยากไร้ ส่วนสินค้าที่ไม่สามารถรับประทานได้แล้ว ก็จะถูกนำไปทำเป็นปุ๋ยชีวภาพต่อไป

ข่าวเกี่ยวข้อง
รณรงค์ตรุษจีน ยุคมีเป้าหมาย SDGs “กินหมด งดของเหลือ”

Stay Connected
Latest News

สิงห์ เอสเตท สานต่อโครงการ “ปลูกป่าด้วยปลายนิ้ว” ปีที่ 3 เดินหน้าปลูกป่า 1 ล้าน ตร.ม. สร้างพื้นที่สีเขียว มุ่งสู่องค์กรที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนครบวงจร ตามปรัชญา “Go Beyond Dreams”