Mr.Leaf เล่าเรื่องวิถีชุมชน “ใบตองตึง”ผ่านเส้นใยธรรมชาติ

ผลิตภัณฑ์ของMr.Leaf ทำจากใบตองตึงที่สวยงามทรงคุณค่าตามธรรมชาติ ช่วยบอกเล่าเรื่องราววิถึชีวิตของชุมชนที่ผูกพันกับต้นไม้นี้ พร้อมแต่งเติมไอเดียให้กลายเป็นสินค้าส่งออกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ผลิตภัณฑ์ของMr.Leaf ทำจากใบตองตึงที่สวยงามทรงคุณค่าตามธรรมชาติ ช่วยบอกเล่าเรื่องราววิถึชีวิตของชุมชนที่ผูกพันกับต้นไม้นี้ พร้อมแต่งเติมไอเดียให้กลายเป็นสินค้าส่งออกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

คงไม่มีใครคิดว่า “ใบตองตึง” จากต้นที่กำลังแห้งเหี่ยวรอวันโรยรา ที่ชาวบ้านในภาคเหนือสมัยโบราณใช้มุงหลังคาบ้าน ใช้ห่อข้าวเหนียวและของอื่นๆ จะสามารถนำมารังสรรค์เป็นข้าวของเครื่องใช้ได้ แต่หนุ่มลำปางที่ชื่อ ปรเมศร์ สายอุปราช กลับมองเห็นคุณค่าและเสน่ห์ตามธรรมชาติของใบต้องตึง นำมาต่อยอดกลายเป็น Mr.Leaf ผลิตภัณฑ์แฮนด์เมดที่อาศัยเส้นสายใยตามธรรมชาติเพื่อบอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิตของชุมชน

ภาพจาก http://7greens.tourismthailand.org/amazing_green_route/route_chiangmai.html

“ต้นตึง” เป็นไม้ผลัดใบ ลำต้นตรง มีใบขนาดใหญ่ลักษณะวงรี กว้างประมาณ 15-30 ซ.ม. ยาวประมาณ 15-40 ซ.ม. ใบไม้ขนาดใหญ่นี้แทรกซึมเข้ามาอยู่ในวิถึชีวิตชาวบ้านชุมชนภาคเหนือมานานแล้ว เพราะนอกจากนำใบอ่อนมาห่อข้าว หรือข้าวเหนียวแทนใบบัวหรือใบตองกล้วย ใบแก่ที่ร่วงหล่นจากต้นนอกจากถูกเก็บกวาดเป็นขยะเพื่อรอการเผาทิ้งแล้ว ยังมีชาวบ้านบางกลุ่มเก็บมาเย็บกับก้านเป็นตับเพื่อมุงหลังคาแทนหญ้าคาหรือหญ้าแฝก เพราะใบตองตึงมีเหนียวทนทานอยู่ได้นาน 4 – 5 ปี นอกจากนี้ใบตองตึงยังสร้างอาชีพให้กับชุมชนแม่ฮ่องสอน ด้วยการทำใบตองตึงเป็นตับขายให้กับร้านอาหาร ในราคาตับละ 2-5 บาท ใบตองตึงจึงไม่ใช่แค่ใบไม้ที่ร่วงหล่นและกวาดทิ้งไปอย่างไม่มีคุณค่าอีกต่อไป

ปรเมศร์ สายอุปราช อดีตข้าราชการอาจารย์ที่ลาออกจากราชการเพื่อตามฝันของตัวเองคือต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจ นำประสบการณ์จากการลองผิดลองถูกและเรียนรู้จากวิทยาการชาวญี่ปุ่นเกี่ยวกับเส้นใยธรรมชาติรวมแล้วกว่า 10 ปี พร้อมกับการใช้โอกาสในช่วงที่ประชากรจากทุกมุมโลกตื่นตัวในการลดภาวะโลกร้อน หันมาใช้สินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำให้ปรเมศร์ ปิ๊งไอเดียนำใบตองตึงมาทำเป็นผลิตภัณฑ์แฮนด์เมด อาทิ หมวก ร่ม เสื้อ โคมไฟใบไม้ นาฬิกาใบไม้ หมอนอิง หรือ wall leaf สำหรับตกแต่งผนังบ้าน ตู้ กล่องใส่ของ กระเป๋าสตางค์ ซองพาสปอร์ต

ปรเมศร์จะรับซื้อใบตองตึงสดในสภาพดีจากชาวบ้านกิโลกรัมละ 20 บาท จากนั้นจึงนำมาตากแห้ง ผ่านขั้นตอนการอบเชื้อราเพื่อทำให้ใบตองตึงไม่เกิดเชื้อราและนิ่ม ย้อมสีธรรมชาติ แล้วนำมาตัดเย็บทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ อย่างประณีต รวมถึงเคลือบลามิเนตเพื่อให้สินค้ากันแดดกันฝนและมีอายุการใช้งานได้ยาวนานอีกด้วย


โดยจุดเด่นของสินค้านอกจากมีลวดลายของใบที่สวยงามแตกต่างกันไปแล้ว Mr.Leaf ยังเป็นสินค้าที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นชุมชน และสะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ขณะที่ชาวยุโรปตื่นตัวในเรื่องการลดภาวะโลกร้อน หันมาใช้สินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น จึงกลายช่องทางให้แบรนด์ Mr.Leaf เป็นที่สนใจของตลาดต่างชาติ ซึ่งเป็นส่วนแบ่งทางการตลาดที่ใหญ่สุด สหรัฐอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น ไต้หวัน จีน สิงคโปร์ และมาเลเชีย

ล่าสุดผลิตภัณฑ์แบรนด์ Mr.Leaf สามารถกวาดรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น ประจำปี 2560 Best OTOPมาครองได้ ซึ่งรางวัลดังกล่าวทำให้ลูกค้าและผู้เป็นหุ้นส่วนจากต่างประเทศเชื่อมั่นในสินค้ามากยิ่งขึ้น

 

Stay Connected
Latest News