ดีเดย์ที่เมืองไทย”เนสกาแฟรักษ์โลก” ตอกย้ำนโยบายลดขยะพลาสติกทั่วโลก

เพื่อตอกย้ำพันธกิจระดับโลกของเนสท์เล่ที่มุ่งมั่นเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดให้สามารถรีไซเคิลหรือนำกลับมาใช้ใหม่ได้ 100% ภายในปี 2025 ล่าสุดเนสท์เล่ไทยประกาศใช้ 3 บรรจุภัณฑ์รักษ์โลกกับผลิตภัณฑ์เนสกาแฟ ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุด เฉพาะเนสกาแฟ โพรเทค โพรสลิม ก็สามารถลดปริมาณขยะพลาสติกที่ใช้ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ได้ถึง 9 ตันต่อปี


วิคเตอร์ เซียห์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เนสท์เล่ อินโดไชน่า กล่าวว่า “การรับมือกับปัญหาขยะพลาสติกได้กลายเป็นความท้าท้ายด้านสิ่งแวดล้อมครั้งใหญ่ที่ทั้งประเทศไทยและทั่วโลกกำลังเผชิญ เพื่อจัดการกับปัญหานี้ เนสท์เล่ได้พยายามอย่างเต็มที่ในการบริหารจัดการอย่างเป็นองค์รวมภายใต้หลัก 3R ได้แก่ การลดการใช้ (Reduce) การนำกลับมาใช้ซ้ำ (Reuse) และการรีไซเคิล (Recycle) ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจระดับโลกของเราในการเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดให้สามารถรีไซเคิลหรือนำกลับมาใช้ใหม่ได้ 100% ภายในปี 2025 ภายใต้วิสัยทัศน์ที่จะต้องไม่มีวัสดุและพลาสติกจากบรรจุภัณฑ์ของเนสท์เล่ที่ต้องกำจัดด้วยการฝังกลบหรือกลายเป็นขยะ”

ทั้งนี้เพราะธุรกิจกาแฟคือธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดของเนสท์เล่และเป็นผู้นำตลาดในประเทศ การเริ่มใช้บรรจุภัณฑ์รักษ์โลกกับผลิตภัณฑ์เนสกาแฟ จึงเป็นการช่วยสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการลดปริมาณขยะพลาสติกแก่ผู้บริโภคชาวไทยรวมทั้งเพิ่มการนำบรรจุภัณฑ์ไปรีไซเคิล พร้อมๆ กับการตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

 

วิคเตอร์ เซียห์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เนสท์เล่ อินโดไชน่า

สำหรับ 3 บรรจุภัณฑ์รักษ์โลกของเนสกาแฟ ที่เปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ ประกอบด้วย

เนสกาแฟ โพรเทค โพรสลิม ที่เปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ภายนอกเป็นซองกระดาษ ซึ่งเริ่มใช้ในประเทศไทยเป็นที่แรกของโลก โดยจะช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกที่ใช้ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ได้ถึง 9 ตันต่อปี ทั้งนี้ กระดาษที่นำมาใช้ผลิตบรรจุภัณฑ์ยังได้รับการรับรองจาก Forest Stewardship Council (FSC™) ว่าตลอดกระบวนการผลิตกระดาษนั้นมีการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืนตามหลักการที่เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติอีกด้วย

เนสกาแฟกระป๋องลาเต้และแบล็คไอซ์ในกระป๋องอลูมิเนียมที่สามารถรีไซเคิลได้ 100%โดยได้เปลี่ยนบรรจุภัณฑ์จากดีบุกมาเป็นอลูมิเนียม จึงสามารถนำมารีไซเคิลได้ 100% ทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

แก้วไบโอคัพ (BioCup) รวมทั้งฝาปิดและหลอดที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ 100% ซึ่งได้นำมาใช้แล้วที่ร้านเนสกาแฟฮับ โดยทั้งหมดจะสามารถย่อยสลายกลับคืนสู่ธรรมชาติภายใน 180 วันหลังจากการทิ้ง ซึ่งได้รับการรับรองด้วยมาตรฐาน ASTM D6400 และ EN 13432 ทั้งยังใช้งานง่ายและสะดวก สามารถใส่ได้ทั้งเครื่องดื่มร้อนและเย็นเหมือนกับแก้วพลาสติกแบบเดิม รวมทั้งยังช่วยลดต้นทุนในการจัดการขยะ ทั้งนี้

การเปิดตัว 3 บรรจุภัณฑ์รักษ์โลกของเนสกาแฟครั้งนี้ นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการเดินหน้าเพื่อเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดของเนสท์เล่ให้สามารถรีไซเคิลหรือนำกลับมาใช้ได้ 100% เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน

Stay Connected
Latest News