ธนาคารกรุงเทพ จับมือบัวหลวงเอสเอ็มอี เสริมแกร่ง​ผู้ประกอบการไทย​​ แนะปรับตัวรับ 4 ปัจจัย ​บริบทใหม่โลกธุรกิจยุคเปลี่ยนผ่าน

ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ร่วมกับ​​ ชมรมบัวหลวงเอสเอ็มอี (BLCSME) ในโอกาสครบรอบ 20 ปีของชมรมฯ ติดปีกความรู้ให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี​ จัดงานสัมมนา “SME Transformation : เปลี่ยนผ่านธุรกิจ เติบโต ยั่งยืน” ร่วมหนุนผู้ประกอบการไทยแข็งแกร่ง แข่งขันได้ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงรอบด้าน แนะ​ปรับตัวรับ 4 ปัจจัย ในบริบทใหม่โลกธุรกิจยุคเปลี่ยนผ่าน พร้อมเปิด “คลินิก” ให้คำปรึกษาธุรกิจแบบครบวงจร เร่งปรับตัวสู่ยุคดิจิทัล หนุนเติบโตอย่างยั่งยืน

เป้าหมายสำคัญของการจัดงานครั้งนี้ เพื่อร่วมเติมความรู้ เสริมศักยภาพให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยได้รับเกียรติจากสุดยอดผู้บริหารองค์กรชั้นนำ​ร่วมแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ตรง ทั้งธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และองค์กรพันธมิตร ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI), สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA), สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA), สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และ บริษัท ปูนชิเมนต์ไทย จํากัด (มหาชน) หรือ SCG รวมทั้งสมาชิกดาวเด่นของชมรมที่เข้าร่วมบรรยายในหัวข้อต่างๆ เตรียมพร้อมให้ธุรกิจรับมือการเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดดจากภาวะเศรษฐกิจ และกฎระเบียบต่างๆในโลกยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

คุณชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เอสเอ็มอีมีความสำคัญอย่างมากต่อรากฐานการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ โดยปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีกว่า 3 ล้านราย ทำให้เกิดการจ้างงานกว่า 12 ล้านคน และสร้างรายได้ให้ประเทศคิดเป็นสัดส่วนกว่า 35% ของ GDP รวมทั้งเป็นรากฐาน Supply Chain ที่สำคัญของหลายๆ อุตสาหกรรมของประเทศ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งธนาคารกรุงเทพเล็งเห็นศักยภาพและให้ความสำคัญอย่างมากในการสนับสนุนเอสเอ็มอี เพื่อเป็นฟันเฟืองหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และสนับสนุนไทยสามารถก้าวขึ้นเป็นฐานการผลิตสำคัญของภูมิภาค และของโลก

“เราไม่เพียงสนับสนุนเอสเอ็มอีในด้านสินเชื่อและบริการทางการเงินต่างๆ เท่านั้น แต่ยังมุ่งเป็น Facilitator ที่ช่วยประสานความร่วมมือกับภาคราชการและสถาบันการศึกษา ให้มาถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เทคโนโลยีการผลิต การเชื่อมโยงโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ผ่านเครือข่าย Supply Chain อีกทั้งธนาคารยังเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการผ่านช่องทางสื่อต่างๆ ของธนาคาร” 

นอกจากนี้ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ระหว่างการระบาดของโควิด-19 ธนาคารได้ร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทย สนับสนุนสินเชื่อพิเศษ เพื่อช่วยผู้ประกอบการที่ขาดสภาพคล่องจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ​ให้สามารถประคับประคองกิจการและรักษาการจ้างงาน เพื่อรอโอกาสที่เศรษฐกิจฟื้นตัว ส่วนผู้ประกอบการที่ได้รับโอกาสทางธุรกิจจากสถานการณ์เดียวกัน ธนาคารก็ได้สนับสนุนสินเชื่อสำหรับการขยายธุรกิจ หรือผู้ที่ต้องการปรับเปลี่ยน Business Model ให้สอดคล้องกับสภาพตลาดที่เปลี่ยนไป ซึ่งธนาคารยินดีให้การสนับสนุนทั้งด้านเงินลงทุนและ Know-how ซึ่งมีผู้ประกอบการหลายพันรายที่ได้รับประโยชน์จากสินเชื่อพิเศษนี้

ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ กรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวภายใต้หัวข้อ “ความท้าทายและทางออกในการพัฒนา เอสเอ็มอีไทย” ว่า จากข้อมูลของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) พบว่า มูลค่าธุรกิจเอสเอ็มอีของไทย คิดเป็น 1 ใน 3 ของ​ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่มีมูลค่าประมาณ 17 ล้านล้านบาท  โดยกลุ่มธุรกิจบริการมีสัดส่วนมากที่สุดกว่า  40%

ทั้งนี้ ในปัจจุบันธุรกิจเอสเอ็มอีไทยต้องประสบปัญหา​หลายด้าน อาทิ ด้านต้นทุน การขาดแรงงานฝีมือ ขาดองค์ความรู้เชิงลึก และขาดศักยภาพการแข่งขัน รวมทั้ง​สิ่งสำคัญที่ประเทศไทยยังขาด คือ การสร้างความร่วมมือระหว่างกัน ทั้งจากภาครัฐและเอกชน เพื่อสนับสนุนให้ธุรกิจเอสเอ็มอีสามารถนำนวัตกรรมมาปรับใช้กับธุรกิจให้มากขึ้น ทั้งเรื่องของเทคโนโลยีดิจิทัล และสิ่งแวดล้อม

“ในยุคดิจิทัล เอสเอ็มอีจะต้องนำองค์ความรู้ด้านนวัตกรรม เทคโนโลยีมาปรับใช้ เพราะโลกกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วหากภาคธุรกิจไม่ปรับตัวจะทำให้เกิดปัญหา Digital Disruption จนธุรกิจไปต่อไม่ได้ ซึ่งปัจจุบันทั้งหน่วยงานภาครัฐและองค์กรเอกชนมีแนวทางสนับสนุนภาคธุรกิจในเรื่องนี้จำนวนมาก เพื่อให้ภาคธุรกิจมีภูมิต้านทานและพร้อมจะเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน”  

แนะ SME ปรับตัวรับ 4 ปัจจัย ​ในบริบทธุรกิจใหม่

ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่และเลขานุการบริษัท ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวในหัวข้อ “อนาคตเศรษฐกิจไทยและผลกระทบต่อเอสเอ็มอี” ว่า ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจะต้องเตรียมตัวรับมือ 4 เรื่องสำคัญที่จะเกิดการเปลี่ยนในอนาคต ได้แก่

1. การปรับตัวในในยุค Industrial Revolution 4.0 ที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งเอสเอ็มอีจะต้องปรับตัวให้ทัน และนำเข้ามาปรับใช้เพื่อลดต้นทุน และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน

2. ร่วมเป็น Supply Chain ใหม่ เนื่องจากความขัดแย้งระหว่างจีนและสหรัฐที่จะรุนแรงขึ้น จะนำมาสู่โอกาสใหม่ของอาเซียน โดยคาดว่าการลงทุนจะไหลเข้าสู่ประเทศในอาเซียนมากขึ้น และเชื่อว่าภายใน5 ปีข้างหน้าอาเซียนจะเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทั้งด้านการลงทุนเศรษฐกิจ และท่องเที่ยว จึงเป็นโอกาสให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตของอาเซียนได้

3. โอกาสจากความเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาคเอเชียและอาเซียน​ที่เพิ่มขึ้น ทำให้ความเจริญขยายสู่หัวเมืองใหญ่ ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีโอกาสในการขายสินค้าและบริการทั้งในและต่างประเทศได้เพิ่มมากขึ้น

4. มาตรการใหม่ของโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป เช่น มาตรการด้านสิ่งแวดล้อม และมาตรการการใช้แรงงาน รวมทั้งมาตรการทางการเงิน ที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจะต้องทำการศึกษาและทำความเข้าใจ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับมาตรการต่างๆ ที่จะเปลี่ยนแปลงไปในอนาคต

​นอกจาก​ความรู้จากสุดยอดผู้บริหารองค์กรชั้นนำแล้ว ภายในงานครั้งนี้ ยังได้มอบรางวัลให้ผู้ประกอบการ​เอสเอ็มอีดาวเด่น 10 ธุรกิจ จากชมรมฯ ที่ได้นำเทคโนโลยี และนวัตกรรม มาประยุกต์ใช้จนประสบความสำเร็จ รวมทั้งให้มีบริการ “คลินิก” ให้คำปรึกษาจากหน่วยงานพันธมิตร มาร่วมออก​บูธภายในงาน เช่น  BOI ให้คำปรึกษาด้านการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ,  บูธ DEPA แนะนำวิธีการเปลี่ยนผ่านธุรกิจไปสู่ยุคดิจิทัล, บูธ NIA ส่งเสริมการปั้นธุรกิจ SME สู่การเป็นองค์กรนวัตกรรมในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม และ บูธ สวทช. สนับสนุนงานวิจัยและพัฒนาเพื่อช่วยแก้ปัญหาให้กับภาคการผลิตและบริการ รวมทั้งยังสามารถขอคำปรึกษาด้านการลงทุนกับบูธธนาคารกรุงเทพ โดยมีอัตราดอกเบี้ยพิเศษ เช่น สินเชื่อ Bualuang Green เป็นต้น เพื่อให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี  รับมือต่อความท้าทายของธุรกิจและเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้  ชมรมบัวหลวงเอสเอ็มอี เป็นหนึ่งแนวทางเพื่อช่วยสนับสนุนพัฒนาผู้ประกอบการ​ธนาคารกรุงเทพ จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2546 จากดำริของ ดร.โฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ อดีตประธานกรรมการบริหาร ที่ต้องการ​สร้างเครือข่ายผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยเริ่มต้นจากการรวมตัวของผู้ประกอบการที่ผ่านการอบรมจากธนาคารและจัดตั้งเป็น “ชมรมบัวหลวงเอสเอ็มอี”  โดยธนาคารได้ให้การสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นศูนย์กลางเครือข่ายทางธุรกิจในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการด้วยกัน รวมทั้งช่วยประชาสัมพันธ์ชมรมฯ ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น เพื่อขยายฐานการสร้างเครือข่ายสมาชิกที่แข็งแรง ส่งเสริมให้เอสเอ็มอีไทยเติบโตอย่างยั่งยืน โดยปัจจุบันมีเครือข่ายสมาชิกเอสเอ็มอีจากทั่วประเทศกว่า 2,000 ราย ภายใต้สโลแกน “สัมพันธ์ดี มีเครือข่าย ได้ความรู้ อุ้มชูธุรกิจ”

Stay Connected
Latest News