KFC Green Store ชูกลยุทธ์ ‘Fast Good Strategy’ ต่อยอดนโยบายยั่งยืนข้ามอุตสาหกรรม จับมือ กฟผ. ตั้งสถานีชาร์จ ‘EleX by EGAT’ สร้างแลนด์มาร์กใหม่คนใช้ EV ​

หลังมุ่งมั่นขับเคลื่อนนโยบายด้านความยั่งยืนผ่าน KFC Green Store ที่เน้นการสร้างความตระหนักและส่งเสริมพฤติกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมผ่านการดำเนินงานภายในร้าน ทั้งจากตัวพนักงาน และลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ

ล่าสุด “เดอะ คิว เอส อาร์ ออฟ เอเชีย” ผู้ดำเนินธุรกิจร้าน KFC ภายใต้กลุ่มธุรกิจอาหารไทยเบฟ ได้สานต่อนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมด้วยการจับมือข้ามอุตสาหกรรมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) เพื่อตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า “EleX by EGAT” ​ที่ร้าน ​KFC Green Store​ แห่งแรกของประเทศไทยที่ สาขาดีโป บาย วนชัย จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อร่วมเติมเต็ม EV Ecosystem ​สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้พลังงานสะอาด พร้อมตอกย้ำภารกิจของ KFC Green Store ที่ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมพฤติกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น เพราะเป็นหนึ่งใน Global Trend ที่กำลังมาแรง

คุณศสัย ตังเดชะหิรัญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะ คิว เอส อาร์ ออฟ เอเชีย จำกัด  เปิดเผยว่า เดอะ คิว เอส อาร์ ออฟ เอเชีย ได้ขับเคลื่อนนโยบายด้านความยั่งยืน โดยยึดทั้งกลยุทธ์ของ KFC ที่มีแนวทางเป็น ‘Fast Good Strategy’ โดยใส่ใจกับทุกภาคส่วนทั้งภายในและภายนอกองค์กร ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า คู่ค้า พนักงาน ชุมชน หรือสังคมโดยรวม เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมและสร้างรากฐานที่แข็งแรงสู่อนาคต เพื่อสร้างความสมดุลในสามส่วน ทั้ง People – Food – and Planet ได้อย่างครอบคลุม ตามหลักการ “Done the right way” ที่ผู้พันแซนเดอร์ได้มุ่งมั่นตั้งแต่จุดเริ่มต้นธุรกิจ

รวมท้ังการยึดถือนโยบายของบริษัทแม่อย่างบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้านความยั่งยืนเพื่อ “สรรสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน” ให้ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งการรักษาสิ่งแวดล้อม การเกื้อหนุนสังคม และการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาล ควบคู่ไปกับการขยายธุรกิจในไทยและในภูมิภาคอาเซียน โดยเป้าหมายหลักที่ทางไทยเบฟ ได้ประกาศไว้คือ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กรสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2583 รวมทั้งการส่งเสริมการคืนน้ำกลับสู่ธรรมชาติให้ได้ทั้ง 100% ตามปริมาณที่นำมาใช้ในธุรกิจ รวมไปถึงความสามารถในการนำบรรจุภัณฑ์กลับมารีไซเคิลได้ทั้ง 100%

ซึ่งระหว่างทางในการขับเคลื่อนเป้าหมายยังได้มีการกำหนดเป้าหมายเพื่อวัดผล เช่น การลดการปล่อย CO2 ลง 50% ภายในปี 2030 จากฐานปี 2019 ​รวทั้งการขับเคลื่อนการนำบรรจุภัณฑ์กลับมารีไซเคิลที่มีความคืบหน้าอย่างมาก โดยเฉพาะกระดาษที่สามารถทำได้ทั้ง 100% แล้ว ขณะที่ขวดแก้วทำได้ 70-80% อลูมิเนียม 40% และพลาสติก 20%

ชู KFC Green Store ร่วมขับเคลื่อนอีโคไลฟ์สไตล์

การเกิดขึ้นของ KFC Green Store สะท้อนการให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืนทั้งของ KFC และไทยเบฟ​ โดยปัจจุบันเปิดให้บริการ 2 แห่ง สาขาแรกคือ ดีโป บาย วนชัย จ.ฉะเชิงเทรา และที่อาคารแสงโสม  ด้วยแนวคิด Zero Waste ที่รณรงค์ลดขยะตั้งแต่ต้นทาง รวมถึงการออกแบบร้าน สร้างและตกแต่งร้านด้วยวัสดุรีไซเคิล และติดตั้ง Solar Rooftop เพื่อช่วยประหยัดการใช้พลังงานไฟฟ้า ผ่านการขับเคลื่อนต่างๆ ต่อไปนี้

– การก่อสร้างและตกแต่งร้านด้วยวัสดุรีไซเคิล โดยเฉพาะการนำกากชา และกากมอลต์ ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักจากผลิตภัณฑ์ในเครือมาทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ ทั้งโต๊ะ เก้าอี้ เพื่อลดการสร้างขยะ และลดการใช้ไม้จริง รวมท้ังเป็นส่วนผสมในการทำเคาน์เตอร์หิน ที่สามารถทดแทนหินธรรมชาติได้ถึง 20%

– การส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด ด้วยการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ภายในร้านช่วยประหยัดการใช้พลังงานไฟฟ้า ซึ่งสามารถลดการใช้พลังงานได้ถึงปีละ13,000 หน่วยต่อปี และลดค่าไฟฟ้าลงได้​ 10-15%

– การส่งเสริมพฤติกรรมที่มีความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งการแยกประเภทขยะก่อนทิ้ง ไม่ว่าจะเป็นขยะอาหาร กระดาษ พลาสติก หรือการลดการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติก ด้วยการเปลี่ยนเป็นบรรจุภัณฑ์กระดาษ และเพิ่มความหนาของถุงพลาสติกเพื่อให้สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ รวมทั้งภายในร้านกรีนสโตร์จะไม่มีช้อนส้อมมีดพลาสติกให้ลูกค้า โดยมีพนักงานคอยช่วยสื่อสารให้ลูกค้าเข้าใจ ซึ่งสามารถลดการใช้พลาสติกได้เฉลี่ยถึงกว่าปีละ 4 หมื่นชิ้น

– รวมทั้งบริการล่าสุด ด้วยสถานีชาร์จ ‘EleX by EGAT’ เพื่อรองรับกลุ่มคนใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นอีกหนึ่ง Global Trend มาแรงและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของร้าน KFC Green Storeในประเทศไทย ที่สาขาดีโป บาย วนชัย จ.ฉะเชิงเทรา ​หนึ่งในเส้นทางหลักที่มีคนเดินทางผ่านจำนวนมาก ทั้งกลุ่มคนทำงาน เพราะอยู่ใกล้กับนิคมอุตสาหกรรม รวมทั้งยังรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยว ที่ต้องการเดินทางไปยังภาคตะวันออกและภาคอีสาน ​โดยสถานีชาร์จแห่งนี้ ประกอบด้วยเครื่องอัดประจุไฟฟ้าแบบเร็ว (DC Fast Charger) ขนาด 125 kW  1 เครื่อง 2 หัวจ่าย รองรับการชาร์จได้พร้อมกัน 2 คัน อัตราค่าบริการ Kwh ละ 7.5 บาท​

ด้าน คุณจิราพร ศิริคำ รองผู้ว่าการธุรกิจเกี่ยวเนื่อง การไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) กล่าวเพิ่มเติมว่า กว่า 3 ปีที่ผ่านมา กฟผ. ขับเคลื่อนและพัฒนาธุรกิจ EV Business Solutions มาอย่างต่อเนื่อง โดยร่วมมือกับทุกภาคส่วนสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานสำหรับสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อเติมเต็ม EV ecosystem ของประเทศไทย ด้วยการนำทักษะความเชี่ยวชาญด้านพลังงานไฟฟ้าของ กฟผ. มาประยุกต์ใช้ในการดำเนินการดังกล่าว เพื่อเสริมความปลอดภัย พร้อมสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้ EV มากยิ่งขึ้น ตั้งเป้าหมายที่จะพัฒนา และขยายการให้บริการสถานีชาร์จ EleX by EGAT ให้ครอบคลุมทุกเส้นทางการเดินทางทั่วประเทศ รวมถึงพัฒนาแอปพลิเคชัน EleXA และระบบบริหารจัดการ BackEN EV เพื่ออำนวยความสะดวกอย่างสูงสุดให้กับผู้ใช้ EV อย่างครบวงจร

“ปัจจุบัน กฟผ. เปิดให้บริการสถานีชาร์จ EleX by EGAT และสถานีพันธมิตรในเครือข่าย EleXA แล้ว 140 สถานี และตั้งเป้าขยายให้ถึง 180 สถานีภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งนอกจากที่ KFC Green Store แห่งนี้ ยังมีสถานีชาร์จที่ร้าน KFC อีก 2 แห่ง ได้แก่ ที่สาขาราชพฤกษ์ และสาขานวมินทร์ 70 กรุงเทพฯ โดยทุกสาขาเปิดให้บริการประชาชน และลูกค้า KFC แล้วตั้งแต่วันนี้ โดยสามารถค้นหาสถานี ดูสถานะการชาร์จ สั่งจ่ายชาร์จ และชำระค่าบริการได้ง่าย ๆ ผ่านแอปพลิเคชัน “EleXA” นอกจากนี้ ยังมีโปรโมชันพิเศษให้กับลูกค้า EleXAได้อิ่มอร่อยกับเมนูไก่ทอด KFC ในราคาพิเศษ ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 31 ธันวาคม 2566”

Stay Connected
Latest News