‘SWAP  Recycling’ จาก ‘มาร์ส เพ็ทแคร์’ คว้าโครงการริเริ่มระดับภูมิภาคด้าน Eco-friendly สร้างระบบนิเวศช่วยจัดการขยะบรรจุภัณฑ์พลาสติกวิบวับ

การเติบโตของเทรนด์ Pet Humanization ที่สัตว์เลี้ยงมีความสำคัญ​ไม่ต่างจากสมาชิกในครอบครัว ส่งผลให้ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงในประเทศไทยช่วง 5 ปีที่ผ่านมาเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังเป็นฐานการผลิตและผู้นำการส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงอันดับ 3 ของโลก รองจากประเทศเยอรมนี และสหรัฐอเมริกา เพราะอาหารสัตว์เลี้ยงไทยมีคุณภาพ และได้มาตรฐานที่ปลอดภัยเป็นที่ยอมรับของผู้เลี้ยงสัตว์

ด้านผู้ประกอบการเองก็ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทั้งพัฒนาสูตรอาหารสัตว์ และการมีขนาดบรรจุภัณฑ์ที่หลากหลาย เพื่อเป็นทางเลือกและรองรับการขยายตัวของตลาด แต่ในขณะเดียวกันก็ส่งผลให้ปริมาณขยะพลาสติกจากซองบรรจุภัณฑ์เหล่านี้เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย

ซึ่งเป็นที่รับรู้กันว่าซองบรรจุภัณฑ์เหล่านี้จัดอยู่ในกลุ่มบรรจุภัณฑ์พลาสติกหลายชั้น (Multilayer Plastic) หรือพลาสติกวิบวับ ซึ่งรีไซเคิลได้ค่อนข้างยาก ทำให้ไม่เป็นที่นิยมในการนำไปรีไซเคิล หรือบางคนก็ไม่ทราบว่าสามารถรีไซเคิลได้ ซองส่วนใหญ่จึงมักถูกทิ้งสู่หลุมฝังกลบ และมักจะหลุดรอดและตกค้างอยู่ในธรรมชาติเป็นจำนวนมาก

บริษัท มาร์ส เพ็ทแคร์ (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะผู้นำธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง ภายใต้แบรนด์ต่างๆ อาทิ เพดดิกรี (PEDIGREE) วิสกัส (WHISKAS)  ชีบา (SHEBA) ซีซาร์ (SHEBA) ไอแอมส์ (IAMS) เทมเทชันส์ (Temptations) รวมทั้งทรายอนามัยสำหรับแมว แคทแซน (CATSAN) และยังเป็นผู้ผลิตแบรนด์อาหารสัตว์ต่างๆ อีกเกือบ 50 แบรนด์ สำหรับทำตลาดในอีกกว่า 130 ประเทศทั่วโลก ผ่าน​วิสัยทัศน์ “A Better World for Pets” เพื่อสร้างสรรค์โลกที่ดีกว่าสำหรับสัตว์เลี้ยง และมี​เป้าหมายสำคัญในการ​ขับเคลื่อน​ธุรกิจตามแนวทาง​ความยั่งยืน เพื่อพัฒนาให้ธุรกิจ​มีส่วนช่วย​ลดผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

โดยเฉพาะการดำเนินนโยบาย EPR (Extended Producer Responsibility) ด้วยการรับผิดชอบการเก็บกลับบรรจุภัณฑ์ซองบรรจุอาหารสัตว์ต่างๆ ในฐานะผู้ผลิต เพื่อนำกลับเข้าสู่ระบบ​​รีไซเคิลเพื่อสร้างให้เกิดประโยชน์และป้องกันการเกิดเป็นขยะพลาสติกที่ตกค้างอยู่ในสิ่งแวดล้อม ผ่านการริเริ่มโครงการ “แลกแล้ว-ลดเลย” (SWAP  Recycling) ที่เปิดโอกาสให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงมีส่วนร่วมลดปริมาณขยะพลาสติก และเพิ่มปริมาณการเก็บกลับบรรจุภัณฑ์พลาสติกใช้แล้วเพื่อนำไปรีไซเคิล โดยเฉพาะการ​ช่วยสร้างการรับรู้และสร้างการมีส่วนร่วมในการเพิ่มปริมาณการรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์พลาสติกหลายชั้น หรือพลาสติกวิบวับเหล่านี้ให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น

โดยได้ทำการรับคืนซองบรรจุภัณฑ์อาหารสัตว์โดยไม่จำกัดแบรนด์ ซึ่งลูกค้าสามารถนำซอง​บรรจุภัณฑ์อาหารสุนัขและแมวมาแลกรับส่วนลดในการซื้ออาหารสัตว์เลี้ยงแบรนด์ต่างๆ ของบริษัทได้  ซึ่งได้ดำเนินการต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 2 และได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี โดยในปีล่าสุด มีเจ้าของสัตว์เลี้ยงกว่า 107,000 คน และร้านค้า 174 แห่งทั่วประเทศ เข้าร่วมโครงการ พร้อมทั้งสามารถเรียกคืนบรรจุภัณฑ์เพื่อช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกลงได้มากกว่า 7 ตัน

พร้อมทั้งได้ส่งต่อ​ขยะบรรจุภัณฑ์เหล่านี้ไปยังโรงงานรีไซเคิล เพื่อต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างประโยชน์ได้ใหม่​และช่วย​ลดปริมาณขยะพลาสติก​ ด้วยการนำไปแปรรูปเป็นบล็อกปูพื้นรูปแมว บล็อกปูพื้นรูปอุ้งเท้าสุนัข และม้านั่งรูปกระดูก ซึ่งได้นำไปส่งมอบให้​กรุงเทพมหานคร สำหรับนำไปปรับปรุงภูมิทัศน์​สวนสาธารณะเพื่อสุนัขของ กทม. หรือ “BMA Dog Park” และสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่คืนความสุขสู่สังคม พร้อมยกระดับสวนสาธารณะสู่การเป็น Pet friendly เพื่อตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตของผู้คนปัจจุบันที่นิยมเลี้ยงสัตว์เป็นอีกหนึ่งสมาชืกในครอบครัว รวมทั้งมีส่วนช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้แบบยั่งยืน

ล่าสุด โครงการ “แลกแล้ว-ลดเลย” ยังสามารถคว้ารางวัลระดับภูมิภาคในฐานะโครงการริเริ่มที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือ The Eco-friendly Initiative of the Year – Thailand Award จากเวที FMCG Asia Awards 2023 ที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งถือเป็นเวทีใหญ่ของ​ภูมิภาค ที่บริษัทต่างๆ ในเอเซีย ต่างส่งผลงานด้านความยั่งยืนเข้าร่วมประกวด ​

นอกจากนี้ ยังได้เดินหน้าร่วมลงนามกับ 6 พันธมิตรคู่ค้าข้าวโพดและข้าว ในจังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดลพบุรี ในโครงการ  “Climate Actions For A Better Tomorrow” เพื่อเป็นต้นแบบ​การดำเนินโครงการเกษตรกรรมฟื้นฟู (Regenerative Agriculture) สำหรับข้าวโพดและข้าว ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญของการผลิตอาหารเลี้ยงสัตว์ เพื่อพัฒนากระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำให้ลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก และสามารถช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศและความอุดมสมบูรณ์ของดิน ควบคู่ไปกับการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้กับเกษตรกรได้ในระยะยาวด้วย

คุณปิยรัฐ อมรฉัตร ผู้อำนวยการด้านการจัดซื้อ ภูมิภาคเอเชีย บริษัท มาร์ส เพ็ทแคร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์​​ตามแนวทาง​ความยั่งยืน ​ทั้งการใช้วัสดุที่​เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในการผลิตบรรจุภัณฑ์ การซื้อวัตถุดิบที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการสร้างนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความสำคัญกับการ​พัฒนาการวิจัยระดับโลกเกี่ยวกับความท้าทายด้านความปลอดภัยของอาหาร  พร้อมทั้งได้​จัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์เลี้ยงในภูมิภาคเอเชีย หรือ APAC Pet Center แห่งแรกในเอเชีย ที่จังหวัดชลบุรี เพื่อ​ช่วยเก็บข้อมูลคุณภาพเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมการกินของสุนัขและแมว เพื่อนำมาใช้​​พัฒนาคุณภาพอาหารสัตว์เลี้ยง สร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการด้านโภชนาการและรสชาติที่สุนัขและแมวชื่นชอบได้มากขึ้น

“วิธีดำเนินธุรกิจของเราในวันนี้ จะส่งผลต่อโลกในแบบที่เราอยากให้เป็นในวันพรุ่งนี้ บริษัทจึงให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนแผนการสร้างความยั่งยืน เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทมีส่วนในการขับเคลื่อนให้เกิดผลกระทบเชิงบวกต่อโลกและสังคมได้ เพื่อนำมาซึ่งสุขภาพที่ดีของโลก รวมทั้งคุณภาพชีวิตที่ดีทั้งของผู้คนและสัตว์เลี้ยง และสร้างให้เกิดสังคมแห่งการมีส่วนร่วมเพิ่มมากขึ้น”​ ​

Stay Connected
Latest News