‘กรุงศรี’ นำร่อง ‘เงินฝากเพื่อความยั่งยืน’ ​รายแรกของธนาคารพาณิชย์ไทย ​’โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย)’ ประเดิมเปิดบัญชีรายแรก

กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) เปิดตัวผลิตภัณฑ์เงินฝากเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Deposit) บัญชีเงินฝากประจำเพื่อใช้สนับสนุนทางการเงินให้กับโครงการธุรกิจเพื่อสังคมและความยั่งยืน (Social and Sustainable Finance) ถือเป็นธนาคารพาณิชย์ไทยแห่งแรกที่ริเริ่มและนำผลิตภัณฑ์ดังกล่าวออกสู่ตลาดการเงินในประเทศไทย

และได้รับความไว้วางใจจาก โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) ในฐานะบริษัทแรกในประเทศไทยที่ให้การสนับสนุนผลิตภัณฑ์เงินฝากเพื่อความยั่งยืนดังกล่าว สะท้อนปณิธานในการเป็นธนาคารพาณิชย์เพื่อความยั่งยืน และยังตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าธุรกิจที่มีความมุ่งมั่นในการมีส่วนร่วมขับเคลื่อนโครงการด้านความยั่งยืนในประเทศไทยอีกด้วย

มร.บุนเซอิ โอคุโบะ ประธานกลุ่มธุรกิจธนกิจพาณิชย์เกี่ยวกับญี่ปุ่นและบรรษัทข้ามชาติ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “แนวคิด ESG กำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วยเช่นกัน กรุงศรี ในฐานะสถาบันการเงินชั้นนำในประเทศไทยที่ให้ความสำคัญอย่างยิ่งในด้านความยั่งยืน โดยวางเป้าหมายในการเป็นธนาคารชั้นนำแห่งภูมิภาคเพื่อความยั่งยืน ธนาคารได้ริเริ่มและปล่อยผลิตภัณฑ์ที่มีความเชี่อมโยงด้าน ESG ใหม่ๆ ออกสู่ตลาดในประเทศไทยมาโดยตลอดอย่างต่อเนื่อง  และล่าสุดผลิตภัณฑ์เงินฝากเพื่อความยั่งยืนนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องพิสูจน์ถึงความเป็นมุ่งมั่นของธนาคาร ที่สำคัญเรารู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ โตโยต้า ลีสซิ่ง ให้การสนับสนุนผลิตภัณฑ์เงินฝากดังกล่าวเป็นรายแรก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกลไก ในการสนับสนุนทางการเงินให้แก่โครงการธุรกิจเพื่อสังคมและความยั่งยืน ที่ธนาคารตั้งเป้าเพิ่มการสนับสนุนเงินให้แก่โครงการธุรกิจเพื่อสังคมและความยั่งยืนจำนวน 100,000 ล้านบาท ภายในปี 2573”

ผลิตภัณฑ์เงินฝากเพื่อความยั่งยืน เป็นบัญชีเงินฝากประจำสกุลเงินไทยบาท สำหรับลูกค้าธุรกิจ โดยมียอดขั้นต่ำที่ 50 ล้านบาท และมีการระบุวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน สำหรับสนับสนุนโครงการธุรกิจเพื่อสังคมและความยั่งยืน (Social and Sustainable Finance) ของกรุงศรี อาทิ สินเชื่อเพื่อสังคม เพื่อใช้ในโครงการสนับสนุนการสร้างโรงเรียน โรงพยาบาล หรือสินเชื่อสีเขียว เพื่อใช้ในโครงการที่สนับสนุนด้านพลังงานสะอาด

คุณชื่นกมล ทัพพะรังสี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เราไม่เพียงแค่มุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจเพื่อผลประกอบการ เรายังตระหนักถึงสังคมและโลกใบนี้ เรามีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาปรับปรุงการดำเนินงานต่างๆ  เพื่อให้สอดคล้องตามแนวทางของ ESG Principles: Environmental, Social, Governance  ด้วย Corporate Sustainable Development Goals และดำรงไว้ซึ่งเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจ  เพื่อไปสู่การสร้างอนาคตที่ยั่งยืน”

จากนี้ไปบนเส้นทางที่มีแรงสนับสนุนจากทุกภาคส่วน และจากทุกๆ ท่าน รวมถึงธนาคารกรุงศรีอยุธยา  เราจะก้าวไปอย่างมั่นคง พร้อมขับเคลื่อนอนาคตไปสู่เป้าหมายที่ยั่งยืนด้วยกัน ในนามของ โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) เรามีความภาคภูมิใจ ที่ได้เป็นบริษัทรายแรก ในการมีส่วนร่วมกับการระดมเงินทุน เพื่อสนับสนุนโครงการฝากเงินเพื่อความยั่งยืนของธนาคารกรุงศรีในปี 2567 นี้

นอกจาก โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) เป็นบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นรายแรกที่ให้การสนับสนุนผลิตภัณฑ์เงินฝากเพื่อความยั่งยืนในประเทศไทยแล้ว ยังเป็นบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นรายแรกที่รับการสนับสนุนสินเชื่อสีเขียว (Green Loan) และออกหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) โดยผสานความร่วมมือกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ในการนำเสนอออกสู่ตลาด ตั้งแต่ปี 2564 อีกด้วย

ก่อนหน้านี้ กรุงศรีได้กำหนดวิสัยทัศน์สู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Krungsri Carbon Neutrality Vision)  สอดคล้องกับการประกาศเป้าหมายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนของ MUFG (Carbon Neutrality Declaration) โดยทั้งสององค์กรได้วางแนวทางและเป้าหมายในเรื่องดังกล่าวร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมทั้งส่งมอบความรู้ ความเชี่ยวชาญ รวมทั้งการดำเนินงานภายใต้ Global Standard อย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมา MUFG ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์เงินฝากสีเขียว (Green Deposit Product) ให้กับลูกค้าหลายแห่งในภูมิภาคเอเชียโอเชียเนีย และได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นจำนวนมาก

ทำความรู้จักเงินฝากสีเขียว

ด้านวิจัยกรุงศรี อธิบายเพิ่มเติมว่า ​เงินฝากสีเขียว หรือ Green Deposits แตกต่างจากเงินฝากประจำทั่วไป ตรงที่จะต้องถูกนำไปใช้ในการสนับสนุนการลงทุนแก่ธุรกิจหรือโครงการที่มีผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม เช่น โครงการพลังงานทดแทน เกษตรกรรมยั่งยืน หรือโครงการที่มุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีสะอาด ​ซึ่ง​นอกจากลูกค้าจะได้รับผลตอบแทนจากการฝากเงินแล้ว ยังมีส่วนร่วมในการสนับสนุนกิจกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทางอ้อมอีกด้วย

ทั้งนี้ แต่ละธนาคารจะมีการคัดเลือกธุรกิจหรือโครงการภายใต้กรอบเงินฝากสีเขียวที่ตนกำหนด หรืออาจกล่าวโดยสรุปได้ว่า แหล่งที่มาของเงินฝากสีเขียวไม่ได้แตกต่างจากเงินฝากอื่นๆ ​แต่ความต่างเกิดจากการนำเงินไปใช้ในโครงการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม​ จึงเห็นได้ว่าเงินฝากสีเขียวเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินประเภทหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมให้ธนาคารพาณิชย์ดำเนินกิจการอย่างยั่งยืนผ่านการปล่อยสินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม

สำหรับประเทศไทย เงินฝากสีเขียวถือป็นเรื่องใหม่ที่น่าติดตามว่าจะสามารถเติบโตและได้รับความนิยมในตลาดการเงินหรือไม่ หลังจากตลาด ‘การเงินสีเขียว’ ​เริ่มเกิดขึ้นในประเทศไทยมาได้ราว 5 ปี และมีกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น 3 ประเภท ได้แก่ ตราสารหนี้สีเขียว (Green Bonds)  ตราสารทุนสีเขียว (Green Equity) และสินเชื่อสีเขียว (Green Loans)

ขณะที่ Green Deposit มีธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เป็นธนาคารพาณิชย์ไทยแห่งแรกที่นำเสนอผลิตภัณฑ์เงินฝากสีเขียวให้กับกลุ่มลูกค้านิติบุคคลภายใต้ชื่อ Sustainable Deposits​​ โดยโอกาสในการขยายตัวมาจากความตื่นตัวในการขับเคลื่อนนโยบายลดโลกร้อน ทำให้ผู้ประกอบการที่ใส่ใจเรื่องความยั่งยืนและต้องการสนับสนุนกิจกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการขยายตัวของตลาดคาร์บอนเครดิต รวมทั้งเครื่องมือทางการเงินเพื่อสิ่งแวดล้อมอื่นๆ นอกจากนี้ ในอนาคต การฝากเงินสีเขียวยังอาจช่วยให้องค์กรลดการปล่อยคาร์บอนทางอ้อม หรือ Scope 3 ​ได้ด้วย

Stay Connected
Latest News