Top StoriesTrending

SX2025​ พร้อมขับเคลื่อน​ รวมไอเดียและโซลูชั่น ‘Adaptation &  Collaboration’ สร้างความร่วมมือ พร้อม​ปรับตัวเพื่อรอด​ในยุค Polycrisis

ประกาศความพร้อมจัดงาน SX2025 ​​มหกรรมด้านความยั่งยืน​​ครั้งล่าสุด โดยปีนี้มาพร้อมธีม 'Adaptation & Collaboration' เพื่อชวน​ปรับตัวและร่วมมือ สร้างทางรอดในวิกฤตโลกรวน รวมทั้งยกระดับการขับเคลื่อนเรื่องความยั่งยืนให้สอดคล้องกับบริบทของโลกได้มากขึ้น

ขับเคลื่อน เข้าสู่ปีที่ 6 แล้ว สำหรับมหกรรมด้านความยั่งยืนระดับภูมิภาคอย่าง​ Sustainability Expo 2025 (SX2025) มหกรรมด้านความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน  โดยปีนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 กันยายน ถึงวันที่ 5 ตุลาคม 2568  ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์​

คุณต้องใจ ธนะชานันท์ ผู้อำนวยการคณะจัดงาน Sustainability Expo 2025 (SX 2025) กล่าววว่า การจัดงานในปีนี้ ยังคงจัดขึ้นภายใต้แนวคิดหลัก ‘พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก’ พร้อมธีมขับเคลื่อนสำหรับ​ปีนี้คือ  ‘Adaptation &  Collaboration’ เพื่อชวนมาปรับตัว และร่วมมือ สู่ทางรอดในวิกฤตโลกรวน  รวมทั้งเป็นการยกระดับการขับเคลื่อนเรื่องความยั่งยืน ให้สอดคล้องกับบริบทของโลกได้มากขึ้น เนื่องจาก​ปัจจุบันโลกอยู่ในยุค Polycrisis ที่ต้องเผชิญหลากหลายวิกฤตพร้อมกัน

ไม่ว่าจะเป็นทั้งวิกฤตจากเศรษฐกิจโลก ปัญหาการเมืองระหว่างประเทศ  การถูกดิสรัปจากเทคโนโลยีต่างๆ รวมทั้งปัญหาสภาพภูมิอากาศ ซึ่งปัจจุบันเลยจุดของการหยุดยั้งไม่ให้อุณหภูมิโลกสูงเกินกว่า 1.5 องศาไปแล้ว ดังนั้น การขับเคลื่อนเรื่องความยั่งยืน ต้องมองภาพในระยะยาวไปข้างหน้า  มากกว่าแค่การรับมือ แต่ต้องมองแบบ Next Step ไปสู่การปรับตัว ภายใต้การรักษาความร่วมมือของทุกภาคส่วนเพื่อขับเคลื่อในเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งยังสามารถรักษาการ​เติบโต​อย่างยั่งยืนเอาไว้ให้ได้

“จากนี้การปรับตัวจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกมิติ  ทั้งในมิติด้านสิ่งแวดล้อม ที่โลกจะมีเอฟเฟ็กต์จากอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้น ส่งผลให้น้ำแข็งขั่วโลกละลายเร็วขึ้น ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น เช่น พื้นที่เกษตรบางส่วนหายไป ทำให้ต้องมองเรื่องของการออกแบบผังเมืองใหม่ให้เหมาะสมได้มากยิ่งขึ้น หรือในมิติสังคม ที่ประชากรโลกจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ วัยแรงงานน้อยลง ภาครัฐต้องเริ่มให้ความสำคัญกับการดูแลคุณภาพชีวิต หรือการรักษาพยาบาลในกลุ่มคนสูงวัย รวมท้ังการปรับนโยบายในเรื่องของภาษีเพื่อสามารถดูแลได้ดีมากขึ้น หรือแม้แต่ภาคเอกชน สามารถเพิ่มโอกาสจากธุรกิจบริการใหม่ๆ  หรือการพัฒนาอุตสาหกรรมต่อเนื่องอื่นๆ เพื่อเพิ่มโครงสร้างพื้นฐานเข้ามารองรับได้อย่างครอบคลุม ทั้งธุรกิจ​ดูแลผู้สูงอายุ ห​รือธุรกิจอาหาร  รวมทั้งเรื่องของการพัฒนาเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ามากขึ้น ทำให้โลกในอนาคตจะเป็นการอยู่ร่วมกันของทั้งมนุษย์และหุ่นยนต์ ซึ่งเทคโนโลยีต่างๆ จะเป็นสิ่งที่ต้องอยู่ติดตัวจนกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของ​มนุษย์ และกลายเป็นทั้งโอกาสและความเสี่ยง ทั้งการเข้ามาช่วยเพิ่ม Productivity รวมทั้งคุณภาพชีวิตที่ดีให้มนุษย์​ แต่ขณะเดียวกันก็สามารถเข้ามาทดแทนและดิสรัปการทำงานของมนุษย์ได้เช่นกัน รวมไปถึงการใช้ชีวิต  ด้วยความ​​รู้ทันต่อความเสี่ยงจากเทคโนโลยี หรือ Cyber Security ต่างๆ  ดังนั้น ‘การปรับตัว’ จึงถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะสร้างให้เกิดการ​เติบโตอย่างยั่งยืน​จากนี้ไป”

ขณะที่การตอบรับของงานในปีนี้ และตลอดทั้ง 5 ปีที่ได้ขับเคลื่อนงาน Sustainability Expo (SX) มาอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นความมุ่งมั่นจากทุกภาคส่วนของไทย ทั้งภาครัฐ หรือเอกชน ที่ยังให้ความสำคัญในวาระ ด้าน ‘ความยั่งยืน’  แม้จะอยู่ท่ามกลางความท้าทาย และผันผวนจากหลายวิกฤต โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจรายใหญ่ที่ยังมองเรื่องนี้เป็น Priority แม้ว่าอาจจะมีการชะลอการลงทุนในโครงการใหม่ๆ ลงบ้าง แต่ยังคงมีการขับเคลื่อนในภาพรวม และไม่มีใครที่หันหลังกลับ ซึ่งประเทศไทยถือว่ามีความล้ำหน้าและเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนความยั่งยืนในภูมิภาคเอเชีย สะท้อนจากจำนวนธุรกิจของไทย  ที่อยู่ในทำเนียบ DJSI มากกว่าหลายประเทศในภูมิภาค

ประกอบกับความสามารถในการปักหมุดของงาน SX ที่กลายเป็นวาระสำคัญที่​คนในแวดวงด้านความยั่งยืนต้องการเข้ามามีส่วนร่วมมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้ง​องค์กรและเครือข่ายทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ  รวมทั้งผู้เข้าชมงาน โดยตลอด 5 ปีที่ผ่านมา มีคนเข้ามาเรียนรู้เรื่องความยั่งยืนในงานมากกว่า 1.2 ล้านคน โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ อายุระหว่าง 18-35 ปี​ ที่มีจำนวนเกือบ 7.5 แสนคน พร้อมทั้งสามารถสร้างรายได้ให้ชุมชนและผู้ประกอบการรายย่อยได้มากกว่า 115 ล้านบาท ขณะที่ในปีนี้ คาดว่าจะมีคนเข้าร่วมงานทั้งออฟไลน์และ​ออนไลน์เพิ่มขึ้นราว 20% หรือกว่า  9 แสนคน จากปีก่อนหน้าที่มีคนร่วมงานจากทุกช่องทางรวมกว่า 7.7 แสนคน

การจัดงาน SX ทุกปี ยังให้ความสำคัญต่อผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งการจัดงานให้เป็นมีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral ) รวมทั้งการส่งเสริมการลดปริมาณขยะ โดยใช้วัสดุหมุนเวียนและรีไซเคิลให้มากที่สุด ทั้งการแยกขยะภายในงาน และนำขยะแต่ละประเทศไปบริหารจัดการอย่างถูกวิธี ทั้งการส่งทำปุ๋ย หรือแยก​เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล และลดให้มีการใช้ปริมาณวัสดุสิ้นเปลืองให้น้อยที่สุด ทำให้งาน SX สามารถ​เป็นเป็นหนึ่งในต้นแบบ ที่ประเทศต่างๆ ​เข้ามาศึกษาดูงานในฐานะจุดหมายของงาน Circular Expo และประสบความสำเร็จในสเกลระดับภูมิภาค

​ส่องความพิเศษภายในงาน SX2025

หนึ่งความพิเศษในปีนี้ คือการที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการแข่งขัน Enactus World Cup 2025 Presented by ThaiBev ที่จัดขึ้นเป็นปีที่ 50 กับนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืน ผ่านพลังของคนรุ่นใหม่ไปสู่การลงมือทำของผู้ประกอบการรุ่นเยาว์ที่จะส่งผลกระทบในระดับโลก เรียกว่าเป็นเวทีการแข่งขันระดับนานาชาติที่รวบรวมสุดยอดทีมเยาวชนกว่า 32 ประเทศ จากทั่วโลกที่จะมีเพียงหนึ่งทีมที่จะได้รับการประกาศเป็นแชมป์ Enactus World Cup 2025 ที่จัดขึ้นโดยมูลนิธิรากแก้วร่วมกับ Enactus ประเทศไทย โดยมี บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้สนับสนุนหลัก

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นการลงมือปฏิบัติจริงผ่าน SX IDEALAB พื้นที่ Workshop โดยผู้เชี่ยวชาญ  ที่ผู้เข้าร่วมสามารถเรียนรู้ ลงมือทำ และนำมาประยุกต์ปรับใช้ในชีวิตจริง อาทิ การนำของที่ไม่ใช้แล้วมาเพิ่มมูลค่า การเรียนรู้การแยกขยะผ่านบอร์ดเกม ซึ่งตลอดทั้ง 10 วัน ของงาน SX2025 คุณจะได้ร่วมสนุก และตื่นตา ตื่นใจไปพร้อมกับการเรียนรู้ที่จะปรับตัวได้แบบง่าย ๆ เพื่อความอยู่รอดในยุคโลกรวนผ่านกิจกรรมอีกมายในแต่ละโซน ดังนี้

1) โซน SEP INSPIRATION พบองค์กรต้นแบบด้านความยั่งยืนที่น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาประยุกต์ใช้จนประสบความสำเร็จ อาทิ มูลนิธิชัยพัฒนา มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง และนิทรรศการ Immersive Experience ที่ร่วมกับ National Geographic Global สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของโลก และผลกระทบที่มีต่อมวลมนุษยชาติสู่ทางออกของการอยู่รอด ที่เป็น Landmark เช็คยอดฮิตที่ทุกคนต้องไม่พลาดด้านหน้า Prologue

2) โซน BETTER ME พบนวัตกรรมด้านสุขภาพให้คุณรู้ลึกรู้จริงเรื่อง Personalized Medicine อาหารเพื่อการฟื้นฟู การพักผ่อนที่เหมาะสมของแต่ละคน เพราะการมีสุขภาพดี ชีวิตยืนยาวคือการปรับตัวที่เริ่มต้นได้ที่ตัวเราที่จะเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต รวมไปถึงเคล็ดไม่ลับการวางแผนทางการเงินพร้อมรับมือวัยเกษียน

3) โซน BETTER LIVING พบนวัตกรรมด้านการอยู่อาศัยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ให้คุณได้เรียนรู้ และปรับตัวให้ทันต่อสภาพแวดล้อมบนโลกนี้ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว สัมผัสกับ 4D Theatre ห้องจำลองภัยพิบัติที่เราต้องเผชิญ พร้อมเรียนรู้เทคโนโลยี การฝึกหนีภัย น้ำท่วมฉับพลัน คลื่นความร้อน ฯลฯ และการเตรียมตัวเพื่อรับมือสู่ทางรอดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ

4) โซน BETTER COMMUNITY พบสังคมจำลองที่จะชวนคุณมาสำรวจบทบาทของจิตอาสาผ่านโมเดลธุรกิจ หรือการรวมกลุ่มอาสาสมัครเพื่อรับมือกับวิกฤติต่าง ๆ ตั้งแต่ภัยพิบัติ การดูแลผู้สูงวัย และภารกิจช่วยเหลือสังคมด้านต่าง ๆ เพราะเชื่อว่าการปรับตัวของเมืองด้วยพลังของคนอาสาจะนำไปสู่เมืองที่ยั่งยืนแห่งอนาคต

5) โซน Better World ที่จะชวนคุณมาฮีลใจไปกับนิทรรศการศิลปะที่สร้างค่าสู่สมดุลโลกที่หลากหลาย สะท้อนมุมมองปัญหา การปรับตัว และการอยู่รอดอย่างยั่งยืนในด้านสิ่งแวดล้อม และสังคม อาทิ ภาพถ่าย จิตรกรรม ประติมากรรม ผลงานศิลปะนานาชาติจากศิลปิน BAB ก่อนจะแวะมาบันทึกภาพที่ห้องภาพฉายานิติกร

6) โซน SX Food Festival เทศกาลอาหารที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปีที่ทุกคนรอคอยที่จะชวนให้ทุกคนมา “กินเพื่อรักษ์โลก” พร้อมร่วมเปลี่ยนแปลงโภชนาการง่ายๆ เพื่อสุขภาพ ไปกับเชฟคนดัง และร้านอาหารในตำนานมาให้คุณได้อิ่ม และฟินใจไปพร้อมกับการเช็คอินภาพสวยๆ ท่ามกลางบรรยากาศของแลนด์มาร์คเมืองยอดฮิตจากทั่วมุมโลกที่ยกมาไว้ที่นี่ที่เดียว

7) โซน Kids Zone มาร่วมปลูกเมล็ดพันธุ์แห่งอนาคตด้วยนิทรรศการ และกิจกรรม “ผ่านการเล่น-ทดลอง-เรียนรู้” ให้เด็ก ๆ ได้ตื่นตา ตื่นใจไปกิจกรรมความสนุก และความรู้ต่าง ๆ ที่เสริมสร้างจิตนาการ ให้น้องๆ ได้ปรับตัว เปลี่ยนแปลง เพื่อโลกไปพร้อมกับสัตว์โลก และสิ่งแวดล้อมรอบตัวผ่านนิทรรศการ ‘Adaptation Adventures’

8) โซน SX MARKETPLACE ให้คุณเพลิดเพลินไปกับตลาดนัดสร้างสรรค์สินค้ายั่งยืน จากผู้ประกอบการตัวจริง ท่ามกลางบรรยากาศสวนกลางเมืองเอาใจสายกรีน สายคราฟ และสายช้อปผลิตภัณฑ์รักษ์โลกสุดว๊าวจากกว่า 217 ร้านค้า

9) SX REPARTMENTSTORE ที่จะชวนคุณมารวมแบ่งปันของนอกสายตา..ทิ้งแบบไหนดีต่อโลกเพื่อมอบคุณค่าให้แก่สังคม พร้อมเลือกซื้อสินค้ามือสองคุณภาพดีนำรายได้มอบให้การกุศล

10) งานสัมมนา และเครือข่ายธุรกิจเพื่อความยั่งยืน (B2B) เจาะลึกแนวทางธุรกิจยั่งยืนที่จะสร้างความเชื่อมโยง และพลังความร่วมมือทุกภาคส่วนทั้งในระดับประเทศ และระดับโลก เพื่อค้นหาคำตอบ และทางรอดให้กับสังคม และสิ่งแวดล้อมในยุคโลกรวน

สำหรับงาน Sustainability Expo 2025 (SX2025) ตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน- วันที่ 5 ตุลาคม 2568 เวลา 10.00-20.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) งานเดียวที่คุณจะได้อัพเดทเทรนด์ด้านความยั่งยืนทุกมิติ เพื่อก้าวตามให้ทันกับโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว พบกับคำตอบของการปรับตัวอย่างชาญฉลาดที่เริ่มต้น และลงมือทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวคุณ เพราะการปรับตัวไม่ใช่แค่การอยู่รอด แต่คือการสร้างทางรอดที่มีความสมดุลบนโลกใบนี้ได้ยั่งยืนอย่างแท้จริ