ในฐานะผู้นำธุรกิจเคมีภัณฑ์ระดับสากล ที่มีความมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมทั้งพลาสติกและเคมีภัณฑ์เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่ผู้คน ภายใต้กรอบ ESG ด้วยการคำนึงถึงดุลยภาพของสิ่งแวดล้อม (Environment) สังคม (Social) และบรรษัทภิบาลและเศรษฐกิจ (Governance & Economic)
พร้อมส่งเสริมการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ความต้องการของโลกอนาคต ควบคู่ไปกับการดูแลผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน
ทำให้ทุกการขับเคลื่อนที่ผ่านมาของ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จํากัด (มหาชน) หรือ GC ให้ความสำคัญในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ที่มุ่งสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจ ควบคู่ไปกับการแสดงความรับผิดชอบทั้งต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมมา เพื่อมุ่งสู่การเป็นองค์กรคาร์บอนต่ำ และบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ได้ตามเป้าหมาย ภายในปี 2593
ที่ผ่านมา GC ได้รับรองการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่อง จากสถาบันทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยเป็นบริษัทหนึ่งเดียวในโลก ที่ได้รับการจัดอันดับจากดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices: DJSI) ให้เป็นที่ 1 ในกลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์ ด้วยคะแนนสูงสุด 6 ปีต่อเนื่อง โดย S&P Global รวมถึงได้รับการจัดอันดับให้เป็นผู้นำระดับ A ด้านการบริหารจัดการน้ำ ติดต่อกัน 5 ปี ซ้อน (ปี พ.ศ. 2563-2567) และระดับ B ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จาก CDP
ล่าสุด GC ยังได้รับรางวัล ‘Climate Action Excellence‘ จากเวที Climate Change Awards 2025 โดยสถาบันการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change Institute: CCI) ภายใต้สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่ง รางวัลนี้ถือเป็นรางวัลสูงสุดที่มอบให้องค์กรที่เป็นแบบอย่างในการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Action) สะท้อนถึงความมุ่งมั่นร่วมกันของภาคอุตสาหกรรมไทยในการขับเคลื่อนสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero)
รางวัล ‘Climate Action Excellence’ นี้มีเกณฑ์การพิจารณาที่ครอบคลุมทั้งด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) และการดำเนินงานเชิงระบบในมิติต่างๆ ได้แก่ การสร้างองค์ความรู้ด้าน Climate Action ทั้งภายในองค์กรและสังคม การพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้สามารถขับเคลื่อนเป้าหมาย Net Zero ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการขยายผลโครงการและแนวทางปฏิบัติที่ดี (Best Practices) ไปยังพันธมิตรในห่วงโซ่ธุรกิจและชุมชน
การได้รับรางวัลนี้ จึงสะท้อนความมุ่งมั่นของ GC ในการพัฒนาทั้งผลิตภัณฑ์ นวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อมีส่วนช่วยแก้ปัญหาวิกฤตสภาพอากาศอย่างจริงจัง พร้อมบูรณาการสู่การดำเนินโครงการด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง อาทิ
– เส้นทาง Net Zero Pathway : GC วางกลยุทธ์ Decarbonization Pathway ครอบคลุม 3 แนวทาง ได้แก่ Efficiency-driven, Portfolio-driven, Compensation-driven ซึ่งได้บูรณาการการขับเคลื่อนกลยุทธ์เข้าสู่การดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2593
– การใช้พลังงานหมุนเวียนและเทคโนโลยีใหม่ : ลงทุนในพลังงานสะอาด อาทิ การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ทั้ง Solar Rooftop และ Floating Solar รวมถึงศึกษาการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon Capture and Storage: CCS) ร่วมกับกลุ่ม ปตท.
– การพัฒนาบุคลากรและองค์ความรู้ : จัดอบรมและสร้างความรู้ด้าน Climate Change ให้กับพนักงานทุกระดับผ่าน e-learning และโครงการ Decarbonization Sharing รวมทั้งพัฒนาทีมผู้เชี่ยวชาญด้าน Climate Change โดยเฉพาะ
– การประเมินและรายงานที่โปร่งใส อาทิ การจัดทำ GHG accounting ครอบคลุม Scope 1–3 โดยมีการตรวจสอบจากบุคคลที่สามตามมาตรฐานสากล ISO 14064 และ GRI พร้อมเปิดเผยรายงานต่อสาธารณะอย่างต่อเนื่อง
– การมีส่วนร่วมกับสังคมและพันธมิตร อาทิ โครงการ GC YOUเทิร์น แพลตฟอร์มการจัดการขยะพลาสติกอย่างครบวงจร ซึ่งรวมถึงโครงการบริหารจัดการขยะชุมชน หรือ Community Waste Model) การปลูกและฟื้นฟูป่า และการสร้างความร่วมมือกับคู่ค้าและพันธมิตรเพื่อผลักดันการลดคาร์บอนในห่วงโซ่อุปทาน
นอกจากการดำเนินโครงการด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง GC ยังมุ่งมั่นสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ให้ความสำคัญกับ Climate Action ถ่ายทอดความรู้ และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในห่วงโซ่คุณค่า
รางวัล ‘Climate Action Excellence’ ถือเป็นหนึ่งในรางวัลสูงสุดของ Climate Change Awards 2025 ที่มอบให้แก่องค์กรต้นแบบด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จึงไม่เพียงเป็นเครื่องหมายแห่งความสำเร็จ แต่ยังสะท้อนความพร้อมและความตั้งใจของ GC เพื่อก้าวสู่องค์กรคาร์บอนต่ำ และสามารถบรรลุ Net Zero ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้