ตลอด 35 ปี AIS ไม่หยุดพัฒนาเพื่อสามารถตอบโจทย์การให้บริการลูกค้าคนไทย และเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศมาอย่างต่อเนื่อง ผ่านการทรานส์ฟอร์มและดิสรัปตัวเองมาอย่างต่อเนื่อง จากการเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายสื่อสารโทรคมนาคม หรือ Telco ขยับสู่การเป็น Digital Service Provider ในยุคที่อินเตอร์เน็ตและดิจิทัลเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในไลฟ์สไตล์ของผู้คนเพิ่มมากขึ้น
รวมทั้งในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยี AI เข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกมิติของการใช้ชีวิตของผู้คนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ AIS ทำการปรับทิศทางการเติบโตของธุรกิจไปสู่การเป็น Cognitive Tech-Co อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ยกระดับคุณภาพชีวิตและขับเคลื่อนธุรกิจของคนไทย
คุณสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอส กล่าวว่า ที่ผ่านมาเอไอเอสร่วมวางรากฐานโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศ จนกลายเป็นเสาหลักสำคัญที่ผลักดันอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทยให้ก้าวสู่มาตรฐานสากลอย่างต่อเนื่อง และขยายบทบาทมากกว่าเพียงผู้ให้บริการสัญญาณหรือดิจิทัลโซลูชัน แต่เติบโตสู่การเป็น Cognitive Tech-Co อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อสอดคล้องกับบริบทโลกเทคโนโลยีปัจจุบันที่ AI เข้ามามีบทบาทเพิ่มมากขึ้น ผ่านยุทธศาสตร์การเติบโต ภายใต้แนวคิด ‘AI for Sustainable Nation’ เพื่อเชื่อมให้ทุกภาคส่วนสามารถเติบโตไปด้วยกัน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน

นอกจากการวางยุทธศาสตร์ที่สอดรับกับบริบทโลกและการพัฒนาของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง AIS ยังได้ทำการจัดทัพโครงสร้างองค์กรใหม่ ด้วยการเติมผู้บริหารระดับเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ C-Level ในกลุ่มงานต่างๆ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งจากวิสัยทัศน์ของผู้นำยุคใหม่ ที่จะเข้ามาโฟกัสการขับเคลื่อนองค์กรแต่ละด้านให้แข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้น ทั้งในกลุ่ม Core Business เดิม, การต่อยอดความแข็งแกร่งที่มีอยู่ สู่การสร้าง New Engine เพื่อสร้างการเติบโตสู่ตลาดและกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ รวมทั้งการพัฒนาคนและองค์กร ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญเพื่อสร้างการเติบโตในอนาคต นำทีมโดย 3 แม่ทัพดิจิทัล ประกอบด้วย
คุณปรัธนา ลีลพนัง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านปฏิบัติการ ผู้เป็นแม่ทัพแนวหน้า ในการวางรากฐานธุรกิจหลักให้มั่นคง ทั้งบริการสื่อสารและอินเทอร์เน็ต ให้พร้อมรองรับทุกดิจิทัลไลฟ์สไตล์ของคนไทย และตอบโจทย์ลูกค้ากว่า 51 ล้านรายที่ AIS ให้บริการอยู่ในปัจจุบัน ทั้งในกลุ่มลูกค้าบุคคล ธุรกิจ และองค์กร โดยปัจจุบันได้ขยาย Data Center เพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการลูกค้าทุกกลุ่มในปัจจุบัน รวมทั้งรองรับไปสู่การเติบโตในอนาคต
คุณธีร์ สีอัมพรโรจน์ – รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านการเงิน ผู้วางยุทธศาสตร์องค์กรสู่ Next S-Curve เพื่อผลักดันการเติบโตให้กลุ่มธุรกิจใหม่ ทั้งการดูแลบริหารด้านการเงิน และการหาโอกาสจากกลุ่มธุรกิจใหม่ๆ ในอนาคต ที่สามารถต่อยอดจากความแข็งแรงจากโครงสร้างพื้นฐานเดิมที่ธุรกิจมีอยู่ สู่โอกาสใหม่ๆ ในอนาคต ซึ่งในเบื้องต้นมีแผนขยายไปสู่ 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ Retail, Entertainment และ Digital Finance
คุณกานติมา เลอเลิศยุติธรรม – รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านธุรกิจองค์กร ผู้นำเบื้องหลังพลังคน สร้างรากฐาน ‘คน–วัฒนธรรม–ความยั่งยืน’ ให้แข็งแกร่ง ร่วมวางยุทธศาสตร์คนและองค์กร จากรากฐานสำคัญ คือ ‘คน’ ที่เป็นพลังทั้งการพัฒนาองค์กร อุตสาหกรรม และประเทศชาติ ให้ทุกความสำเร็จของเอไอเอสสะท้อนกลับไปเป็นโอกาสของสังคมไทย พร้อมสานต่อ ‘ภารกิจคิดเผื่อ’ ที่ยึดมั่นการเติบโตไปด้วยกันทั้งองค์กรและสังคมไทย ผ่านการจัดสัมมนาใหญ่ AIS ACADEMY for THAIs ที่มุ่งยกระดับทักษะดิจิทัลเพื่อคนไทย พร้อมส่งต่อพลังแห่งหัวใจ สนับสนุนเครื่องมือแพทย์ให้โรงพยาบาลในพื้นที่ห่างไกล เพื่อให้สังคมไทยเติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน

ต่อยอด 3 เครื่องยนต์ใหม่ สร้าง Next S-Curve
สำหรับการขับเคลื่อนสู่การเติบโตในปีที่ 36 เป็นต้นไป จากนี้ AIS จะตอกย้ำความเป็น Cognitive Tech-Co ให้ชัดเจนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งหมายถึงการทรานส์ฟอร์มจากทั้ง Telco และ Digital Service Provider ที่เก่งและฉลาดมากขึ้น ทำได้หลากหลายอย่างเพื่อสามารถตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มได้อย่างรอบด้าน ตามแนวคิด ‘AI for Sustainable Nation’ ที่จะเชื่อมทุกอย่างเข้าด้วยกัน และมุ่งขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจและประเทศไทยให้มีความยั่งยืนในอนาคต
การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจน คือ การขยายธุรกิจใหม่ ในกลุ่ม Retail, Entertainment และ Digital Finance ซึ่งล้วนแต่เป็นการต่อยอดจากความแข็งแกร่งและความเชี่ยวชาญที่ AIS มีอยู่แล้ว ทั้งInfrastructure เทคโนโลยี ฐานลูกค้า เพื่อต่อยอดพัฒนาสู่โมเดลธุรกิจใหม่ และคาดว่าจะสร้างรายได้เติบโตต่อเนื่อง โดยมีสัดส่วนในอนาคตได้ราว 20%
โดยกลุ่ม Retail จะขยายศักยภาพให้ AIS Shop ซึ่งเป็น Touchpoint สำคัญ ในการเข้าถึงผู้บริโภคของ AIS ที่ในอนาคตจะจำหน่ายสินค้าที่มากกว่าแค่กลุ่มโทรคมนาคม แต่ขยายการให้บริการที่รองรับไลฟ์สไตล์ผู้คนได้มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันภายในร้านได้เพิ่มบริการติดตั้งโซลาร์เซลล์สำหรับบ้านได้แล้ว ประกอบกับปัจจุบัน Mobile Platform เป็นศูนย์รวมของการทำธุรกรรมหลายๆ ประเภท หาก AIS สามารถขยายศักยภาพร้านค้าให้รองรับความต้องการเหล่านี้ได้มากขึ้น ก็จะเป็นโอกาสในการดึงลูกค้าเข้ามาใช้บริการภายในร้านได้มากขึ้นด้วย

กลุ่ม Entertainment เพื่อต่อยอดความสามารถในการให้บริการด้านเครือข่าย ที่เป็นได้มากกว่าแค่เครื่องมือสื่อสาร โดยเฉพาะศักยภาพในการเป็นผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตบ้านที่สามารถเข้าถึงครัวเรือนไทยได้มากกว่า 5 ล้านครัวเรือน และมีบทบาททั้งการเป็นเครื่องมือช่วยทำงาน หรือการทำหน้าที่มอบความสุขภายในบ้าน หรือการพักผ่อน ซึ่งจากนี้ จะเพิ่มความเข้มข้นมากขึ้น เช่น รูปแบบคอนเทนต์ หรือวีดีโอ เพื่อตอบโจทย์การมอบความสุข หรือการใช้ชีวิตภายในบ้านได้มากขึ้น
กลุ่ม Digital Finance ซึ่งอยู่ระหว่างการรอใบอนุญาตการประกอบกิจการ Virtual Bank จากธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อให้บริการทางการเงินสำหรับกลุ่มเป้าหมาย หรือในพื้นที่ที่ไม่สามารถเข้าถึงการทำธุรกรรมทางการเงินได้ตามปกติ ซึ่งเป็นการต่อยอดจากการมีฐานลูกค้าจำนวนมาก และมีเทคโนโลยีที่สามารถทำความรู้จักและเข้าใจลูกค้าได้ (KYC : Know Your Customers) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโอกาสในการเติบโต รวมทั้งยังช่วยขยายการให้บริการโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ไปสู่ประชาชนในวงกว้าง สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินที่ดี สะดวก และทั่วถึงได้มากขึ้น และมีส่วนช่วยสร้างอนาคตทางเศรษฐกิจที่มั่นคงและยั่งยืนให้กับสังคมไทย

นอกจากนี้ ในโอกาสฉลองการดำเนินงานครบ 35 ปี AIS ได้แสดงความขอบคุณต่อความไว้วางใจของลูกค้า ด้วยการยกขบวนความพิเศษครั้งยิ่งใหญ่ผ่านแคมเปญ ‘AIS 1 Point 12 Weeks 12 Wow’ ที่ใช้เพียง 1 พอยท์ เตรียมแลกรับสิทธิพิเศษ หรือแลกสิทธิ์ลุ้นรางวัลสุดว้าวได้ทุกสัปดาห์ ต่อเนื่องตลอด 3 เดือนเต็ม ประเดิมความว้าวแรก 1 ตุลาคม 2568 1 พอยท์ แลก 1 สิทธิ์ ลุ้นรับรางวัลใหญ่ อาทิ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ทอง และอีกมากมาย และยังมีอีกหลากหลายกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟในแต่ละสัปดาห์ ไม่ว่าจะเป็นดิจิทัลแพ็กเกจสุดคุ้ม หรือคอนเทนต์บันเทิงระดับพรีเมียม ที่จะมอบประสบการณ์เหนือความคาดหมายให้กับลูกค้ากว่า 51 ล้านรายทั่วประเทศ ติดตามได้บน myAIS
“นับจากวันนี้ไป AIS จะไม่เพียงเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคม แต่จะเป็นกำลังสำคัญในการวางรากฐานดิจิทัลของไทยที่ใช้พลังของ AI และนวัตกรรมมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย สร้างโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงความก้าวหน้าอย่างเท่าเทียม พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยทุกกลุ่ม เพื่อร่วมกันผลักดันประเทศสู่อนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน” คุณสมชัย กล่าวปิดท้าย






