ดานอน ประเทศไทย ผนึกผู้ทรงคุณวุฒิ ทั้งนักวิชาการด้านนวัตกรรมโภชนาการ การหมุนเวียนทรัพยากรในระบบเศรษฐกิจ และธุรกิจที่รับผิดชอบต่อสังคม ร่วมขับเคลื่อน อนาคตอาหาร (The Future of Food) ที่ทั้งดีต่อสุขภาพ เป็นธรรม และยั่งยืนอย่างแท้จริง
คุณแดนิช ราห์มัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดานอนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ ดานอน ประเทศไทย กล่าวว่า ดานอนในฐานะผู้นำด้านโภชนาการเฉพาะทาง มุ่งมั่นที่จะกำหนดมาตรฐานใหม่อนาคต ‘ระบบอาหารที่ยั่งยืน ในประเทศไทย สอดคล้องวิสัยทัศน์ ‘ดานอน ประเทศไทย’ ที่มุ่งมั่นสร้างระบบอาหารที่ยั่งยืนแบบครบวงคร ทั้งมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีคุณค่าในเชิงเศรษฐกิจ และส่งเสริมความเท่าเทียมในสังคม ด้วยความเชื่อว่า ‘สุขภาพของผู้คนและสภาวะของโลกเชื่อมโยงถึงกันและกัน’ จึงมุ่งสนับสนุนให้เกิดการบริโภคเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นและยั่งยืนขึ้น เพราะเชื่อว่าสุขภาพของพวกเราทุกคนส่งผลกับสุขภาพของโลกและความสุขของชุมชน
“ดานอนขับเคลื่อนความยั่งยืนให้ธุรกิจ ตามแนวทาง ‘Danone Impact Journey’ โดยให้ความสำคัญต่อผลกระทบทั้งในมิติสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และผู้คนรวมถึงชุมชน ผ่านกระบวนการดำเนินธุรกิจตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงขั้นตอนสุดท้าย จากเกษตรกรและชุมชน ผ่านผลิตภัณฑ์ เพื่อส่งต่อถึงผู้บริโภคและครอบครัว ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักสำคัญในการดำเนินงานของบริษัท รวมทั้งได้รับการรับรองมาตรฐาน B Corp ในปี 2021 สะท้อนความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบ ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบ ดูแลพนักงานอย่างเป็นธรรม และสร้างผลกระทบที่ดีต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม”

ทั้งนี้ แนวทางขับเคลื่อนความยั่งยืนในธุรกิจของดานอน ขับเคลื่อนผ่าน 2 มิติ ทั้งด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และจากกระบวนการผลิต ได้แก่
1. การเป็นจุดศูนย์กลางแห่งโภชนาการเพื่อสุขภาพที่ยั่งยืน ประกอบด้วย
– โรงงานบางพลีของ Danone เป็นจุดเชื่อมโยงของนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยวิทยาศาสตร์ และความต้องการของผู้บริโภค เพื่อแก้ไขปัญหาโภชนาการในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
– ตัวอย่างโภชนาการสูตรเฉพาะที่ผลิตจากที่นี่ ได้แก่ นมดูโกรที่เสริมธาตุเหล็กและวิตามินซีเพื่อช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็ก พัฒนาขึ้นจากความต้องการในการลดจำนวนเด็กที่มีภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก (IDA)
– ดานอนสนับสนุนการตรวจคัดกรองภาวะ IDA ให้เด็กๆ กว่า 70,000 คนในประเทศไทย ด้วยเครื่องมือที่ไม่ต้องเจาะเลือด พบว่าเด็กๆ กว่า 1 ใน 3 มีความเสี่ยงต่อภาวะ IDA
2. ต้นแบบแห่งความยั่งยืนและการใช้ทรัพยากร ประกอบด้วย
– ปัจจุบันโรงงานดานอนที่บางพลี ใช้พลังงานไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเป็นสัดส่วนกว่า 25% และยังมีแผนขยายพื้นที่โซลาร์รูฟท็อป และพัฒนาอุปกรณ์ประหยัดพลังงานเพื่อลดการใช้พลังงาน
– การจัดการน้ำ ตามแนวทาง 4R – ลดใช้, ใช้ซ้ำ, รีไซเคิล และฟื้นฟู เพื่อจัดการน้ำจากกระบวนการผลิตของโรงงานดานอน และน้ำเสียในนิคมอุตสาหกรรม เพื่อเป็นส่วนหนึ่งการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน
– บรรจุภัณฑ์ของดานอน ประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กว่า 93% สามารถรีไซเคิลได้ และตั้งเป้าหมาย 100% ภายในปี 2030 เพื่อให้ผู้บริโภคมีทางเลือกที่ยั่งยั่งยืนและเข้าถึงได้จริง

Set New Standard ‘ระบบอาหารที่ยั่งยืนและเท่าเทียม’
อีกหนึ่งความมุ่งมั่นของ ‘ดานอน ประเทศไทย’ คือ การร่วมสร้างมาตรฐานใหม่ให้ระบบอาหารของประเทศ จึงร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขาที่เกี่ยวข้อง ทั้งนวัตกรรมด้านโภชนาการ ธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยความรับผิดชอบ หรือการขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อร่วมกันขับเคลื่อน อนาคตอาหาร (The Future of Food) ทั้งการออกแบบวิธีการผลิต บริโภค และให้คุณค่ากับอาหารในรูปแบบใหม่ เพื่อเป็นประโยชน์ทั้งต่อสุขภาพ ความเป็นธรรม และมีความยั่งยืนที่แท้จริง
รศ.ดร.ธัญญ์นลิน วิญญูประสิทธิ์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ผู้บริโภคชาวไทยเริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น แต่ปัญหาสุขภาพอย่างภาวะโภชนาการที่ไม่เหมาะสมก็ยังคงมีอยู่มาก ซึ่งข้อมูลทางวิชาการระบุว่ามี 4 ปัจจัยหลัก ที่จะช่วยส่งเสริมให้ผู้บริโภคเลือกบริโภคสินค้าเพื่อสุขภาพได้ง่ายขึ้น ได้แก่ 1. ติดฉลากโภชนาการหน้าบรรจุภัณฑ์อย่างชัดเจน 2. ลดน้ำตาลและเกลือในสูตรอาหาร 3. การเสริมอาหารที่จำเป็นสำหรับกลุ่มเป้าหมาย และ 4. การพัฒนานวัตกรรมอาหารที่คำนึงถึงผู้บริโภค
“การพัฒนาระบบอาหารของประเทศไทยต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลสุขภาพจริง และการทำงานร่วมกับชุมชน ผู้บริโภค รวมถึงราคาที่เข้าถึงได้ เพื่อสร้างทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพและสามารถเข้าถึงได้จริง รวมทั้งต้องสามารถวัดผลและเปิดเผยข้อมูลได้อย่างโปร่งใส เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคม สอดคล้องกับหลักฐานที่เพิ่มขึ้นว่าผู้บริโภคชาวไทยพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลง และยินดีที่จะลงทุนมากขึ้นในผลิตภัณฑ์ที่สะท้อนคุณค่าเหล่านี้”

คุณอีเบง ตัน ผู้อำนวยการ B Market Builder SEA หน่วยงานผู้ดูแลการรับรองมาตรฐาน B Corp ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ให้ความสำคัญกับจริยธรรมและความโปร่งใสในกระบวนการดำเนินงานของภาคธุรกิจ กล่าวเสริมว่า อาหารไม่ใช่แค่สินค้า แต่คือความรับผิดชอบ เมื่อธุรกิจให้ความสำคัญกับจริยธรรมและความโปร่งใส ขับเคลื่อนนวัตกรรมด้วยค่านิยมที่ดี จะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ยั่งยืนและสร้างความเชื่อมั่นได้มากยิ่งขึ้น
“การได้รับรอง B Crop ไม่ได้เป็นเพียงสัญลักษณ์ แต่เป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการวัดและรายงานผลลัพธ์ทางสังคมและสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับผลประกอบการทางธุรกิจ เพราะความรับผิดชอบเป็นสิ่งที่สร้างความไว้วางใจได้ดีที่สุด ซึ่งมาตรฐาน B Corp และการรายงานผลอย่างโปร่งใส เป็นหนึ่งปัจจัยสะท้อนการขับเคลื่อนธุรกิจตามแนวทางความยั่งยืน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในระยะยาว ไม่ใช่เพียงแค่กระแสชั่วคราว พร้อมช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบธุรกิจ ตั้งแต่องค์กรขนาดใหญ่ ไปจนถึงสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการท้องถิ่นให้หันมาผสานความยั่งยืนเป็นกลยุทธ์หลักของธุรกิจ และยกระดับมาตรฐานความโปร่งใส เพื่อเพิ่มผลกระทบเชิงบวกภายในภูมิภาคได้เพิ่มมากขึ้น”
คุณวินเซนต์ เต รองประธานฝ่ายโภชนาการเฉพาะทางภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากดานอน เล่าถึงนวัตกรรมโภชนาการเพื่อยกระดับสุขภาพเด็กไทยที่ดานอนดำเนินการว่า หนึ่งในภาวะที่ต้องการการแก้ไขระดับเร่งด่วน ภาวะขาดไมโครนิวเทรียนในเด็กเล็ก ถึงแม้จะเป็นสารอาหารที่ร่างกายต้องการเพียงเล็กน้อย แต่มีความจำเป็นและสำคัญอย่างยิ่งต่อการทำงานของร่างกาย โดยเฉพาะช่วง 2,000 วันแรกของชีวิต จึงเป็นสาเหตุที่ต้องให้ความสำคัญกับนวัตกรรมด้านโภชนาการ ซึ่งต้องเริ่มต้นจากวิทยาศาสตร์และความเข้าใจว่าคนในท้องถิ่นต้องการอะไร เพื่อพัฒนาทางออกที่เข้าถึงง่าย ราคาเหมาะสม และใช้งานได้สะดวก

ทั้งนี้ ดานอนมีแนวทางจัดการกับ ภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก (Iron Deficiency Anemia: IDA) ซึ่งเด็กไทยอายุต่ำกว่า 5 ปีมีโอกาสเสี่ยงถึงกว่า 1 ใน 3 ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์สูตรเสริมวิตามินเพื่อเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กถึงสามเท่า รวมทั้งพัฒนาสูตรซินไบโอติก (Synbiotic Formulas) ที่ออกแบบเฉพาะสำหรับ สุขภาพลำไส้ของเด็กผ่าคลอด (C-section) ซึ่งมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดอาการแพ้และปัญหาด้านภูมิคุ้มกัน ผ่านการทดสอบทางคลินิก และเป็นสูตรที่พัฒนาขึ้นในประเทศไทย สะท้อนให้เห็นถึงพันธกิจของดานอนในการเปลี่ยนองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ให้เกิดผลลัพธ์ที่จับต้องได้จริง โดยเฉพาะในช่วง 2,000 วันแรกของชีวิต ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สมองพัฒนาไปกว่า 90% และโภชนาการที่เหมาะสมจะมีผลต่อสุขภาพของเด็กในระยะยาว
นอกจากนี้ ดานอน ประเทศไทย ยังได้ร่วมมือกับ กรมอนามัย (DOH) และกรุงเทพมหานคร (BMA) โดยปีนี้ ดานอนได้สนับสนุนโครงการระดับชาติ ‘เด็กฉลาดด้วยธาตุเหล็ก’ ด้วยการสนับสนุนการตรวจคัดกรองภาวะโลหิตในเด็กทั่วประเทศ ผ่านการให้ยืมอุปกรณ์หาความเสี่ยงภาวะ IDA แบบไม่เจาะเลือด จัดนิทรรศการให้ความรู้ และร่วมวางแนวทางป้องกันภาวะขาดธาตุเหล็กตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ความร่วมมือดังกล่าวสะท้อนถึงความตั้งใจร่วมกันในการทำให้ความเสี่ยงที่มองไม่เห็น กลายเป็นสิ่งที่ป้องกันได้จริง เพื่อให้เด็กทุกคนมีโอกาสเติบโตอย่างแข็งแรงตั้งแต่วันแรกของชีวิต

ด้าน คุณนุ่น – ศิรพันธ์ วัฒนจินดา นักแสดงมากความสามารถ ที่มีบทบาทในการสนับสนุนแนวทางการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนได้แบ่งปันมุมมองในฐานะผู้บริโภคว่า ทุกการตัดสินใจของเรา สิ่งที่เราซื้อ ใช้ หรือทิ้ง ล้วนมีผลต่อโลกที่เราอยู่ เมื่อผู้บริโภครู้ว่าทุกการเลือกสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ ก็สามารถสร้างแรงขับเคลื่อนสำคัญสู่อนาคตที่ยั่งยืน
“ผู้บริโภคทุกคนสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงได้ ไม่ว่าจะเลือกซื้อสินค้าที่ใช้บรรจุภัณฑ์น้อย สนับสนุนแบรนด์ที่ลงทุนด้านความยั่งยืน หรือเพียงตั้งคำถามเกี่ยวกับแหล่งที่มาของอาหาร เพราะการตัดสินใจเล็กๆ เหล่านี้คือแรงผลักดันให้ระบบอาหารของเรายั่งยืนและเท่าเทียมมากขึ้น เพราะเมื่อผู้บริโภคเห็นผลลัพธ์ที่แท้จริงจากสิ่งที่ตัวเองเลือก ก็จะมีความตระหนักมากขึ้น ในฐานะที่ไม่ใช่แค่ผู้มีส่วนร่วม แต่จะกลายเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนอนาคตที่ดีกว่า”






