เมื่อการขับเคลื่อนสู่ความยั่งยืน เป็นเป้าหมายที่คนทั้งโลกกำลังมุ่งไป โดยเฉพาะการปักหมุดสำคัญเพื่อบรรลุ Net zero ภายในปี 2050 ของโลก รวมทั้งประเทศไทย ที่มีการขยับเป้าหมายจากปี 2065 มาเป็น 2050 แล้วเช่นกัน
เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าวนี้ การเปลี่ยนผ่านในภาคพลังงานสู่ Green Energy Transition จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างมาก เนื่องจากอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรม High Emission ที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปริมาณสูง การส่งเสริมเพื่อเพิ่มการใช้พลังงานจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน (Renewable) เพื่อทดแทนพลังงานถ่านหินจึงเป็นทางเลือกที่หลายแห่งกำลังมุ่งขับเคลื่อนในอนาคต

ดร.วรวุฒิ วรุตตมพรสุ Country Managing Director บริษัท ฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แม้ความต้องการใช้ Renewable จะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นทั่วโลก รวมทั้งมีทิศทางในการเติบโตได้เพิ่มมากขึ้น แต่ข้อกังวลสำคัญของการใช้พลังงานทดแทน คือ การรักษาความสมดุลของ 3 ปัจจัยสำคัญ (Trilemma) ที่ต้องคำนึงถึงภายในอุตสาหกรรมพลังงาน ทั้งการบริหารจัดการต้นทุน (Affordable) เพื่อให้เข้าถึงง่ายและสามารถแข่งขันได้ โดยที่ยังคงรักษาเสถียรภาพด้านความมั่นคงทางพลังงาน (Security) รวมทั้งมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Sustainability ) โดยเฉพาะในยุคที่โลกให้ความสำคัญเรื่องความยั่งยืน และการเกิดขึ้นของกำแพงภาษี หรือมาตรการทางการค้า ที่เชื่อมโยงในเรื่องสภาพอากาศ หากไม่คำนึงถึง อาจะทำให้แข่งขันได้ยากจาดต้นทุนที่สูงขึ้น
ขณะเดียวกัน การเติบโตของดีมานด์ในการพลังงานในอนาคตก็มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนโยบายและทิศทางของประเทศในการขับเคลื่อนการเติบโตด้วยเศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อมุ่งสู่การเป็น Digital Hub ของภูมิภาค รวมทั้งการส่งเสริมการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมด้านดิจิทัล หรือเซมิคอนดักเตอร์ โดยเฉพาะการเข้ามาลงทุนของ Data Centers เพื่อรองรับการเติบโตของเทคโนโลยีต่างๆ เช่น AI หรือยานยนต์ EV เป็นต้น ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นกลุ่มที่ต้องการบริโภคพลังงานที่สูงมาก ทำให้ภาพรวมการเติบโตของการใช้พลังงานจะยิ่งเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต

“การจะขับเคลื่อนผ่านความท้าทายตามบริบทของโลก รวมทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการเติบโตของดีมานด์ในการใช้พลังงานในอนาคตได้นั้น จำเป็นต้องมีการพัฒนาเทคโนโลยีด้านพลังงาน ซึ่งถือเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านไปสู่เป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการบริหารจัดการในการรักษาสมดุลของทั้ง 3 ปัจจัย เพื่อไม่ให้การขับเคลื่อนต้องติดกับดักจาก Trilemme ได้ทั้งพลังงานที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย มีประสิทธิภาพและเสถียรภาพที่มั่นคง รวมทั้งมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเทคโนโลยี ‘ดิจิทัล’ จะเป็นสะพานเชื่อมสำคัญ และเป็นหัวใจสำคัญในการเปลี่ยนผ่านพลังงานเพื่อสามารถบรรลุเป้าหมายตามที่ตั้งไว้ได้”
ทั้งนี้ ฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ (Hitachi Energy) ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมโซลูชั่นพลังงานและโครงข่ายไฟฟ้าครบวงจรระดับโลก มีความพร้อมในการร่วมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและรองรับปริมาณความต้องการของภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจในการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานเพื่อขับเคลื่อนสู่ความยั่งยืน ภายใต้ผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นในพอร์ตโฟลิโอทั้ง 5 กลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น Grid Automation (ระบบไฟฟ้าอัตโนมัติ) , Grid Integration (ระบบไฟฟ้ากำลัง) , Hight Vooltage Products (ระบบไฟฟ้าแรงดันสูง), Transformers (หม้อแปลงไฟฟ้า) และ Service (โซลูชั่นบริการครบวงจรผลิตภัณฑ์) ที่รองรับตลาดกว่า 60 ประเทศทั่วโลก โดยฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ ถือเป็นผู้นำด้วยการครองส่วนแบ่งตลาดเบอร์ 1 จากทั่วโลกได้ในทุกตลาด

“เพื่อรองรับการเติบโตและการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ ได้มีการลงทุนทั่วโลกกว่า 9 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อขยายทั้งการผลิต การวิจัย การพัฒนางานวิศวกรรม และความร่วมมือเพื่อเพิ่มการผลิตหม้อ แปลงไฟฟ้ากำลัง และโซลูชันระบบโครงข่ายไฟฟ้าให้เพียงพอต่อความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก โดยในแผนมีการลงทุนในส่วนของประเทศไทยผ่านโรงงานสมุทรปราการ 14 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 455 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังผลิตได้เพิ่มขึ้น 60% เพื่อลดระยะเวลาส่งมอบ และรองรับความต้องการอุปกรณ์โครงข่ายไฟฟ้า โดยนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมาตรฐานด้านสุขภาพและความปลอดภัยสูงสุดมาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน รวมไปถึงปรับปรุงห้องปฏิบัติการทดสอบหม้อแปลงไฟฟ้ากำลังให้ทันสมัย เพื่อรองรับความต้องการหม้อแปลงไฟฟ้ากำลังขนาดใหญ่จากลูกค้าที่เพิ่มขึ้น”
นอกจากนี้ ยังได้แนะนำโซลูชั่นไฮไลท์เพื่อบุกตลาดในประเทศไทย ซึ่งมีจุดเด่นด้านเทคโนโลยีที่รองรับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ทั้งการเป็นผลิตภัณฑ์หรือโซลูชั่นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ความสามารถในการบริหารจัดการพลังงานที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งความโดดเด่นในการประมวลผลด้วยระบบดิจิทัล ซึ่งฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ เตรียมนำไปแนะนำในงาน IEEE PES GTD Asia 2025 ซึ่งเป็นเวทีสำคัญด้านพลังงานไฟฟ้าและความยั่งยืนระดับนานาชาติ พร้อมรวมนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ นวัตกร และผู้นำในอุตสาหกรรมพลังงานจากทั่วเอเชียและทั่วโลกมากกว่า 10,000 คน มาร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และแนวทางปฏิบัติในการพัฒนาระบบไฟฟ้าอย่างยั่งยืน โดยไฮไลท์ที่ทางฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ จะนำไปแสดงภายงานงาน อาทิ
– Grid-enSure™ เทคโนโลยียกระดับความเสถียร ยืดหยุ่น และประสิทธิภาพของระบบโครงข่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ทำให้สามารถแปลง ควบคุม และบริหารจัดการทิศทางการจ่ายพลังงานภายในกริดได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ และปลอดภัย และเรียลไทม์ เพิ่มความมั่นคงให้โครงข่ายไฟฟ้า พร้อมรองรับความต้องการพลังงานในอนาคตได้อย่างยั่งยืน

– EconiQ™ มาตรฐานใหม่แห่งกลุ่มอุปกรณ์ไฟฟ้าแรงดันสูง (High Voltage Equipment) ถูกออกแบบภายใต้แนวคิดลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยไม่ใช้ก๊าซ SF₆ แต่ยังคงประสิทธิภาพ ความน่าเชื่อถือ และความปลอดภัยเทียบเท่าอุปกรณ์แบบดั้งเดิม ครอบคลุมตั้งแต่ สวิตช์เกียร์ เบรกเกอร์ สามารถขยายขอบเขตการใช้งานได้ถึงระดับแรงดันสูงพิเศษ (Extra-High Voltage) ด้วยขนาดกะทัดรัดและความยืดหยุ่นของการติดตั้ง ช่วยลด Carbon Footprint รองรับเป้าหมาย Net Zero และสร้างมาตรฐานใหม่ให้อุตสาหกรรมพลังงานที่ยั่งยืนทั่วโลก
– Grid-eXpand™ สถานีไฟฟ้าแรงสูงแบบสำเร็จรูป ที่สามารถประกอบ ติดตั้ง และเชื่อมเข้ากับระบบไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องสร้างสถานีขนาดใหญ่ใหม่ทั้งหมด เป็นนวัตกรรมโซลูชันแบบโมดูลาร์ และพร้อมใช้งานได้ในทันที (Modular & Prefabricated) สำหรับการเชื่อมต่อโครงข่ายไฟฟ้า (Grid Connection) ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้สามารถขยายกริดได้อย่างรวดเร็ว และครอบคลุมทุกความต้องการ
– TXpert™ Hub เป็นแพลตฟอร์มอัจฉริยะ ช่วยเปลี่ยนหม้อแปลงไฟฟ้าธรรมดาให้เป็นดิจิทัล โดยโซลูชันจะติดตั้งเซนเซอร์และเก็บข้อมูล เช่น อุณหภูมิ กระแสไฟ และคุณภาพไฟฟ้า เพื่อช่วยในการวิเคราะห์แนวโน้มเพื่อแจ้งเตือนทันทีเมื่อมีความเสี่ยง รวทั้งสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์หลากหลาย พร้อมผสานรวมกับความปลอดภัยด้านไซเบอร์ ทำให้ผู้ดูแลระบบไฟฟ้ารู้สถานะหม้อแปลงในแบบเรียลไทม์ ลดความเสี่ยง และวางแผนบำรุงรักษาได้แม่นยำขึ้น

– PLC IoT Controller คืออุปกรณ์ควบคุมอัจฉริยะที่รวมความสามารถของ PLC (Programmable Logic Controller) ซึ่งใช้ในงานควบคุมเครื่องจักรและระบบอัตโนมัติในโรงงาน เข้ากับเทคโนโลยี IoT (Internet of Things) เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อ ส่งข้อมูล และวิเคราะห์การทำงานแบบเรียลไทม์ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ ถือเป็นสมองหลักของโรงงานอัจฉริยะ และโครงข่ายพลังงานดิจิทัลในยุคอุตสาหกรรม 4.0
ภายในงาน IEEE PES GTD Asia 2025 ระหว่างวันที่ 27–29 พฤศจิกายน 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พบกับ Hitachi Energy ได้ที่บูธ C1 Hall 2–4 ชั้น G พร้อมพบนวัตกรรมระดับโลกตั้งแต่ Grid-enSure™, Grid-eXpand™, TXpert™ Hub, EconiQ™ รวมถึงโซลูชันบริการหลังการขาย ที่จะยกระดับระบบไฟฟ้าของประเทศไทยให้เสถียร ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมโชว์เคสเทคโนโลยีดิจิทัลพลังงานสุดล้ำที่กำหนดอนาคตของ Energy Transition อย่างแท้จริง






