กลุ่มเดอะมอลล์ เร่ง ‘สร้างย่าน สร้างเมือง’ ทุ่ม 1.5 หมื่นล้าน เติมเต็มย่านสุขุมวิท ปั้นกรุงเทพฯ สู่มหานครโลก

กลุ่มเดอะมอลล์​ เปิดตัว ดิ เอ็มสเฟียร์ (THE EMSPHERE) จิ๊กซอว์ตัวล่าสุด ที่จะมาเติมเต็มความสมบูรณ์ให้กับ ดิ เอ็มดิสทริค (THE EM DISTRICT) ภายใต้แนวคิด FUTURE RETAIL​  ที่รวบรวมเทรนด์และไลฟ์สไตล์แห่งอนาคตไว้บนพื้นที่กว่า 2 แสนตารางเมตร ด้วยงบลงทุนกว่า 15,000 ล้านบาท

คุณศุภลักษณ์​ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด และ บริษัท สุขุมวิทซิตี้มอลล์ จำกัด กล่าวว่า โครงการ ดิ เอ็มดิสทริค (THE EM DISTRICT) จะเป็นการผนึกกำลังของศูนย์การค้าที่เป็น Destination ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ได้แก่ ​ดิ เอ็มโพเรี่ยม (THE EMPORIUM) และ ดิ เอ็มควอเทียร์ (THE EMQUARTIER) รวมท้ังโครงการล่าสุดอย่าง ดิ เอ็มสเฟียร์ บนเนื้อที่รวม 50 ไร่ โอบล้อมสวนเบญจสิริ ซึ่งพื้นที่รวมทั้ง 3 โครงการกว่า 650,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่บนทำเลที่ดีที่สุดใจกลางย่านสุขุมวิท ใจกลางกรงุเทพฯ ที่เตรียมเปิดให้บริการในปลายปี 2566

การขยับของกลุ่มเดอะมอลล์ครั้งนี้ ถือว่าเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ในธุรกิจค้าปลีกไทย ด้วยการสร้างปรากฏการณ์ศูนย์การค้าระดับโลกในย่านสุขุมวิทใจกลางกรุงเทพมหานคร  เพื่อสร้างปรากฏการณ์ย่านการค้า แหล่งธุรกิจ และศูนย์ความบันเทิงแห่งใหม่ที่แปลกใหม่ ทันสมัย และยิ่งใหญ่ระดับโลกอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน เป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญ ยกระดับกรุงเทพมหานครและประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางเวทีการค้าระดับโลก นำมาซึ่งความสำเร็จและความภาคภูมิใจให้กับคนไทย

“​​การขับเคลื่อนโครงการนี้ เพื่อตอบโจทย์ว่าจะทำอย่างไรให้กรุงเทพมหานคร กลายเป็นมหานครที่ยิ่งใหญ่และสมบูรณ์แบบของโลก เพื่อสามารถเทียบชั้นมหานครชั้นนำอื่นๆ ของโลก ​โดยการสร้างและขยายเมืองต้องอาศัย  Creative Economy  มาเป็น DNA สำคัญในการช่วยขับเคลื่อน โดยเฉพาะจุดแข็งของ กทม. ในฐานะศูนย์กลางและเป้าหมายของนักท่องเทียวจากทั่วโลก ทั้งจีน อินเดีย ตะวันออกกลาง ยุโรป รัสเซีย  และการสร้างย่านการค้าเพื่อรองรับการเดินทางเข้ามาของกลุ่มนักท่องเที่ยว โดยสุขุมวิทถือเป็นย่านการค้าใจกลางเมืองของกรุงเทพ นอกเหนือจากย่านอื่นๆ  ทั้งสยาม ราชประสงค์ ประตูน้ำ เจริญนคร เหมือนในญี่ปุ่นที่มีทั้งกินซ่า ชิบูย่า ฮาราจูกุ รวมทั้งหากมีการเชื่อมต่อย่านสำคัญต่างๆ เข้ากับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ทั้งสนามบิน หรือโครงการรถไฟฟ้าต่างๆ จะช่วยอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวได้มากขึ้น และสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้าประเทศได้มากยิ่งขึ้น”

การยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางทางด้านธุรกิจการค้า และการท่องเที่ยวที่สำคัญของภูมิภาคอาเซียนและของโลก เพียบพร้อมไปด้วย ย่านการค้า ตลอดจนสถานที่ท่องเที่ยวและบันเทิงที่ทันสมัย เป็นการตอกย้ำเป้าหมายสำคัญข้างต้น ผ่านการเปิดตัวโครงการครั้งนี้  หลังจากก่อนหน้าได้เปิดตัวโครงการระดับ World Class เพื่อเป็น Tourist Destination มาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการสร้างโครงการระดับเวิลด์คลาสไว้ทั่วกรุงเทพ ทั้ง Down town ที่มีสยามพารากอน  ส่วนเอ็มดิสทริค เป็นการสร้างย่านใน Mid town รวทั้งโครงการบางกอกมอลล์ที่กำลังก่อสร้างในย่านบางนา ซึ่งถือว่าเป็นการขยายในส่วน Up town  ซึ่งมีส่วนสำคัญในการผลักดันให้เศรษฐกิจประเทศเติบโต

นอกจากเป็นย่านการค้าที่สำคัญแล้ว ยังเป็นการสร้างย่านที่พักอาศัย โรงแรม ออฟฟิศระดับหรู และที่สำคัญศูนย์รวมความบันเทิงที่ยิ่งใหญ่ทันสมัยแปลกใหม่ (ICONIC DISTRICT OF RETAIL, BUSINESS, OFFICE, RESIDENTIAL AND ENTERTAINMENT) อันเป็นหัวใจของความสำเร็จ โดย ดิ เอ็มดิสทริคจะเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญ อันจะมีส่วนร่วมในการยกระดับให้กรุงเทพฯ เป็นมหานครต้นแบบ (ROLE MODLE METROPOLIS) ในการร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้ก้าวหน้าและทันสมัยด้วยนวัตกรรมใหม่อย่างยั่งยืน โดยคาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบได้ในเดือนธันวาคม 2566

3 เสน่ห์ 3 ศูนย์ เติมเต็มย่านสุขุมวิท

สำหรับการมี  ดิ เอ็มสเฟียร์  จะช่วยเข้ามาเติมเต็มความสมบูรณ์ให้ ดิ เอ็มดิสทริค ที่จะมาช่วยเพิ่มความพิเศษในย่านสุขุมวิท โดยทั้ง 3 ศูนย์การค้าจะมีการวางโพสิชั่นนิ่งที่แตกต่างกัน โดย ดิ เอ็มโพเรี่ยม คือ ที่สุดแห่งความ มีระดับ (THE ULTIMATE LUXURY SHOPPING COMPLEX) ได้รับปรับโฉมใหม่ทั้งหมดทั้งภายในและภายนอกให้หรูหราสวยงาม ทันสมัย แต่ยังคงไว้ซึ่งความสะดวก และบรรยากาศอบอุ่นน่าช้อป ขณะที่ ดิ เอ็มควอเทียร์ เป็นมิติใหม่ของรูปแบบชีวิตที่ไม่ธรรมดา (THE EXTRAORDINARY LIFE) เป็นดิสทิเนชั่นแห่งไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ ประกอบไปด้วยอาคารศูนย์การค้า สำนักงาน สถานที่สำหรับจัดกิจกรรมและสันทนาการต่างๆ พร้อมสวนสวรรค์อันรื่นรมย์ และ ดิ เอ็มสเฟียร์ คือ FUTURE RETAIL ศูนย์การค้าแห่งอนาคตที่ไม่เคยหลับไหล (SLEEPLESS METROPOLIS) ซึ่งได้คัดสรรและรวบรวมความบันเทิง นวัตกรรม และความเป็นลิมิเต็ดต่างๆ ที่ทุกๆคนพลาดไม่ได้ ซึ่งเมื่อผสานจุดเด่นของทั้ง 3 ศูนย์แล้ว ดิ เอ็มดิสทริค จะกลายเป็นศูนย์กลางธุรกิจที่สามารถตอบรับความต้องการของทุกๆ คนได้อย่างครบถ้วน

EM GALLERIA  โซนสำหรับเหล่าแฟชั่นนิสต้า ที่ประกอบไปด้วยแบรนด์แฟชั่นชั้นนำระดับโลก ไทยดีไซน์เนอร์ และแบรนด์เนมชั้นนำของไทย

EM LIFESTYLE  โซนที่ตอบรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่

EM MERCADO สวรรค์สำหรับนักชิม ศูนย์รวม International food market ที่หลากหลายจากทั่วโลก ร่วมด้วยร้านอาหารชั้นนำมากมาย

EM WONDER แหล่งแฮงค์เอาท์แห่งใหม่ของกรุงเทพมหานคร สีสันของความบันเทิงที่เป็นที่สุดสำหรับชาวไทย และนักท่องเที่ยว

EM INNOVATION แหล่งรวมนวัตกรรมล้ำสมัย จากทั่วโลก ให้สัมผัสครั้งแรกในเมืองไทย

IKEA CITY STORE  อิเกีย ซิตี้ สโตร์ แห่งแรกของเมืองไทย และของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

EMLIVE ที่สุดแห่งความบันเทิงระดับโลกกับ World Class Arena ความจุ 6,000 ที่นั่ง โดยการบริหารงานของ AEG ผู้ประกอบธุรกิจบันเทิง และกีฬาระดับโลก

เราเชื่อมั่นว่า ดิ เอ็มดิสทริค จะเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการค้าปลีก รวมไปถึงการท่องเที่ยวและธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องมากมาย มีส่วนในการสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับเจ้าของแบรนด์ ร้านค้าต่างๆ รวมถึงสร้างธุรกิจใหม่ๆ อันจะเป็นการสร้างเสริมเศรษฐกิจ งานและอาชีพให้กับคนไทยอีกนับหมื่นอัตรา ทั้งยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มาร่วมลงทุนในประเทศไทยอีกทางหนึ่ง ด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญ มีพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ ทั้งยังมีความมุ่งมั่นในการสร้างศูนย์การค้าที่มีระดับ ที่จะมาสร้างปรากฏการณ์ในมิติใหม่ที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก และร่วมสร้างความสำเร็จให้กับประเทศไทยในเวทีการค้าระดับโลกอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน” ​คุณเกรียงศักดิ์ ตันติพิภพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดิ เอ็มดิสทริค กล่าวสรุป

Stay Connected
Latest News