‘จระเข้’ ขับเคลื่อน Green Construction ปฏิวัติวงการก่อสร้าง พัฒนา ‘Dustless Technology’ รายเดียวในประเทศไทย ลดการฟุ้งกระจายของฝุ่นถึง 80% สร้างมาตรฐานใหม่ ‘กาวซีเมนต์ปลอดภัย-ยั่งยืน’ เร่งแก้วิกฤตฝุ่น-ลดผลกระทบต่อสุขภาพ พร้อมเร่งแผนลดคาร์บอน ขยายพอร์ต Green Product ตามเป้าหมาย
จากสถานการณ์วิกฤตฝุ่น PM2.5 ที่ทวีความรุนแรงจนส่งผลเสียต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมในหลายพื้นที่ทั่วประเทศไทย โดยข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า คนไทยกว่า 38 ล้านคน อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีค่า PM2.5 เกินมาตรฐาน และกว่า 1 ใน 5 หรือราว 15 ล้านคน เป็นกลุ่มเปราะบาง ทั้งผู้ป่วย ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง และเด็กเล็ก รวมท้ังยังเพิ่มภาระด้านค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลและการป้องกันฝุ่น ไม่ต่ำกว่า 2,000 -3,000 ล้านบาท โดย 75% เป็นค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาล ขณะที่ปัญหามลพิษทางอากาศ ยังเป็นสาเหตุให้ผู้คนเสียชีวิต มากเป็นอันดับ 5 ของโลก รวมทั้งยังเป็นปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรค NCDs และโรคมะเร็งด้วย
โดยข้อมูลล่าสุด จากกระทรวงสาธารณสุข เมื่อเดือนมกราคมปี 2568 ยังพบผู้ป่วยจากฝุ่น PM 2.5 ราว 144,000 ราย ซึ่งโรคที่พบบ่อย ได้แก่ ผิวหนังอักเสบ ตาอักเสบ และกลุ่มโรคปอด ขณะที่ปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหาฝุ่น PM2.5 มีทั้งการเผาป่า โรงงานอุตสาหกรรม ไอเสียจากยานพาหนะ ไปจนถึงการขยายตัวของงานก่อสร้างทั่วประเทศ ทั้งงานก่อสร้างใหม่และงานซ่อมแซม
ดร.จิรัฏฐ์ สิริเฉลิมพงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า จระเข้ คอร์ปอเรชั่น ให้ความสำคัญในการพัฒนานวัตกรรมก่อสร้างครบวงจร ในฐานะบริษัทสัญชาติไทยที่ใส่ใจคนและดูแลสิ่งแวดล้อม ตระหนักถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการร่วมแก้ปัญหาดังกล่าว จึงเดินหน้านำเสนอเทคโนโลยีก่อสร้างคุณภาพสูงที่ดูแลความปลอดภัยของผู้ใช้งานและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมภายใต้มาตรฐานระดับสากลมาอย่างต่อเนื่อง
โดยล่าสุด พัฒนา สุดยอดนวัตกรรม Dustless Technology มาใช้ในผลิตภัณฑ์กาวซีเมนต์ทั้ง 8 รุ่น ซึ่งถือเป็นแบรนด์เดียวในประเทศไทย ที่มีนวัตกรรมดังกล่าวมาใช้ในผลิตภัณฑ์กาวซีเมนต์ ซึ่งช่วยลดการฟุ้งกระจายของฝุ่นในการใช้งานลงได้มากถึง 80% นับเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้วงการก่อสร้างในกลุ่มผลิตภัณฑ์กาวซีเมนต์จระเข้ สะท้อนถึงศักยภาพของผลิตภัณฑ์ก่อสร้างยุคใหม่ที่ไปไกลกว่าแค่เรื่องประสิทธิภาพ แต่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยต่อผู้ใช้งานและโลกที่ยั่งยืน
โดยทั้ง 8 รุ่น สามารถรองรับงานปูกระเบื้องในทุกสเกล ไม่ว่าจะเป็น รุ่นยอดนิยมของช่างอย่าง กาวซีเมนต์จระเข้เขียว, กาวซีเมนต์จระเข้แดง สำหรับงานปูกระเบื้องสระว่ายน้ำ, นวัตกรรมกาวซีเมนต์สำหรับงานปูทับทั้งสองรุ่น ได้แก่ กาวซีเมนต์จระเข้เงินและจระเข้ทอง ชูการประหยัดเวลาในการทำงาน ไม่ต้องรื้องานเก่า และลดฝุ่น PM2.5 จากการทุบกระเบื้องเก่า, กาวซีเมนต์จระเข้เอ็กซ์ตรีม สำหรับกระเบื้อง Big Slab, กาวซีเมนต์จระเข้สโตนเมท สำหรับงานปูหินอ่อนและหินธรรมชาติ, กาวซีเมนต์จระเข้เกรย์สโตนเมท สำหรับปูกระเบื้องและหินธรรมชาติสีเข้ม และกาวซีเมนต์จระเข้เอ็กซ์เพรส นวัตกรรมสำหรับงานเร่งด่วน ชูคุณสมบัติแห้งเร็ว เปิดใช้พื้นที่ได้ไว
“การพัฒนา Dustless Technology ช่วยลดการสร้างมลภาวะทางอากาศจากอุตสาหกรรมก่อสร้าง ซึ่งไม่เพียงสร้างประโยชน์ให้แค่บริษัท หรือลูกค้าของจระเข้เท่านั้น แต่ช่วยยกระดับให้ทั้ง Stakeholders ของอุตสาหกรรมก่อสร้าง ขับเคลื่อนสู่ Green Construction รวมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตได้ครบวงจร ต้ังแต่พนักงานขององค์กรในไลน์การผลิต ไปจนถึงช่างผู้ใช้งาน เจ้าของบ้าน และผู้อยู่อาศัยในชุมชนโดยรอบเขตก่อสร้าง ซึ่งการนำเทคโนโลยีลดฝุ่นมาใช้กับผลิตภัณฑ์กาวซีเมนต์ปูกระเบื้องทั้ง 8 รุ่น จะช่วยเพิ่มการสร้างผลกระทบเชิงบวกได้ตลอดทั้งห่วงโซ่ธุรกิจ รวมทั้งตอบโจทย์เทรนด์ในธุรกิจก่อสร้าง ที่มุ่งขับเคลื่อนสู่อุตสาหกรรมการก่อสร้างที่มีความยั่งยืนเพิ่มมากขึ้น ทำให้เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับอย่างดีทั้งในตลาด B2B หรือ B2C ไม่ว่าจะเป็นบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ผู้รับเหมาก่อสร้าง ตลอดจนเจ้าของบ้านที่คำนึงถึงสุขภาพและความยั่งยืน เพราะ Dustless Technology จะช่วยกระดับคุณภาพชีวิต ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับความตั้งใจของจระเข้ ในการเร่งขับเคลื่อนอุตสาหกรรมก่อสร้างสีเขียวอย่างเป็นรูปธรรม ขณะเดียวกันยังช่วยลดปริมาณของเสีย หรือ Waste ภายในไซต์งาน จากปริมาณฝุ่นที่ลดน้อยลง ทำให้ลดปริมาณการสูญเสียของกาวซิเมนต์ลงได้ด้วย”
ดร.จิรัฏฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนกลยุทธ์เพื่อมุ่งสู่ความยั่งยืน โดยขณะนี้ได้ดำเนินการวัดการปล่อยคาร์บอนฟุตพรินท์ภายในองค์กร เพื่อนำมาวางแผนสำหรับการขับเคลื่อนการลดคาร์บอนทั้งในธุรกิจและตลอดห่วงโซ่ ซึ่งเป็นประเด็นที่ทั้งอุตสาหกรรมให้ความสำคัญ โดยเฉพาะการขับเคลื่อนสู่ Green Construction ที่ได้รับความสนใจและการตอบรับจากผู้มีส่วนได้เสียในทุกมิติเพิ่มมากขึ้น ทำให้ตลาดมีทิศทางเติบโตเพิ่มมากขึ้น ขณะที่การออกผลิตภัณฑ์ Dustless Technology เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาด และมีส่วนผลักดันให้บริษัทเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางเป้าหมายยอดขายเพิ่มขึ้นถึงกว่า 4 พันล้านบาท ในสิ้นปี 2568 นี้
“การพัฒนาเทคโนโลยีลดฝุ่นด้วย Dustless Technologyในผลิตภัณฑ์กาวซีเมนต์ของจระเข้ครั้งนี้ ยังเป็นการขับเคลื่อนเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่าน 5 กลยุทธ์หลัก ทั้งการลดการปล่อย CO2 ในธุรกิจ ซึ่งลดได้แล้วกว่า 18 ล้านกิโลกรัมคาร์บอน, การลดปริมาณขยะและของเสียในธุรกิจ ซึ่งลดไปแล้วกว่า 170,000 กิโลกรัม รวมทั้งลดฝุ่นได้กว่า 4 ล้านกิโลกรัม, การพัฒนานวัตกรรมที่ช่วยลดองค์ประกอบหรือกระบวนการที่ทำให้เกิดสารพิษ , การเพิ่มสัดส่วนสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งปัจจุบันในพอร์ตมีสัดส่วน Green Products 62% ของยอดขาย รวมไปถึงการพัฒนาทักษะบุคลากรกว่า 20,000 คน โดยบริษัทยังคงเดินหน้าสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และแนวทางธุรกิจที่ตอบโจทย์อุตสาหกรรมควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และความยั่งยืน” ดร.จิรัฏฐ์ กล่าวทิ้งท้าย