เต็ดตรา แพ้ค มองศักยภาพประเทศไทย ในฐานะศูนย์กลางธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (F&B) ทั้งจากการยอมรับในรสชาติ และความหลากหลายจนได้รับการยอมรับในฐานะ ‘ครัวของโลก’ ประกอบกับการมี Prime Location ที่สามารถเชื่อมโยงผู้ประกอบการและพันธมิตรในอุตสาหกรรมอาหาร ไม่ว่าจะเป็นผู้พัฒนารสชาติ วัตถุดิบ ไปจนถึงผู้ให้บริการในภาคส่วนต่างๆ ที่เข้าถึงได้อย่างสะดวก
ประกอบกับ การมีทีมบุคลากรที่แข็งแกร่ง ที่สามารถรองรับและให้ข้อมูลเพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ ในธุรกิจให้แก่พันธมิตรจากทั่วโลกได้ จังได้ตัดสินใจเปิดตัว ศูนย์นวัตกรรมลูกค้า (Customer Innovation Centre – CIC) แห่งใหม่ล่าสุดในกรุงเทพฯ ซึ่งถือเป็นแห่งที่ 6 ของโลก ตั้งอยู่ภายในสำนักงานใหญ่ของ บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด ณ อาคารภิรัช ทาวเวอร์ แอท เอ็มควอเทียร์ ที่ถูกออกแบบมาสำหรับเป็นพื้นที่การทำงานร่วมกันและสร้างสรรค์นวัตกรรม ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายศูนย์นวัตกรรมระดับโลกของเต็ดตรา แพ้ค ครอบคลุมในสหรัฐอเมริกา สวีเดน อิตาลี ดูไบ และบราซิล
คุณจูเลีย ลัสเชอร์ รองประธานฝ่ายการตลาด บริษัท เต็ดตรา แพ้ค จำกัด กล่าวว่า ศูนย์ CIC Bangkok เปิดให้บริการในเดือนพฤษภาคม 2568 มีเป้าหมายสำคัญ เพื่อช่วยลูกค้าหรือพันธมิตรทางธุรกิจ เพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในการทำตลาดในกลุ่ม F&B ได้มากยิ่งขึ้น ทั้งผู้ประกอบการที่อยู่ในธุรกิจอยู่แล้ว และต้องการหาโอกาสในการเติบโตใหม่ๆ รวมทั้งผู้ประกอบการรายใหม่ที่สนใจและอยากเข้ามาในธุรกิจ F&B
โดย CIC Bangkok จะเข้ามาทำงานร่วมกับลูกค้า ผ่านบริการและโซลูชั่นที่ครอบคลุมตั้งแต่การทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้า การร่วมวิเคราะห์เพื่อแก้ปัญหา หรือ Painpoint ในธุรกิจ การเข้าใจเทรนด์การตลาดและเทรนด์ผู้บริโภคเพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ ทั้งการเลือกวัตถุดิบ การเลือกกลุ่มผลิตภัณฑ์ หรือการให้ฟังกชันนัลที่ตอบโจทย์ตลาด ไปจนถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบหรือโปรโตไทป์ เพื่อทดสอบทั้งรสชาติ และเนื้อสัมผัส เพื่อต่อยอดไอเดียมาสู่ผลิตภัณฑ์ก่อนจะตัดสินใจทำตลาดในอนาคตต่อไป
นอกจากนี้ ในช่วงเดือนมีนาคม 2569 ทางเต็ดตรา แพ้ค ยังมีแผนขยาย ศูนย์พัฒนาผลิตภัณฑ์ (Product Development Centre – PDC) ในประเทศไทย ที่จังหวัดระยองเพิ่มเติมอีกด้วย ซึ่งถือเป็น PDC แห่งที่ 13 ของโลก เพื่อรองรับการต่อยอดไอเดียจาก CIC ที่ได้ผลิตภัณฑ์โปรโตไทป์ในเบื้องต้นมาแล้ว มาทดลองผลิตในสเกลที่ไม่ใหญ่มาก ให้สามารถจับต้องผลิตภัณฑ์ได้อย่างเป็นรูปธรรมชัดเจนมากขึ้น เพื่อให้ธุรกิจต่างๆ สามารถทดสอบผลิตภัณฑ์ และเลือกใช้เทคโนโลยีการแปรรูปที่เหมาะสมกับการผลิตในระดับอุตสาหกรรม เพื่อสร้างความแม่นยำในการพัฒนาสินค้าใหม่ได้มากยิ่งขึ้น ก่อนจะขยายไอเดียสู่เชิงพาณิชย์ในอนาคตต่อไป
“แนวคิดริเริ่มเหล่านี้ตอกย้ำความมุ่งมั่นของเต็ดตรา แพ้ค ในฐานะพันธมิตรที่เชื่อถือได้ในการช่วยให้ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ก้าวข้ามความท้าทายของตลาดที่ซับซ้อนด้วยความมั่นใจและสร้างสรรค์ โดยสามารถรองรับการทำงานร่วมกับลูกค้าได้อย่างใกล้ชิดและครบวงจร รวมทั้งให้บริการลูกค้าได้ครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม Global Company หรือลูกค้ารายใหญ่ ที่มีฐานตลาดในหลายประเทศ และต้องการขยายตลาดเข้ามาในไทยหรือในภูมิภาคใกล้เคียง รวมทั้งกลุ่ม Local Company ที่ต้องการขยายตลาดส่งออกไปยังต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งกลุ่มธุรกิจรายย่อย หรือ Startup ต่างๆ ที่อาจมีข้อจำกัดในการเข้าถึงองค์ความรู้ เทคโนโลยี หรือพันธมิตรทางธุรกิจ ก็สามารถมาปรึกษากับทางเต็ดตรา แพ้ค และทาง CIC Bangkok ได้เช่นกัน”
ปักฐานประเทศไทย ศูนย์กลางนวัตกรรม F&B ครบวงจร
ทางเต็ดตรา แพ้ค ยังฉายเทรนด์ผู้บริโภคที่น่าสนใจ ผ่านรายงาน Trendipedia – Consumer Trends 2025 โดยพบว่า ผู้บริโภคยุคปัจจุบันมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์มากขึ้น เน้นเรื่องสุขภาพ และมองหาประสบการณ์ที่เชื่อมโยงกับแบรนด์อย่างแท้จริง ให้ความสำคัญกับตัวเลือกใหม่ ๆ ที่สะดวกและยั่งยืน อีกทั้งยังต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีการพัฒนาให้ดีขึ้น โดย 85% ของผู้บริโภคไทย มองหาประสบการณ์ใหม่ ๆ และน่าตื่นเต้น เทรนด์นี้ผลักดันให้แบรนด์ต่าง ๆ ผสมผสานประสบการณ์ด้านดิจิทัลเข้ากับองค์ประกอบทางประสาทสัมผัสที่หลากหลาย เพื่อสร้างประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบตั้งแต่การมีส่วนร่วมครั้งแรกไปจนถึงหลังการบริโภค
คุณรัตนศิริ ติลกสกุลชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ศูนย์ CIC Bangkok ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะตัวของตลาดในประเทศไทย เปิดโอกาสให้ธุรกิจต่างๆ เข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการวิจัยและพัฒนาขั้นสูง เพื่อร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่สอดคล้องกับแนวโน้มตลาด ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการช่วยให้บริษัทอาหารและเครื่องดื่มในประเทศไทยและภูมิภาคสามารถแข่งขันในระดับสากลได้ พร้อมผลักดันประเทศไทยในการก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมอาหารโลก ผ่านการยกระดับประสิทธิภาพและสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้แก่ภาคอุตสาหกรรม
ศูนย์ CIC Bangkok จะช่วยให้ธุรกิจเพิ่มประสิทธิภาพการพัฒนาและร่นระยะเวลาการนำผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาด เพื่อร่วมผลักดันนวัตกรรมอาหารผ่านศูนย์ CIC ด้วย กระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ตัวอย่างที่รวดเร็ว ทำให้ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มไทยสามารถผสานแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดระดับโลกในเข้ากับโซลูชันที่ตอบโจทย์ตลาดท้องถิ่นได้อย่างลงตัว เพื่อเร่งการเติบโตและพัฒนานวัตกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ โดยได้ออกแบบกระบวนการให้บริการแบบครบวงจร 5 ขั้นตอน ที่ครอบคลุมการพัฒนา ทดสอบ และปรับแต่งผลิตภัณฑ์ของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย
– นำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่ตรงจุด (Insight Discovery): มุ่งเน้นการศึกษาและวิจัยเชิงลึก เพื่อทำความเข้าใจความซับซ้อนของตลาดและความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค
– โปรแกรมเฉพาะเจาะลึกในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มาแรง (Category Immersion): วิเคราะห์แนวโน้มระดับโลกและโอกาสทางการตลาดเพื่อพัฒนากลยุทธ์ธุรกิจที่เหมาะสม
– ห้องแสดงนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ (Innovation Showcase): นำเสนอนวัตกรรมที่โดดเด่นจากทั่วโลก เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและเปิดโอกาสใหม่ ๆ ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์
– พื้นที่สร้างสรรค์ไอเดีย (Co-creation Space): พื้นที่สำหรับการค้นหาโอกาสใหม่ ๆ ที่ช่วยให้แบรนด์สามารถคิดค้นและปรับปรุงไอเดียให้ตอบโจทย์ตลาด
– ห้องพัฒนาผลิตภัณฑ์ตัวอย่าง (Prototyping): เปลี่ยนไอเดียให้กลายเป็นต้นแบบผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้อย่างรวดเร็ว พร้อมรับฟีดแบ็กและพัฒนาต่อก่อนออกสู่ตลาดจริง
เห็นได้ว่า การจัดตั้งศูนย์ CIC แห่งใหม่ในประเทศไทยสะท้อนถึงบทบาทสำคัญของประเทศในฐานะผู้ส่งออกอาหารชั้นนำของโลก พร้อมศักยภาพที่โดดเด่นในการเข้าถึงตลาดระดับภูมิภาคและระดับโลก ศูนย์ CIC Bangkok จะช่วยให้ธุรกิจไทยสามารถเร่งการสร้างนวัตกรรม เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และตอบสนองต่อเทรนด์ของผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยแนวทางใหม่ๆ ที่สร้างสรรค์
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ https://www.tetrapak.com/en-th/solutions/product-innovation/from-idea-to-market.