DialogueTop Stories

คาดตลาด Waste Management ทั่วโลกปี 2025 มูลค่าแตะ 1.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ พร้อมโอกาสขยายตัวอีกกว่า 1 ล้านล้านเหรียญฯ ภายใน​ 8 ปี

ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันการเติบโตของตลาด Wasten Management ​คือ การขยายตัวของเมืองและอุตสาหกรรม รวมทั้งการที่ทั่วโลกให้ความสำคัญในเรื่องความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจหมุนเวียนมากขึ้น

Grand View Research บริษัทที่ปรึกษาและวิจัยระดับโลก ให้ข้อมูลว่า ปี 2024 ตลาดการจัดการขยะ (Waste Management) ทั่วโลกมีมูลค่ากว่า 1.424 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งครอบคลุมทั้งการรวบรวมขยะ (Collection) และการกำจัดขยะ (Disposal) และการขนส่งขยะ (Transportation)

พร้อม​คาดการณ์ว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีมูลค่าจะเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า  1.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และจะสามารถเติบโต​ได้อย่างต่อเนื่องเฉลี่ยที่ปีละ 5.9% ​(2025 -2033) โดยคาดว่าจนถึงปี 2033 หรือใน 8 ปีข้างหน้า ตลาดจะขยายตัวได้อีก​​ราว 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือมีมูลค่าเพิ่มเป็นมากกว่า 2.365 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ จากปัจจัยสำคัญ​คือ การขยายตัวของเมืองและอุตสาหกรรม รวมทั้งการที่ทั่วโลกให้ความสำคัญในเรื่องของความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจหมุนเวียนเพิ่มมากขึ้น

เช่น ในภาคอุตสาหกรรมและเทศบาลที่เร่ง​ลงทุนเพื่อเปลี่ยนขยะเป็นพลังงาน ศึกษากระบวนการรีไซเคิลชั้นสูง หรือพัฒนาเทคโนโลยีระบบติดตามขยะ  รวมทั้งผู้บริโภคก็ให้ความสำคัญต่อความมุ่งมั่นต่อนโยบาย ESG หรือการจัดการขยะอย่างมีความรับผิดชอบ ​ขององค์กรต่างๆ มากขึ้น ส่งผลให้มีการพัฒนาของกระบวนการและโซลูชั่นด้านการจัดการขยะที่ฉลาดและยั่งยืนเข้ามาใช้เพิ่มมากขึ้นทั่วโลก  ​

ทั้งนี้ ​ข้อมูลในปี 2024  พบว่า ตลาด Waste Management ​ ใหญ่ที่สุดของโลก ​คือ ทวีปอเมริกาเหนือ ด้วยสัดส่วนที่ 33.3% จากโครงสร้างพื้นฐานที่เข้มแข็ง กฏระเบียบที่เข้มงวด และปริมาณขยะต่อหัวที่สูง โดยมีระบบที่ทันสมัยสำหรับการรีไซเคิลและการจัดการขยะอันตราย

ส่วนภูมิภาคที่มีอัตราการเติบโตของตลาดมากที่สุดคือ เอเชียแปซิฟิก คาดจะเติบโตเฉลี่ย 6.5% (2025 – 2033) จากการขยายตัวของเมืองและการเติบโตอย่างรวดเร็วของประชากร เช่น จีน อินเดีย และอินโดนีเซีย รวมทั้งการ​เริ่มส่งเสริมมาตรการจัดการขยะมูลฝอยและการรีไซเคิล ควบคู่กับการขยายตัวทางอุตสาหกรรมและการบริโภคนิยม

ขณะที่ประเภทของขยะที่จะเติบโตมากที่สุด คือ กลุ่มขยะอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Waste ที่จะเติบโตเติบโต​ในแง่ของรายได้ เฉลี่ยราว 8% ต่อปี (2025 – 2033) เนื่องจาก ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่รวดเร็วและวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ที่สั้นลง

ประกอบกับการบริโภคอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์ดิจิทัลที่เพิ่มขึ้น นำไปสู่ปริมาณการกำจัดที่สูงมากขึ้น รวมทั้งความตระหนักรู้ถึงอันตราย และกฎระเบียบที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับส่วนประกอบที่เป็นพิษในขยะอิเล็กทรอนิกส์ ส่งผลให้เกิดการส่งเสริมให้มีการรีไซเคิลขยะในกลุ่มนี้อย่างเหมาะสม ซึ่งแนวโน้มนี้เด่นชัดทั้งในประเทศที่พัฒนาแล้ว และประเทศที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว​