Dialogue

‘อุทกภัย’ ความเสี่ยง ครึ่งปีหลัง 2568 พร้อม​ 3 ฉากทัศน์​ กระทบเศรษฐกิจไทย

 

วิจัยกรุงศรี ประเมินว่า ​ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งประเทศไทยที่​มีแนวโน้มเกิดฝนตกมากขึ้นและเสี่ยงต่ออุทกภัยในครึ่ง​หลังของปี 2568 ​​พร้อมคาดการณ์ผลกระทบทางเศรษฐกิจ 1.8 -2.9 หมื่นล้านบาท พร้อมกระทบ GDP ให้ลดลง ตั้งแต่ 0.10 -0.16%

โดยปริมาณน้ำฝน มีแนวโน้มจะสูงกว่าปกติ และมี ความเสี่ยง ต่ออุทกภัยเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง ผ่านการประเมินและคาดการณ์จากปัจจัยต่างๆ อาทิ จำนวนพายุที่จะเข้าไทย, ปริมาณน้ำฝน, พื้นที่ฝนตก และแนวโน้มสถานการณ์น้ำในลำน้ำสายหลัก

สถานการณ์ 7 เดือนแรกที่ผ่านมา

7 เดือนแรกที่ผ่านมา ประเทศไทยผชิญมรสุม และร่องมรสุมที่พัดผ่านประเทศ ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำจากประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้เกิดอุทกภัยในบางพื้นที่ โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออกและภาคกลาง

รวมพื้นที่ได้รับผลกระทบช่วงที่ผ่านมาจำนวน 29 จังหวัด พื้นที่​ประสบอุทกภัย 0.9 ล้านไร่ แบ่งเป็น พื้นที่ปลูกข้าว 3.3 แสนไร่, พืชไร่พืชผัก 4.62 หมื่นไร่, ไม้ผลไม้ยืนต้น 1.37 หมื่นไร่

จังหวัดเชียงราย เสียหายมากที่สุด มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 2.6 แสนไร่ ตามด้วยพะเยา 0.8 แสนไร่ และสกลนคร หนองคาย สุโขทัย ได้รับผลกระทบเท่ากันที่ราว 0.7 แสนไร่

คาดการณ์แนวโน้มอุทกภัย ในช่วงปลายปี 68

– ก.ย. – ต.ค. มีความเสี่ยงเกิดอุทกภัยได้ทุกภาค (ยกเว้นภาคใต้) เนื่องจากปริมาณฝนที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าจะสูงกว่าค่าปกติ
– พ.ย.- ธ.ค. ภาคใต้ มีความเสี่ยงที่จะเกิดอุทกภัยได้เพิ่มมากขึ้น จากอิทธิพลของมรสุม ร่องมรสุม และพายุหมุนเขตร้อนที่เคลื่อนผ่านไทยเป็นประจำทุกปี
– คาดพายุเข้าไทยอย่างน้อย 2-3 ลูก
– ปริมาณน้ำฝน 5 เดือนสุดท้ายสูงกว่าค่าเฉลี่ย ผลกระทบจากลานีญา
– พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมหลัก คือ ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคอีสาน

3 ฉากทัศน์ ผลกระทบทางเศรษฐกิจ

กรณีดีที่สุด #Bestcase
– พื้นที่ได้รับผลกระทบ 7.4 ล้านไร่ ความเสียหายรวม 1.82 หมื่นล้านบาท กระทบ GDP -0.10%
แบ่งเป็น ความเสียหายของมูลค่าทรัพย์สิน​ 2.8 พันล้านบาท และมูลค่าผลผลิตการเกษตร 1.54 หมื่นล้านบาท

กรณีฐาน #Basecase
– พื้นที่ได้รับผลกระทบ 9.5 ล้านไร่ ความเสียหายรวม 2.36 หมื่นล้านบาท กระทบ GDP -0.13%
แบ่งเป็น ความเสียหายของมูลค่าทรัพย์สินเสียหาย 3.7 พันล้านบาท และ​มูลค่าผลผลิตทางการเกษตร​ 1.99 หมื่นล้านบาท

กรณีเลวร้ายที่สุด #Worstcase
– พื้นที่ได้รับผลกระทบ 11.7 ล้านไร่ ความเสียหายรวม 2.9 หมื่นล้านบาท กระทบ GDP -0.16%
แบ่งเป็น มูลค่าทรัพย์สินเสียหาย 4.5 พันล้านบาท มูลค่าผลผลิตทางการเกษตรเสียหาย 2.45 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ ระดับความเสียหายจากอุทกภัยที่มีต่อเศรษฐกิจนี้ ​ มาจากปัจจัยต่างๆ ขึ้นอยู่กับ

1) ปริมาณน้ำฝนและการบริหารจัดการน้ำ
2) พื้นที่ที่เกิดอุทกภัย
3) ตำแหน่งที่ตั้งหน่วยเศรษฐกิจ (ครัวเรือน โรงงาน พื้นที่เกษตร)