ประเทศญี่ปุ่น เป็นหนึ่งต้นแบบของประเทศที่มีศักยภาพในการจัดการ ‘ขยะอาหาร’ หรือ Food Waste โดยสามารถบรรลุเป้าหมายลดขยะอาหารในภาพรวมของทั้งประเทศได้เร็วกว่าแผนที่วางไว้ถึง 8 ปี
แม้ว่าภาพรวมจะสามารถบรรลุความสำเร็จได้ตามเป้าหมาย แต่ส่วนใหญ่เป็นการขับเคลื่อนจากภาคธุรกิจ เป็นหลัก ขณะที่ ภาคครัวเรือน ยังไม่สามารถขับเคลื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากนัก ทำให้ต้องออกมาตรการเพื่อเร่งการลดขยะ โดยเฉพาะ Food Waste ในภาคครัวเรือนได้มากขึ้น
สำหรับภาพรวมปริมาณขยะอาหารทั่วโลก โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ UNEP ได้ประเมินปริมาณอาหารเหลือทั้งในปี 2022 มีปริมาณรวมกว่า 1.05 พันล้านตัน ซึ่งกว่า 60% เกิดจากครัวเรือน และ สร้างก๊าซเรือนกระจก 8-10% ของปริมาณก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก
ขณะที่ปี 2022 ญี่ปุ่น สามารถลดปริมาณขยะอาหาร เหลือเพียง 4.72 ล้านตัน ซึ่งถือว่าสามารถขับเคลื่อนได้เร็วกว่าเป้าหมายถึง 8 ปี จากแผนที่ต้องการลด Food Waste ลงให้ได้ 50% ภายในปี 2030 จากฐานปี 2000 ที่มีปริมาณ Food Waste 9.8 ล้านตัน
ปริมาณ Food Waste ที่ลดลงเหลือ 4.72 ล้านตัน ในปี 2022 มาจากทั้งภาคธุรกิจและครัวเรือน ในอัตราเท่ากันที่ 50% หรือราว 2.36 ล้านตัน
โดยภาคธุรกิจ (Business Food Waste ) ทำได้ค่อนข้างดี สามารถลด Food Waste มากกว่าเป้าหมายที่วางไว้ จึงได้ทำการขยับเป้าหมายเพิ่มเป็น 60% ภายในปี 2030
ขณะที่ ภาคครัวเรือน (Household Food Waste) ปริมาณขยะอาหาร 2.36 ล้านตัน ถือว่ายังสูงกว่าเป้าหมายที่ต้องลดลงให้เหลือ 2.16 ล้านตัน ซึ่งการล่าช้ากว่าแผนที่วางไว้ของภาคครัวเรือนนั้น ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจราว 40 ล้านล้านเยร หรือ 2.77 แสนล้านเหรียญสหรัฐ และสร้าง Carbonfootprint 10.46 ล้านตันCO2e
ทั้งนี้ แผนที่ญี่ปุ่นนำมาใช้ เพื่อเร่งสปีดกาารลด Food Waste ในภาคครัวเรือน อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น มีหลากหลายและรอบด้าน เช่น
การปรับเป้าหมายใหม่ เพื่อลด Food Waste ได้มากขึ้น
โดยในปี 2025 นี้ ญี่ปุ่นทำการปรับเป้าหมายลดขยะอาหาร ในภาคธุรกิจเพิ่มขึ้นเป็น 60% ส่วนภาคครัวเรือน ยังอยู่ที่ 50% จากฐานในปี 2000 เช่นเดิม
สร้างความร่วมมือด้าน Food Loss Food Waste มากขึ้น
ผ่านความร่วมมือทั้งภาครัฐ เอกชน สถาบันการศึกษา โดยเฉพาะเป้าหมายในกลุ่ม ‘ครัวเรือน’
ขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการ และนโยบายส่งเสริมการลดการสูญเสียอาหาร สร้างความตระหนักรู้ ปรับแนวคิด เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมได้ทั้ง #Stakeholders
กลยุทธ์ ‘Toyoma Food Loss Zero’
โครงการต้นแบบของจังหวัด โทยามะ สร้างแคมเปญให้ผู้บริโภคและธุรกิจร่วมมือลดขยะอาหาร
พรัอมพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล รวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ มุ่งช่วยลดขยะอาหารภายในครัวเรือน
พร้อมเพิ่มแนวทางดึงดูดคนรุ่นใหม่ แชร์วิดีโอส่งเสริมการให้ความรู้ รสมทั้งใช้มาสคอตให้เข้าถึงกลุ่มเด็กได้ง่ายขึ้น
เทคโนโลยี ตู้เย็นอัจฉริยะ
ประเมินความสดวัตถุดิบ / ทำเครื่องหมายสินค้าที่ใกล้หมดอายุ
พัฒนา IoT เชื่อมต่อร้านค้าออนไลน์ เพื่อสั่งซื้ออย่างมีประสิทธิภาพ
เพิ่มบทบาทภาคเอกชน มีโครงการนำร่องช่วยลดปริมาณอาหารหมดอายุ ประเมินศักยภาพเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ หรือพัฒนาแอปช่วยคิดเมนูลดขยะอาหารในครัวเรือน
ศึกษา ‘พฤติกรรมประชากร’ แต่ละช่วงวัย
การเข้าใจ อินไซต์ และ พฤติกรรม ประชากรแต่ละช่วงวัย จะช่วยให้สามารถอออกแบบวิธีการ หรือวางรากฐาน พัฒนาแนวทางลดขยะอาหารในครัวเรือนในญี่ปุ่นได้ดียิ่งขึ้น โดยจากการศึกษา พบอินไซต์ของประชากรในวัยต่างๆ ที่น่าสนใจ เช่น
กลุ่ม สูงวัย (70 ปีขึ้นไป) จะสร้างขยะอาหารเฉลี่ย 46 กิโลกรัม/ คน มากกว่ากลุ่มอายุน้อย เกือบ 3 เท่า ที่สร้างเฉลี่ย 16.6 กิโลกรัม/คน
หรือกลุ่ม คนรุ่นใหม่ มักรับประทานอาหารนอกบ้านบ่อยกว่า, คนสูงอายุมักซื้ออาหารเน่าเสียง่ายมากกว่า รวมทั้งสาเหตุการทิ้งอาหารที่แตกต่างกัน เป็นต้น