การบินไทย โดยฝ่ายครัวการบิน ผนึกพันธมิตร โครงการพัฒนาดอยตุง มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดตัวกาแฟ ‘Carbon Neutral Coffee’ สำหรับเสิร์ฟลูกค้าร้านพัฟแอนด์พาย (PUFF & PIE) พร้อมเพิ่มการใช้วัตถุดิบกลุ่ม Local Sourcing เพิ่มเติมในอนาคต เพื่อขับเคลื่อนให้ธุรกิจสามารถสร้าง Positive Impact ทั้งต่อสิ่งแวดล้อม และชุมชนเพิ่มมากขึ้น
การขับเคลื่อนครั้งนี้ ช่วยตอกย้ำความมุ่งมั่นการดำเนินธุรกิจตามกรอบ ESG ของการบินไทยให้เด่นชัดมากขึ้น เริ่มจากกลุ่มธุรกิจการบิน มาสู่หน่วยธุรกิจอื่นภายในองค์กรด้วย โดยเฉพาะร้านพัฟแอนด์พาย ซึ่งเป็นอีกหนึ่ง Touchpoint ที่สามารถส่งเสริมภาพลักษณ์ไปสู่แบรนดิ้งของการบินไทยได้อีกทางหนึ่ง
ทั้งนี้ การบินไทย และดอยตุง ได้ร่วมมือกันมาก่อนหน้า ด้วยการเสิร์ฟเมล็ดกาแฟจากดอยตุงให้กับผู้โดยสารการบินไทยบนเครื่องกว่า 20 ล้านคน ทั้งในกลุ่มลูกค้าขั้นประหยัด รวมทั้งกลุ่มลูกค้าธุรกิจและเฟิร์สคลาสด้วย ก่อนจะขยายมายังร้านพัฟแอนด์พายในที่สุด ซึ่งการบินไทยถือเป็นผู้สั่งเมล็ดกาแฟรายหลักของดอยตุง ในปริมาณ 25% หรือราว 1 ใน 4 ของกำลังผลิตทั้งหมดที่ดอยตุงสามารถผลิตได้ในปัจจุบัน

คุณชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วย คุณวรางคณา ลือโรจน์วงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่หน่วยธุรกิจการบิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และ คุณประเสริฐ ตรงเจริญเกียรติ ประธานสายปฏิบัติการธุรกิจเพื่อสังคม มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้ข้อมูลร่วมกันถึงความร่วมมือในครั้งนี้ ผ่านการแนะนำกาแฟทางเลือกใหม่ ภายใต้แนวคิด ‘From Farm to Cup – ดื่มด่ำกาแฟจากผืนป่าสู่มือคุณ’ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ชื่นชอบกาแฟคุณภาพสูง ควบคู่กับการใส่ใจสิ่งแวดล้อม
ท้ังนี้ ผลิตภัณฑ์เมล็ดกาแฟจากดอยตุงที่นำส่งให้ร้านพัฟแอนด์พาย ได้คัดเลือกเมล็ดกาแฟอาราบิก้า 100% จากดอยตุง ที่ผลิตในกระบวนการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และได้รับรองมาตรฐานการปล่อยคาร์บอนฟุตพรินท์ (CFP) ทำให้สามารถตรวจวัดและชดเชยปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างครบถ้วนตลอดห่วงโซ่การผลิต จึงได้รับการรับรองว่าเป็น Carbon Neutral Coffee
นอกจากเมล็ดกาแฟแล้ว ร้านพัฟแอนด์พายและดอยตุงยังมีแผนขยายความร่วมมือผ่านการรับวัตถุดิบอื่นๆ เข้ามาผลิตสินค้าเบเกอรี่ของพัฟแอนด์พายเพิ่มเติม อาทิ น้ำผึ้ง และแมคคาเดเมีย เพื่อส่งเสริมการใช้ Local Sourcing ที่ช่วยสนับสนุนผลิตภัณฑ์ของกลุ่มเกษตรกรไทย รวมทั้งส่งเสริมแบรนด์ไทยให้สามารถเติบโตร่วมกันได้ในระดับสากล

“พัพฟ์แอนด์พาย ยังมุ่งส่งเสริมความยั่งยืนในมิติอื่นๆ เช่น การใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนกว่า 50% ของบรรจุภัณฑ์ในพัฟแอนด์พายเป็นบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกและสามารถนำไปรีไซเคิลได้ โดยพยายามจะลดการใช้ Single use Plastic ให้น้อยลง โดยตั้งเป้าภายในปลายปีหน้าจะใช้บรรจุภัณฑ์รักษ์โลกได้ทั้ง 100%  รวมทั้งการนำส่งน้ำมันพืชใช้แล้วภายในร้านให้กับทาง ปตท. และบางจาก เพื่อนำไปเป็นวัตถุดิบในการผลิตน้ำมันอากาศยานยั่งยืน หรือ SAF อีกด้วย” คุณวรางคณา กล่าว
ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ พัฟแอนด์พาย และดอยตุง ได้ร่วมกันเปิดตัวกาแฟ Signature Menu 5 เมนูพิเศษ ที่ผสมผสานวัตถุดิบคุณภาพเข้ากับกาแฟอาราบิก้าอย่างลงตัว เริ่มด้วยเมนู Coco Coff on Cloud ซึ่งนำเอสเปรสโซเข้มข้นมาผสานกับความหอมนุ่มของครีมมะพร้าวและฟองนมอัญชันสีฟ้า เสิร์ฟตั้งแต่เดือนตุลาคม 2568 เป็นต้นไป โดยจะมีเมนูใหม่ทยอยเปิดตัวจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2569

พร้อมทั้งการเปิดตัวเบเกอรี่คอลเลคชั่น Siam’s Treasures ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากขนมไทยดั้งเดิมมาผสมผสานกับศาสตร์การทำขนมแบบตะวันตก อาทิ Siam Honey Crown ทาร์ตแมคคาเดเมียคาราเมลน้ำผึ้ง, Midnight Mocha Jewel เค้กมอคค่าเข้มข้นเคลือบดาร์กช็อกโกแลต และ Siam’s Molten Heart คุกกี้บราวนี่เนื้อหนึบไส้ช็อกโกแลตกรานาช
การขับเคลื่อนของพัฟแอนด์พายครั้งนี้ จะเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการสร้างความแข็งแรงด้านแบรนดิ้งให้พัฟแอนด์พายเป็นได้มากกว่าแค่ร้านเบอเกอรี่ แต่จะเป็นอีกหนึ่งหน่วยธุรกิจ ที่เข้ามามีส่วนในการช่วยขับเคลื่อนเรื่องของความยั่งยืนให้กับการบินไทย เพื่อบรรลุเป้าหมายด้าน ESG ได้อย่างเป็นรูปธรรมและจับต้องได้ ผ่านทั้งจำนวนสาขาที่มีกว่า 40 แห่ง กระจายอยู่ทั่วประเทศ และฐานลูกค้าสมาชิกที่มีกว่า 2 พันราย โดยตั้งเป้าเติบโตอย่างต่อเนื่องเพิ่มขึ้นกว่าปีละ 1 พันราย
			
			





