Top StoriesTrending

CKPower เร่ง​สปีด ‘พลังงานหมุนเวียน’ เพิ่มมาตรการ ‘การเงินสีเขียว’ ​เดินหน้าขาย RECs ขยายตลาดเพิ่ม​ทั้งในไทยและภูมิภาค

CKPower ตอกย้ำผู้นำพลังงานหมุนเวียนระดับภูมิภาค พัฒนานวัตกรรมการเงินสีเขียว ขยายพันธมิตรผ่าน RECs เดินหน้าสร้างโอกาสเติบโต​ใหม่ทั้งในไทยและภูมิภาค มุ่งดูแลสิ่งแวดล้อมพร้อมส่งเสริมความมั่นคงทางพลังงาน​

การเปลี่ยนผ่านในธุรกิจพลังงาน​ (Energy Transitions) จากพลังงานฟอสซิลมาเป็นการใช้พลังงานสะอาดจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) กลายเป็นวาระสำคัญของโลก เพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกันในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์หรือ Net Zero ภายในปี 2593

เนื่องจากปฏิเสธไม่ได้ว่า ‘ภาคพลังงาน‘ เป็นหนึ่งในภาคส่วนสำคัญที่สร้างก๊าซเรือนกระจกในปริมาณสูง (High GHG Emission) แต่ขณะเดียวกันก็เป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนให้ระบบเศรษฐกิจเติบโต  ดังนั้น การมองหาพลังงานสะอาด เพื่อนำมาเป็นทรัพยากรต้นทางสำหรับการผลิตกระแสไฟฟ้า จึงเป็นหนึ่งในโซลูชั่นสำคัญของการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ Green Energy Transitions ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สอดคล้องกับภาพสะท้อนการเติบโตกลุ่มธุรกิจไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในประเทศไทย ที่มีทิศทางการขับเคลื่อนเช่น​เดียวกับเทรนด์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ตามข้อมูลจาก ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ที่คาดการณ์ความต้องการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) ในปี 2569 ซึ่งจะเพิ่มสูงขึ้นทั้งในกลุ่มภาครัฐและภาคเอกชน โดยประเมินการขายให้ส่วนของภาครัฐอยู่ที่ 24,303 GWh และภาคเอกชนราว 4,249 GWh หรือมีปริมาณเพิ่มขึ้น 2.8% และ 8% ตามลำดับ

เทรนด์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นโอกาสสำคัญของ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKPower (CKP) ในฐานะผู้นำด้านการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (Renewable  Energy) ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคและมีคาร์บอนฟุตพรินต์ที่ต่ำที่สุดรายหนึ่ง โดยเฉพาะศักยภาพในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานน้ำ และพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ปัจจุบัน CKPower สามารถ​​ผลิตพลังงานไฟฟ้าจาก Renewable  Energy รวมกันได้แล้ว 93% ของพอร์ตโฟลิโอ และตั้งเป้าเพิ่มเป็น 95% ภายในปี 2586 รวมทั้งการใช้ไฟฟ้าภายในองค์กร​ที่ต้องมาจากพลังงานสะอาดทั้ง 100% ภายในปีเดียวกัน

ที่สำคัญคือ สามารถลดระดับการ​​ปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG  Intensity) ในการผลิตไฟฟ้าต่อหน่วยที่ต่ำกว่าค่ากลางในการผลิตไฟฟ้าของประเทศ (Thailand Grid) ถึง 86% ดังนั้น CKPower จึงถือเป็นหนึ่งในผู้ผลิตพลังงานหมุนเวียนรายหลักให้ประเทศ โดยปี 2567 ที่ผ่านมาสามารถผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนส่งให้ประเทศไทยได้กว่า 8.8 ล้านเมกะวัตต์ชั่วโมง (MWh) หรือคิดเป็น​ 16% ของไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่ใช้ในประเทศ ​​ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 4.4 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (CO2e) ต่อปี

อีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญของ CKPower คือการตั้งเป้าบรรลุ Net Zero ภายในปี 2593 จึงมุ่งมั่น​เพิ่มศักยภาพการผลิตพลังงานหมุนเวียน ​​ควบคู่ไปกับการ​พัฒนานวัตกรรมเพื่อลดการใช้พลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต เพื่อขับเคลื่อนทั้งการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดควบคู่ไปกับการสร้างเสถียรภาพในระบบพลังงานของประเทศ สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน โดย​วางโรดแม็พธุรกิจ ภายในปี ​2568-2573​​ เพื่อ​ขยายกำลังการผลิตโครงการไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ทั้งในรูปแบบ Private PPA และยื่นประมูลโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนเฟส 2 จากภาครัฐ ควบคู่ไปกับการขายใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Certificates : RECs) เพื่อสามารถขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านได้ทั้ง Ecosystem ของธุรกิจ  รวมทั้งยังเป็นการสนับสนุนให้พันธมิตรทางธุรกิจสามารถบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ไปจนถึง Net Zero ได้ตามเป้าหมายที่แต่ละองค์กรวางไว้ได้ ​

เร่งแผน​ RECs  ขยาย​โอกาสใหม่ผ่านการเงินสีเขียว​

นอกจากรายได้หลักจากการขายไฟฟ้าแล้ว การขายใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียน (RECs) ยังเป็นอีกหนึ่งโอกาสสำคัญในการเพิ่มโมเดลธุรกิจใหม่ให้​​ CKPower ซึ่งถือเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพ​การเติบโตระดับสูง ในยุคที่ทุกองค์กรกำลังมุ่งขับเคลื่อนสู่การเป็นธุรกิจคาร์บอนต่ำ และให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ Decarbonization 

RECs เป็นตราสารทางการตลาดที่ใช้ยืนยันว่า ไฟฟ้าที่ใช้มาจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน เช่น ลม แสงอาทิตย์ หรือน้ำ เพียงพอที่จะผลิตไฟฟ้า 1 เมกะวัตต์-ชั่วโมง (MWh) แล้วส่งเข้าโครงข่ายไฟฟ้า โดยผู้ผลิตไฟฟ้าหรือโรงไฟฟ้าจะได้รับ RECs ทุกครั้งที่มีการส่งไฟฟ้า MWh ดังกล่าวเข้าโครงข่ายไฟฟ้า ซึ่ง RECs จะแยกออกจากไฟฟ้าเชิงกายภาพ และสามารถซื้อขายกันได้ เพื่อให้ผู้ซื้อสามารถอ้างสิทธิ์ว่า ‘ใช้ไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน’ จากจำนวน MWh ตามที่ซื้อ RECs ไป ซึ่งถือเป็นการใช้กลไกทางด้าน Green Finance หรือการเงินสีเขียวมาเพิ่มโอกาสใหม่ให้ธุรกิจ

โดยธุรกิจที่มี RECs เท่ากับได้รับการยืนยันว่าไฟฟ้าที่ใช้อยู่ตามปริมาณที่รับรอง มาจากแหล่งพลังงานสะอาด และสามารถนำไประบุไว้ในรายงานความยั่งยืน ทำให้ช่วยลด​ปริมาณการปล่อยคาร์บอนฟุตพรินท์ในภาพรวมธุรกิจ​ลงได้ และจะเป็นอีกหนึ่งแนวทางสำคัญที่ช่วยให้พันธมิตรที่มี  RECs จากทาง CKPower สามารถบรรลุเป้าหมาย Carbon Neutral และ Net Zero ได้ตามแผนที่วางไว้ ทั้งใน Scope 2 จากการใช้ไฟฟ้าและพลังงานหมุนเวียนภายในองค์กร ไปจนถึงการส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านให้พันธมิตรภายในซัพพลายเชนหรือในส่วนของ Scope 3 ได้ด้วยเช่นกัน

สำหรับโอกาสของธุรกิจ RECs ในประเทศไทย จากรายงานของ Data Intelligence ระบุไว้ว่า ตลาดใบรับรองพลังงานหมุนเวียน (REC) ของประเทศไทย มีมูลค่า 11.51 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2567 และคาดว่าจะเติบโตถึง 25.58 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2575 โดย​เติบโตเฉลี่ยได้​ถึง 9.7% ​ต่อปี จึงถือเป็นโอกาสที่น่าสนใจสำหรับ CKPower เพื่อเติบโตในตลาดใหม่ๆ ผ่านกลไกด้าน Green Finance ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งตลาดสำคัญในอนาคต

ทั้งนี้ ​​​CKPower กำลังเดินหน้าขยายการขึ้นทะเบียนโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ภายใต้ บริษัท บางเขนชัย จำกัด (BKC) สามารถเข้าสู่ธุรกิจซื้อขาย RECs ได้แล้วราว 3 ปี นับจากปี 2565 และสามารถส่งมอบ RECs ได้แล้วจำนวน 39,660.46 RECs เพื่อร่วมขับเคลื่อน​การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานสะอาด​ในระดับภูมิภาคร่วมกัน

การขับเคลื่อนของ CKPower สอดคล้องกับกลยุทธ์ความยั่งยืนตามกรอบ  C-K-P (Clean Electricity – Kind Neighbor – Partnership for Life) ในมิติของ Partnership for Life ทั้งเรื่องของธรรมาภิบาล และการปรับตัวเพื่อสร้างความยืดหยุ่นและเพิ่มโอกาส​ใหม่อันจะนำไปสู่การเติบโตที่ยั่งยืนให้องค์กร ผ่านการพัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่​ เพื่อรองรับการขยายฐานลูกค้า รวมทั้งการพัฒนานวัตกรรม และความร่วมมือใหม่ๆ ในธุรกิจพลังงานหมุนเวียน ซึ่งไม่ใช่​​เพียง​เพื่อ​​สร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจในระยะยาวเท่านั้น แต่ยัง​สร้างผลกระทบเชิงบวก ช่วยบรรเทาวิกฤตสภาพภูมิอากาศ  พร้อมตอกย้ำความเป็นผู้นำการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพเพื่อขับเคลื่อนทั้งการดูแลสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการส่งเสริมให้เกิดความมั่นคงทางพลังงานทั้งภายในประเทศไปจนถึงในระดับภูมิภาคได้​อย่างแท้จริง