Top StoriesTrending

GC จับมือ​ อว. ต่อยอด ‘จากครัว…สู่เครื่อง’ เพิ่มจุดรับ UCO ในมหาวิทยาลัย เสริมแกร่งระบบนิเวศ SAF หนุนไทยสู่ ‘ฮับการบินคาร์บอนต่ำ’ ของอาเซียน

GC จับมือ กระทรวง อว. ต่อยอดความร่วมมือ 'จากครัว...สู่เครื่อง' เพิ่มจุดรับน้ำมันพืชใช้แล้ว (UCO) ในมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ สร้างเครือข่ายคนรุ่นใหม่​ พร้อมผลักดันประเทศไทยสู่ศูนย์กลางการบินคาร์บอนต่ำของภูมิภาคอาเซียน

ในฐานะผู้นำธุรกิจเคมีภัณฑ์ระดับสากล และยังเป็นผู้ผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel: SAF) เชิงพาณิชย์รายแรกของไทย บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC จึงถือเป็นหนึ่งห่วงโซ่​สำคัญภายใน​​ SAF Supply Chian ที่​มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อน​​ระบบนิเวศการบินคาร์บอนต่ำ​​ เพื่อสร้างความพร้อมและยกระดับอุตสาหกรรมการบินของประเทศไทยไปสู่ความยั่งยืน​ได้พร้อมกันในทุกภาคส่วน และร่วม​สนับสนุน​​ผลักดันประเทศไทยสู่การเป็น ศูนย์กลางการบินคาร์บอนต่ำของอาเซียน(ASEAN Low-Carbon Aviation Hub)

โดยเฉพาะกระบวนการ​การผลิต SAF ที่ขับเคลื่อนตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความมุ่งมั่นของ GC ด้วยการเปลี่ยนขยะเหลือใช้ในครัวเรือนอย่าง ‘น้ำมันพืชใช้แล้ว(Used Cooking Oil: UCO) ให้กลายเป็นวัตถุดิบตั้งต้นสำหรับผลิต SAF ซึ่งถือเป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง​ สำหรับรองรับความต้องการใช้งานของสายการบินต่างๆ ​ที่ไม่เพียงช่วยเติมเต็ม​การสร้างระบบนิเวศการบินคาร์บอนต่ำภายในประเทศเท่านั้น แต่ขณะเดียวกันยังช่วยกระจายรายได้เพิ่มไปสู่ภาคชุมชนได้อีกทางหนึ่ง

พร้อมทั้งได้นำร่องพัฒนา​​โมเดลความสำเร็จนี้แล้ว​​ใน จ.ระยอง ​​ช่วงเดือนสิงหาคม – ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา จากความร่วมมือของ GC และภาคี​เครือข่ายศูนย์บริหารและจัดการขยะรีไซเคิล​ รวมทั้งพันธมิตรกว่า 22 แห่ง ของระยองและจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งสามารถรวบรวม UCO ได้ 7.09 ตัน เพื่อนำไปผลิต​น้ำมัน SAF ปริมาณ​ 1.75 ตัน และสร้างรายได้กลับคืนสู่ชุมชนกว่า 215,000 บาท รวมทั้ง​ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 5,654.98 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า

‘จากครัว…สู่เครื่อง’ ​ต่อยอดเครือข่ายคาร์บอนต่ำคนรุ่นใหม่

ล่าสุด GC เดินหน้าขยายแนวร่วมการขับเคลื่อนสังคมคาร์บอนต่ำในเครือข่ายกลุ่มคนรุ่นใหม่ ผ่านโครงการ จากครัว…สู่เครื่อง โดยป​ระกาศความร่วมมือกับ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เพื่อขยายจุดรวบรวมน้ำมันพืชใช้แล้ว (UCO) ภายในสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มจำนวน​จุดรับคืน UCO ให้ครอบคลุมและเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้มากขึ้น จากปัจจุบันมีจุดรับคืนรวม 56 แห่งทั่วประเทศ โดยเบื้องต้นได้นำร่องร่วมกับ 20 มหาวิทยาลัย พร้อมตั้งเป้าขยายเครือข่ายครอบคลุมมหาวิทยาลัยได้ทั่วทั้งประเทศ

ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ ​GC และ กระทรวง อว. จะร่วมกันส่งเสริมการจัดตั้งจุดรวบรวม UCO ภายในมหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมโครงการ พร้อมจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับวิธีจัดการน้ำมันพืชใช้แล้ว ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นเพื่อขยายพลังแห่งความยั่งยืนจากภาคอุตสาหกรรมสู่สถาบันการศึกษา และสร้างแรงขับเคลื่อนสำคัญให้ประเทศไทยก้าวสู่​ Net Zero 2050 พร้อมทั้งการเป็นศูนย์กลางการบินคาร์บอนต่ำของอาเซียนได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)

ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวง อว. กล่าวว่า กระทรวงมีนโยบายขับเคลื่อน มหาวิทยาลัยสีเขียว (Green University) เพื่อให้มหาวิทยาลัยทุกแห่งทั่วประเทศมีบทบาทสำคัญต่อการผลักดันประเทศไทยบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ขณะที่ความร่วมมือกับ​ GC ครั้งนี้ เป็นหนึ่งในการสร้างต้นแบบด้านการจัดการของเสีย (Waste Management) ภายในสถาบันอุดมศึกษา เพื่อร่วมสร้างความตระหนักรู้เรื่องความยั่งยืน ​พร้อมทั้งช่วยขยายผลการขับเคลื่อนสังคมคาร์บอนต่ำไปสู่สังคมวงกว้าง ซึ่งในอนาคตมีแผนจะ​ขยายเครือข่าย​จำนวนมหาวิทยาลัยที่มีความพร้อมเพื่อ​เข้าร่วมโครงการเพิ่มเติมต่อไป​

คุณณะรงค์ศักดิ์ จิวากานันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GC เปิดเผยว่า GC เชื่อมั่นในพลังของคนรุ่นใหม่และสถาบันการศึกษา โดยเชื่อว่าการผนึกกำลังผ่านโครงการครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการนำมาซึ่งการสร้างคุณค่าร่วม (Creating Shared Value) ระหว่างภาคอุตสาหกรรม ภาคการศึกษา และชุมชน อย่างเป็นรูปธรรม ​ซึ่งไม่ใช่เพียงการ​สร้างให้เกิดความตระหนักรู้เรื่องการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเท่านั้น แต่ยังเป็นการปลูกฝังวัฒนธรรมแห่งความยั่งยืน​ในกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ซึ่งจะเติบโตกลายเป็นกำลังสำคัญของชาติต่อไป​

คุณณะรงค์ศักดิ์ จิวากานันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (GC)

ตอกย้ำกลยุทธ์ High Value & Low Carbon

​​ความร่วมมือในโครงการ ‘จากครัว…สู่เครื่อง’ ของ GC ครั้งนี้ ยังเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนกลยุทธ์เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมเพื่อมุ่งสู่การเป็น ธุรกิจมูลค่าสูง – คาร์บอนต่ำ (High Value & Low Carbon Business) เนื่องจาก UCO ที่สามารถรวบรวมได้จากโครงการจะถูกส่งมอบเพื่อนำไปผลิต SAF ที่ โรงกลั่นชีวภาพ Biorefinery​ ​ซึ่งถือเป็นโรงงานแห่งแรกของไทย ที่สามารถผลิต SAF เชิงพาณิชย์ได้ จากการใช้โรงงานแห่งเดิมที่มีอยู่ ภายใต้การพัฒนาองค์ความรู้และ​เทคโนโลยีที่แตกต่างของ GC

​ความร่วมมือครั้งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งการช่วยสร้างความมั่นใจภายใน Ecosystem ตั้งแต่ต้นทางในการเตรียมความพร้อมของวัตถุดิบอย่าง UCO ไปจนถึงปลายทางอย่างสายการบินต่างๆ ในการนำ SAF ที่ผลิตได้ไปใช้ และได้รับการยอมรับ​ตามมาตรฐานการบินในระดับสากล

โรงกลั่นชีวภาพ Biorefinery​ แห่งนี้ ยังเป็นโรงงานเพียงแห่งเดียวที่สามารถรองรับการผลิตได้ทั้งพลังงานสะอาดอย่าง SAF และภายในโรงงานเดียวกันรวมทั้งจากกระบวนการผลิตเดียวกันนี้ ยังรองรับการผลิต เคมีภัณฑ์ชีวภาพ (Biochemicals) และ พลาสติกชีวภาพ (Bioplastics) ซึ่งสามารถต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์หลากหลายที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ​จึงช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้ภาคอุตสาหกรรมของประเทศไทย ในการขยายตลาดใหม่ไปสู่กลุ่มวัสดุแห่งอนาคตที่มีโอกาสเติบโตสูง ภายใต้ต้นทุนที่สามารถแข่งขันได้ และยังสอดคล้องกับทิศทางความยั่งยืนของตลาดโลกที่มองหาวัสดุคุณภาพสูงที่มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

จะเห็นได้ว่า ทุกการขับเคลื่อนและการผสานความร่วมมือของ GC และพันธมิตรต่างๆ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และการสร้างความแตกต่างอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะความร่วมมือกับภาคการศึกษา ซึ่งเป็นแหล่งองค์ความรู้สำคัญ ทำให้เพิ่มโอกาสในการ​ต่อยอดความร่วมมือในมิติอื่นๆ เพิ่มเติมได้มากขึ้นในอนาคต ไม่ว่าจะเป็น การศึกษาวิจัยด้านกระบวนการผลิตต่างๆ ​ร่วมกัน ไปจนถึงการพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ปลายทางให้มีศักยภาพและเพิ่มโอกาสในการแข่งขันได้มากขึ้น ​ทั้งใน​อุตสาหกรรมการบินยั่งยืน ​รวมทั้งวัสดุชีวภาพแห่งอนาคตซึ่งล้วนแต่เป็นการสร้างโอกาสและการขยายไปสู่ตลาดใหม่ๆ ให้ภาคอุตสาหกรรมของประเทศไทยในอนาคตได้เพิ่มมากขึ้น