หลังขับเคลื่อนโครงการ ‘Green Energy Green Network for THAIs พลังงานสะอาดเชื่อมเครือข่ายเพื่อคนไทย‘ โดยมีเป้าหมายสำคัญในการมุ่งส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพ และยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนบนพื้นที่สูงอย่างต่อเนื่อง
พร้อมนำความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาพลังสะอาด ให้สามารถเชื่อมโยงมาสู่การสร้างโอกาสให้ผู้คนในพื้นที่ห่างไกล ท้ังเรื่องของการศึกษา สาธารณสุข โดยเฉพาะการต่อยอดสู่การพัฒนาอาชีพ เพื่อสามารถสร้างรายได้เพื่อเลี้ยงตัวเอง และเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ชุมชนได้อย่างยั่งยืนในอนาคต

บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ กัลฟ์ (GULF) ในฐานะหนึ่งแกนนำสำคัญของโครงการ Green Energy Green Network for THAIs ที่ได้ลงพื้นที่เข้าไปติดตั้งแผงโซลาร์เพื่อให้ชุมชนสามารถเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานและโอกาสต่างๆ ผ่านเครือข่ายพลังงานสะอาด โดยเฉพาะการยกระดับองค์ความรู้การพัฒนาอาชีพ เพื่อเปลี่ยนวิถีชีวิตชาวไร่ในพื้นที่สูง จากที่ก่อนหน้านี้จะนิยมปลูกพืชเชิงเดี่ยวอย่างข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เพื่อเลี้ยงชีพ มาสู่การส่งเสริมให้ปลูกพืชเศรษฐกิจอย่างกาแฟ พร้อมยกระดับสู่การสร้าง ‘แบรนด์กาแฟชมุชน’ และพัฒนาสู่การเป็นศูนย์เรียนรู้เพื่อส่งต่อองค์ความรู้ไปยังพื้นที่ต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่อง
ซึ่งไม่เพียงช่วยให้ชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ขณะเดียวกันยังส่งผลดีทั้งต่อสุขภาพของชาวไร่และคนในชุมชน รวมไปถึงคุณภาพของอากาศและสภาพแวดล้อมในพื้นที่ยังดีขึ้นด้วย เพราะช่วยลดปัญหาการเผาแปลงหลังเก็บเกี่ยวผลผลิต ขณะเดียวกันยังช่วยเพิ่มพื้นที่ป่าให้มากขึ้น เนื่องจากธรรมชาติของต้นกาแฟ ที่มักจะเติบโตได้ดีภายใต้ร่มเงาของต้นไม่ใหญ่

ล่าสุด เพื่อขับเคลื่อนการส่งเสริมศักยภาพและยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนบนพื้นที่สูงอย่างต่อเนื่อง GULF ได้พาชาวบ้านในโครงการ Green Energy Green Network for THAIs จาก ชุมชนดอยมอโก้โพคี อ.ท่าสองยาง จ.ตาก และ ชุมชนดอยเวียง อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ เข้าร่วมการอบรมและศึกษาดูงานด้านการผลิตกาแฟในทุกกระบวนการอย่างครบวงจร ณ โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.เชียงราย ซึ่งเป็นผู้ผลิต ‘แบรนด์กาแฟดอยตุง’ ซึ่งมีจุดเริ่มต้นมาจากการส่งเสริมพัฒนาอาชีพให้ชุนชนชาวเขา แต่ปัจจุบันกลายเป็นแบรนด์กาแฟที่ได้รับการยอมรับและมีชื่อเสียงในระดับประเทศ พร้อมทั้งต่อยอดการเติบโตของธุรกิจได้อย่างแข็งแรงและต่อเนื่อง

ทั้งนี้ การเรียนรู้จากต้นแบบที่ดีอย่างแบรนด์กาแฟดอยตุง ทำให้กลุ่มชุมชนได้ Best Practice ที่ดี เพื่อนำไปปรับใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตได้อย่างแข็งแรง ผ่านองค์ความรู้ต่างๆ ได้อย่างครบวงจร ตั้งแต่การคัดเลือกเมล็ดพันธุ์เพื่อเพาะกล้า การจัดการแปลงกาแฟอย่างเหมาะสม การบำบัดน้ำเสียจากกระบวนการผลิต รวมถึงการฝึกชิมกาแฟเพื่อประเมินคุณภาพและรสชาติ ซึ่งเป็นองค์ความรู้สำคัญที่จะช่วยให้ชุมชนสามารถพัฒนากาแฟของตนเองให้มีมาตรฐานสูงขึ้น และเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจได้มากขึ้น สำหรับการต่อยอดเป็นอาชีพที่มั่นคงและยั่งยืนในอนาคต รวมทั้งสามารถส่งเสริมให้แบรนด์กาแฟชุมชนเติบโตและสามารถขยายตลาดได้ในวงกว้างเพิ่มมากขึ้น

คุณญาณิศา วัฒนคำนวณ ผู้อำนวยการด้านการบริหารฝ่ายกิจกรรมองค์กรเพื่อสังคม GULF กล่าวว่า จากการลงพื้นที่เพื่อเข้าไปติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ให้ทั้งชุมชนดอยเวียง และชุมชนมอโก้โพคี ทำให้พบว่าทั้ง 2 ชุมชน มีการปลูกกาแฟอยู่แล้ว แต่ยังขาดโรงสีกาแฟที่มีประสิทธิภาพเนื่องจากข้อจำกัดในการเข้าถึงพลังงานไฟฟ้า ซึ่งหลังจากการเข้าไปติดตั้งโซลาร์เซลล์ในพื้นที่ ทำให้สามารถพัฒนากระบวนการในการสีกาแฟได้มากขึ้น แต่ยังต้องการต่อยอดการพัฒนาคุณภาพของกาแฟให้ดีเพิ่มมากขึ้น
จึงนำมาสู่การต่อยอดโครงการเพื่อนำทั้ง 2 ชุมชนมาเรียนรู้กระบวนการผลิตกาแฟจากโครงการพัฒนาดอยตุง เพื่อเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญตัวจริงตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ เพื่อเพิ่มเติมองค์ความรู้และสามารถนำไปพัฒนาแปลงปลูกของตัวเอง เพื่อนำมาซึ่งการยกระดับคุณภาพของแบรนด์กาแฟชุมชนให้ดีขึ้น เพื่อสามารถเพิ่มการยอมรับและสามารถขยายตลาดได้เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งช่วยให้ชุมชนมีรายได้ที่ดีจากการปลูกกาแฟและเพิ่มความมั่นคงในอนาคตได้เพิ่มมากขึ้น

ด้านตัวแทนจากชุมชนอย่าง คุณนาตยา จิรสกุลงาม ตัวแทนชาวบ้านดอยเวียง จ.เชียงใหม่ กล่าวถึงการมาดูงานครั้งนี้ว่า ได้เรียนรู้หลายเรื่องที่ไม่เคยรู้มาก่อน เช่น กระบวนการทำกาแฟให้มีคุณภาพ การดูแลแปลงกาแฟให้เหมาะสมกับพื้นที่ การตัดแต่งกิ่งต้นกาแฟ โดยความรู้ที่ได้รับจากการเรียนในครั้งนี้ เป็นประโยชน์อย่างมาก สามารถนำไปพัฒนาต่อยอดในพื้นที่ เพื่อให้การปลูกกาแฟที่ดอยเวียงได้ผลผลิตที่คุณภาพดีขึ้น และช่วยให้สร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น

ด้าน คุณชาญชัย ทรัพย์ประมาณ ตัวแทนชาวบ้านจากดอยมอโก้โพคี จ.ตาก กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้รับความรู้ใหม่ๆ จากการอบรม ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยทราบมาก่อน และตั้งใจนำความรู้ที่ได้กลับไปถ่ายทอดให้คนในชุมชนที่ไม่สามารถมาร่วมอบรมได้ เพื่อให้เกิดการต่อยอดและพัฒนากระบวนการผลิตกาแฟที่มีประสิทธิภาพ เพื่อทำให้ชุมชนเป็นที่รู้จักและสามารถพัฒนาได้เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

กิจกรรมครั้งนี้จึงเป็นการตอกย้ำเป้าหมายสำคัญของโครงการ ‘Green Energy Green Network for THAIs พลังงานสะอาดเชื่อมเครือข่ายเพื่อคนไทย‘ ได้เป็นอย่างดี รวมทั้งการขับเคลื่อนพันธกิจด้านความยั่งยืนของ GULF ที่มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตให้คนในพื้นที่ห่างไกล และสร้างความเข้มแข็งให้คนในชุมชนในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ผ่านการขยายเครือข่ายพลังงานแสงอาทิตย์ ควบคู่กับการพัฒนาองค์ความรู้และการสนับสนุนอาชีพที่เหมาะสมตามบริบทของพื้นที่ ตามกรอบ ESG ที่สร้างผลกระทบเชิงบวกให้ทั้งการยกระดับเศรษฐกิจในชุมชน คุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมที่ดี รวมทั้งการเดินหน้าทำงานร่วมกับชุมชนในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างประโยชน์อย่างยั่งยืนให้กับสังคมไทยต่อไปเพื่อสร้างการพัฒนาให้เกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรมและจับต้องได้







