คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเปิด “พิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน” (Night at the Museum) 2568 เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2568 โดยมี ศ.ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาฯ เป็นประธานในพิธีเปิดงาน และ ศ.ดร.ประณัฐ โพธิยะราช คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน ณ ลานอะตอม คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ
ศ.ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาฯ กล่าวว่า “ความสำคัญและความพิเศษของพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืนซึ่งจัดเป็นประจำทุกปีคือการสร้างแรงบันดาลใจให้แก่เยาวชน ไม่เพียงแต่เป็นการนำเสนอผลงานทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้เยาวชนได้รับประสบการณ์ตรงที่สนุกสนาน วิทยาศาสตร์อยู่รอบตัว แนวคิดการจัดงานคือ”มองเมืองผ่านเลนส์วิทยาศาสตร์” เป็นการผสมผสานความรู้และความสนุกสนานเข้าด้วยกัน”

รศ.ดร.วิเชฏฐ์ คนซื่อ หัวหน้าภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวเสริมว่า “ไฮไลท์สำคัญของนิทรรศการคือการนำเสนอเรื่องราวของปูราชินี ซึ่งเป็นสัตว์ชนิดเดียวในประเทศไทยที่ได้รับพระราชทานพระนามาภิไธย “สิริกิติ์” เป็นชื่อสายพันธุ์ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งทรงได้รับการถวายพระราชสมัญญาเป็น “พระมารดาแห่งการคุ้มครองความหลากหลายทางชีวภาพ” นิทรรศการยังมีการจัดแสดงกบทูดซึ่งเป็นสัตว์ที่พระองค์ท่านทรงอนุรักษ์ไว้เพื่อให้คู่กับประเทศไทยด้วย
“พิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน” (Night at the Museum) ที่คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-14 ธันวาคม 2568 เวลา 16.00 – 22.00 น. ภายใต้แนวคิด “มองเมืองผ่านเลนส์วิทยาศาสตร์” เพื่อให้สาธารณชนเห็นความเชื่อมโยงระหว่างเมือง วิทยาศาสตร์ และชีวิตประจำวัน ผ่านการอธิบายปรากฏการณ์ในสังคมเมืองด้านสิ่งแวดล้อม พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติ และการออกแบบเชิงสร้างสรรค์ เพื่อสื่อว่าวิทยาศาสตร์ช่วยให้เมืองน่าอยู่และยั่งยืนได้อย่างไร
การจัดงาน “พิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน” ในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของงาน “Night at the Museum” ประจำปี 2568 เป็นการรวมพิพิธภัณฑ์ของคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ให้ชมยามค่ำคืน ได้แก่

– พิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยาฯ – นำเสนอนิทรรศการ “กู้โลก – Chamber Secret” ถ่ายทอดความลับของระบบนิเวศและบทบาทของสิ่งมีชีวิต เช่น “ปูราชินี” ซึ่งเป็นปูที่หาได้ยาก ค้นพบโดยอาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
– นิทรรศการ “Geo-Lens: มองโลกใหม่ด้วยสายตานักธรณีวิทยา” นำเสนอหิน แร่ ฟอสซิล และภูมิประเทศผ่านอุปกรณ์หลากหลาย ตั้งแต่เลนส์ขยายถึงกล้องจุลทรรศน์ พร้อมภาพถ่ายธรรมชาติระดับโลกและตัวอย่างจริง
– พิพิธภัณฑ์พืช ศ.กสิน สุวตะพันธุ์ นำเสนอนิทรรศการ “พืชเพื่อชีวิตดี๊ดี (Plant for a Better Life)” นำเสนอการใช้ประโยชน์จากพืชด้านอาหาร สมุนไพร และมิติทางวัฒนธรรมตามหลักวิทยาศาสตร์
– พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีทางภาพ ศ.ศักดา ศิริพันธุ์ฯ นำเสนอนิทรรศการ “Through the Lens” ชุดภาพถ่าย Faces of Bangkok และการเดินทางของแสงผ่านเลนส์ เพื่อให้ผู้เข้าชมได้เข้าใจเทคโนโลยีการมองเห็นและศิลปะการถ่ายภาพ

ภายในงานมีนิทรรศการและกิจกรรมต่าง ๆ โดยภาควิชาต่าง ๆ ในคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ได้แก่ภาควิชาคณิตศาสตร์และวิทยาการคอมพิวเตอร์ ภาควิชาเคมี ภาควิชาฟิสิกส์ ภาควิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม ภาควิชาเคมีเทคนิค ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล ภาควิชาชีวเคมี ภาควิชาจุลชีววิทยา ภาควิชาวัสดุศาสตร์ ภาควิชาเทคโนโลยีทางอาหาร รวมทั้งนิทรรศการโดยศูนย์บริหารหลักสูตรวิทยาศาสตร์บูรณาการ สถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ จุฬาฯ และศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้เพื่อภูมิภาคจุฬาฯ โดยคณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาฯ นำเสนอการแสดงวงเครื่องสายสากลในวันที่ 12 และ 13 ธันวาคม 2568 เวลา 18.00-19.00 น.
นอกจากนี้ยังมีการเสวนาในหัวข้อเรื่อง “ปูราชินี” โดยภาควิชาชีววิทยา พระพันปีหลวง ผู้ชุบชีวิต “ผ้าไทย” โดยภาควิชาวัสดุศาสตร์ ยาดมไทย: เปลี่ยนผ่านภูมิปัญญา สู่มาตรฐานสากลโดยภาควิชาจุลชีววิทยา และภาควิชาพฤกษศาสตร์ และ “Mona Lisa: Night Light Scan” โดยศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์งานศิลปะ (SCICCA)

ทั้งนี้ พิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ของคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่เป็นเครือข่ายพิพิธภัณฑ์สังกัดมิวเซียมสยามและร่วมโครงการ Muse Pass มาตั้งแต่ปี 2559 ต่อมาพัฒนาเป็น Thailand Museum Pass ในปี 2562 และร่วมจัดงาน “เทศกาลชมพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน (Night at the Museum)” เป็นประจำทุกปี โดยในปี 2567 ที่ผ่านมามีผู้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ของคณะวิทยาศาสตร์ตลอดสามคืนที่จัดงานมากกว่า 10,000 คน
ผู้สนใจเข้าชมนิทรรศการ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/share/14QoFGP3QQY/







