ปัจจุบันผลกระทบจากปัญหา สภาพอากาศ และ สิ่งแวดล้อม รุนแรงมากขึ้น ทั้งในมิติของสุขภาพ คุณภาพชีวิต และการดำเนินธุรกิจ
- วิกฤตสภาพอากาศ ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน กระทบทุกคน ทุกพื้นที่ทั่วโลก
- หลายประเทศคู่ค้าสำคัญของไทย เริ่มประกาศ Green Policies สู่เศรษฐกิจสีเขียว
- ประเทศไทยขยับเป้าหมาย Net Zero เร็วขึ้น พร้อมเร่งบังคับใช้ พ.ร.บ.โลกร้อน ภายในปี 2569
จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้เทรนด์ ‘ที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม’ เติบโต สะท้อนผ่านสัญญาณต่างๆ ต่อไปนี้ เช่น
- ผลประกอบการ ‘ธุรกิจที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม’ ในประเทศไทย ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2564 -2566) เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยใน ปี 2566 มีรายได้ 8,719 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,600 ล้านบาท ซึ่งเติบโตได้ถึง 23%
- การซื้อขายคาร์บอนเครดิต เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยในปี 2567 มีราคาเฉลี่ย 125 บาทต่อตัน CO2e สูงที่สุดในรอบ 5 ปี
- แนวโน้มขาดแคลนบุคลากรสายสิ่งแวดล้อม ทั้งที่ปรึกษา ผู้ตรวจสอบ และผู้ทวนสอบ โดยบุคลากรในสายงาน อาทิ กลุ่มที่ปรึกษามีราว 530 ราย (ทั้งบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล), บุคคลผู้ตรวจสอบ หรือผู้ทวนสอบ มีราว 100 ราย และบริษัทผู้ตรวจสอบและผู้ทวนสอบ มีราว 20 ราย ขณะที่มีจำนวนนิติบุคคลมากกว่า 800,000 ราย ที่ต้องมีการจัดทำรายงานการปล่อยคาร์บอนและความยั่งยืน
ทั้งนี้ มีการประเมินความต้องการบุคลากรสายสิ่งแวดล้อมจะเพิ่มขึ้นถึง 50,000 ตำแหน่ง ภายในช่วง 3 ปีข้างหน้านี้
ทำไมต้องมี ‘ที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม’ ?
1. เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อม
- ช่วยให้ธุรกิจปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อม ลดความเสี่ยงต่อการเสียค่าปรับหรือถูกดำเนินคดี
2. การประเมินและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
- ช่วยวิเคราะห์และประเมินผลกระทบของการดำเนินงานององค์กรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น GHG Emission การใช้น้ำ การจัดการของเสีย เพื่อหาวิธีลดผลกระทบเหล่านี้ให้มากที่สุด
3. การสนับสนุนและพัฒนาโครงการเพื่อความยั่งยืน
- ช่วยองค์กรพัฒนาโครงการเพื่อความยั่งยืน เช่น การใช้พลังงานทดแทน การจัดการของเสีย หรือโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
4. การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับคาร์บอนเครดิตและการลดคาร์บอน
- ช่วยองค์กรในการจัดการและซื้อขายคาร์บอนเครดิต รวมถึงการวางกลยุทธ์การลดคาร์บอนที่เหมาะสม เพื่อบริหารความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายด้านสิ่งแวดล้อมในอนาคต
5. การบริหารความเสี่ยงจากปัจจัยสิ่งแวดล้อม
- ปัญหาสภาพภูมิอากาศ การขาดแคลนทรัพยากร และกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อม เป็นความเสี่ยงที่ธุรกิจต้องเผชิญ การมีที่ปรึกษาจะช่วยแนะนำการวางแผนรับมือและปรับกลยุทธ์เพื่อลดผลกระทบจากความเสี่ยงได้
6. ช่วยสร้างภาพลักษณ์และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
- ธุรกิจที่ดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะในยุคที่ผู้บริโภคและคู่ค้าหันมาใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อม
โอกาสธุรกิจ ‘ที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม’
- ‘ที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม’ มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ธุรกิจและองค์กรสามารถลด ความเสี่ยง ในดารดำเนินงาน โดยคำนึงถึงความยั่งยืน และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาวในหลากหลายมิติ
- ส่งผลให้อาชีพในกลุ่มที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม มีโอกาสเติบโตอย่างมากในปัจจุบันและอนาคตอันใกล้ เนื่องจากกระแสการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหลายประเทศกำหนดขึ้นเพื่อควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
แต่จากปริมาณที่จำกัดของบุคลากร สร้างโอกาสให้กับธุรกิจ ‘ที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม’ กลายเป็นที่ต้องการของตลาด เปรียบเทียบได้กับ’มนุษย์ทองคำ’ ซึ่งเป็นที่ต้องการของทุกฝ่าย โดยเฉพาะใน4 กลุ่มงานหลักต่อไปนี้
1. กลุ่มงานพัฒนา ความยั่งยืน องค์กร
- – เจ้าหน้าที่พัฒนาความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม, สังคม, ธรรมาภิบาล
2. กลุ่ม ที่ปรึกษา และ นักวิเคราะห์ การจัดการก๊าซเรือนกระจก ได้แก่
- ที่ปรึกษาด้านการประเมินก๊าซเรือนกระจก
- ที่ปรึกษาความเสี่ยงด้านสภาพอากาศ ออกแบบมาตรการลดผลกระทบ (Mitigation) และการรับมือ (Adaptation)
- เจ้าหน้าที่โครงการพลังงานหมุนเวียน
- นักวิเคราะห์ด้านความยั่งยืน
3. กลุ่มตรวจสอบและทวนสอบรายงานการประเมินก๊าซเรือนกระจก Validator หรือ Verifier
- ผู้ทวนสอบ ผู้เชี่ยวชาญ และประเมินรับรองโครงการลดก๊าซเรือนกระจก (Assessment)
4. กลุ่มงานการจัดการและซื้อขาย คาร์บอนเครดิต
- ผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจวัดบัญชีคาร์บอนเพื่อการลดและชดเชย
- ผู้จัดการด้านการซื้อขายคาร์บอนเครดิต






