ท่ามกลางปัญหาขยะอาหารจากอาหารส่วนเกินที่ขายไม่หมดและเพิ่มมากขึ้นในแต่ละวัน ควบคู่กับค่าครองชีพที่สูงขึ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นำมาสู่การขับเคลื่อนแพลตฟอร์ม Yindii (ยินดี) เพื่อมุ่งการจัดการอาหารส่วนเกิน (Surplus Food) อย่างยั่งยืนในระดับภูมิภาคเอเชีย
Yindii ก่อตั้งขึ้นในปี 2563 โดย คุณหลุยส์-อัลบาน บาตาร์ด-ดูเพร และ คุณมหิมา ราชางกัม นาตาราจัน เพื่อเชื่อมโยงร้านอาหาร เบเกอรี ร้านค้า และโรงแรม กับผู้บริโภค ผ่านการจำหน่ายอาหารส่วนเกินที่ยังมีคุณภาพแต่ขายไม่หมดในรูปแบบ ‘กล่องสุ่ม’ หรือ ‘ถุงเซอร์ไพรส์’ (Surprise Bag) ด้วยราคาที่ลดลง 50–80% จากราคาปกติ
แนวคิดดังกล่าวช่วยเปลี่ยนอาหารที่กำลังจะถูกทิ้งให้กลับมาสร้างคุณค่าในรูปแบบของมื้ออาหารในราคาลดพิเศษ พร้อมนำเสนอทางแก้ปัญหาที่เรียบง่าย สามารถขยายผลได้จริง และสร้างประโยชน์ร่วมกันให้กับผู้บริโภค ภาคธุรกิจ และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ Yindii มีเป้าหมายเชื่อมโยงกลุ่มผู้ประกอบการในธุรกิจอาหาร ทั้งร้านอาหาร เบเกอรี ร้านค้า และโรงแรม เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภค และสามารถนำอาหารที่จำหน่ายไม่หมดแต่ยังมีคุณภาพดีเพื่อจำหน่ายต่อในรูปแบบ ‘กล่องสุ่ม’ หรือ ‘ถุงเซอร์ไพรส์’ (Surprise Bag) ด้วยราคาที่ลดลง 50–80% จากราคาปกติ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการมีช่องทางในการจำหน่ายอาหารที่เป็น Surplus Food ขณะที่ผู้บริโภคก็สามารถซื้ออาหารได้ในราคาที่คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น รวมทั้งยังช่วยลดปริมาณขยะอาหารให้ลดน้อยลงได้อีกทางหนึ่ง
ทั้งนี้ การขับเคลื่อนในปี 2568 ชุมชนผู้ใช้งาน Yindii ทั่วภูมิภาคสามารถช่วยลดการสูญเสียอาหารได้มากกว่า 500,000 มื้อ หรือเฉลี่ยประมาณ 1 มื้อต่อนาที ส่งผลให้สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่า 1,375 ตัน
ปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่ลดลงดังกล่าวเทียบเท่ากับการขับรถยนต์ใช้น้ำมันเป็นระยะทางราว 11 ล้านกิโลเมตร หรือระยะทางรอบโลก 277 รอบรวมทั้งใกล้เคียงกับการปล่อยคาร์บอนจากการใช้น้ำมันเบนซินราว 580,000 ลิตร หรือการเดินทางด้วยเที่ยวบินโดยสารเที่ยวเดียวจากปารีสไปนิวยอร์กประมาณ 575 เที่ยว

คุณมหิมา ราชางกัม นาตาราจัน ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของ Yindii กล่าวว่า ทุกมื้ออาหารที่นำไปบริโภคต่อไม่ให้สูญเปล่า คืออีกหนึ่งก้าวสำคัญในการทำให้อาหารที่มีคุณภาพดีสามารถเข้าถึงได้ด้วยราคาที่จับต้องได้สำหรับทุกคน Yindii กำลังพิสูจน์ให้เห็นว่าความคุ้มค่าและความยั่งยืนสามารถเดินเคียงข้างกับความเท่าเทียมทางสังคมได้อย่างแท้จริง
“สิ่งที่เราภาคภูมิใจที่สุด คือการได้เห็นครอบครัว นักศึกษา และพนักงานออฟฟิศ ค้นพบร้านโปรดในย่านของตนเอง พร้อมรับรู้ว่าการตัดสินใจบริโภคของพวกเขามีส่วนช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม ขณะเดียวกัน ร้านค้าพันธมิตรทางธุรกิจยังสามารถเปลี่ยนอาหารที่ขายไม่หมดในแต่ละวัน ที่เคยถูกจัดการด้วยการทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ให้กลายเป็นแหล่งรายได้ใหม่ สร้างความผูกพันกับลูกค้า และเสริมขวัญกำลังใจให้กับทีมงาน”
ปัจจุบัน แบรนด์อาหารและเครื่องดื่มหลายพันรายได้นำอาหารส่วนเกินที่ขายไม่หมดมาสร้างมูลค่าเป็นรายได้กลับคืนอย่างมีความหมาย โดยสร้างรายได้หมุนเวียนกลับคืนสู่ธุรกิจได้มากกว่า 78 ล้านบาท แทนที่จะสูญเปล่าไปกับการถูกทิ้ง
ทั้งนี้ ในปี 2568 Yindii จำหน่ายอาหารส่วนเกินที่ได้มากกว่า 230,000 มื้อในกรุงเทพฯ บนแพลตฟอร์ม สร้างระบบนิเวศที่แข็งแกร่งด้วยยอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชันมากกว่า 100,000 ครั้ง และสร้างพันธมิตรทางธุรกิจมากกว่า 400 ราย ช่วยให้ผู้ใช้งานประหยัดค่าใช้จ่ายรวมกันกว่า 4 ล้านบาท พร้อมช่วยลดอาหารที่ถูกทิ้งกว่า 20,000 กิโลกรัม ชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 50,000 กิโลกรัม

ขณะเดียวกันการนำแพลตฟอร์มไปใช้งานอย่างต่อเนื่องของพันธมิตรทางธุรกิจ ส่งผลให้สามารถลดปริมาณอาหารที่ถูกทิ้งได้ในระดับสูงตลอดทั้งปี โดยแบรนด์ชั้นนำอย่าง St. Regis, Landhaus และ Tiengna มีอัตราการทิ้งอาหารลดลงถึง 70–90%
สำหรับการดำเนินงานในประเทศไทย ยังถือเป็นตลาดแรกที่มีการขยายการดำเนินงานจากภาคธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มไปสู่อุตสาหกรรมโรงแรม เพื่อจัดการอาหารที่ขายไม่หมดจากไลน์บุฟเฟต์ โดยมีโรงแรมชั้นนำเข้าร่วมมากกว่า 50 แห่ง อาทิ Conrad, The Athenee Hotel และ Centara Grand at CentralWorld ขณะเดียวกัน นวัตกรรม Fill & Go เวอร์ชั่นทดลองที่ The Okura Prestige Bangkok ที่ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้ออาหารได้ที่ร้าน เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานมานี้ และช่วยตอกย้ำบทบาทของกรุงเทพฯ ในฐานะตลาดต้นแบบสำหรับการขยายบริการไปยังฮ่องกงและสิงคโปร์ในอนาคตอีกด้วย
แพลตฟอร์ม Yindii ตั้งเป้าการขับเคลื่อนในปี 2569 เพื่อต่อยอดการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยการขยายบริการไปยังเมืองใหม่ๆ รวมถึงประเทศเกาหลีใต้ พร้อมเดินหน้าสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจในตลาดที่ดำเนินงานอยู่แล้วให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เป้าหมายสำคัญคือการทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงอาหารคุณภาพดีในราคาที่จับต้องได้มากขึ้น แทนที่จะปล่อยให้อาหารเหล่านั้นถูกทิ้งเป็นขยะ และช่วยให้ภาคธุรกิจมองอาหารที่ขายไม่หมดเป็นโอกาสในการสร้างมูลค่า แทนที่จะเป็นต้นทุนหรือความสูญเสีย
“พันธกิจของ Yindii ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงการทำธุรกรรมบนแพลตฟอร์มเท่านั้นแต่ยังรวมถึงการสร้างชุมชนที่ผู้คนมีส่วนร่วมในการลดการสูญเสียอาหารด้วยการสร้างคุณค่าและความสุขอีกครั้ง ซึ่งแนวคิดดังกล่าวได้สร้างฐานชุมชนที่เข้มแข็งในประเทศไทย ฮ่องกง และสิงคโปร์แล้ว และ Yindii พร้อมเดินหน้าสร้างชุมชนฮีโรด้านอาหาร (Food Hero)ในเมืองใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องในอนาคต” คุณมหิมา กล่าว

ความสำเร็จของ Yindii ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงในภาคอาหารและผู้บริโภค แต่รวมถึงเวทีด้านความยั่งยืนและนโยบายสาธารณะ โดยในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา Yindii ได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในผู้เข้ารอบสุดท้ายของรางวัล Spirit of Hong Kong Awards จากแนวทางเชิงนวัตกรรมในการจัดการอาหารส่วนเกินที่ขายไม่หมดและลดการเกิดอาหารเหลือทิ้งอย่างเป็นรูปธรรม
นอกจากนี้ ภายในงาน Impact Week ณ ONE ประเทศสิงคโปร์ Yindii ยังได้จัดงาน Yindii Eco-Brand Awards 2025 เพื่อยกย่อง 25 แบรนด์ชั้นนำและพันธมิตรด้านสื่อที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการลดปัญหาขยะอาหาร ภาคธุรกิจ โดยได้รับเกียรติจาก คุณโพ ลี ซาน ประธานคณะกรรมาธิการด้านสิ่งแวดล้อมของรัฐสภาสิงคโปร์ เป็นแขกกิตติมศักดิ์ ซึ่งได้กล่าวถึงสถานการณ์ปัญหาขยะอาหารของสิงคโปร์ที่มีมากถึง 800,000 ตันต่อปี พร้อมเน้นย้ำว่าการจัดการอาหารที่สูญเสียไม่เพียงเป็นประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังเป็นปัจจัยสำคัญต่อ ความมั่นคงทางอาหารและความยั่งยืนของประเทศในระยะยาวอีกด้วย
นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2563 Yindii มีผู้ใช้งานที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดขยะอาหารหรือฮีโรด้านอาหารกว่า 700,000 ราย สามารถช่วยลดการสูญเสียอาหารได้มากกว่า 900,000 มื้อ และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการฝั่งกลบไปแล้วกว่า 2,250 ตัน ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมและความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ได้ที่ www.yindii.co หรือทางช่องทาง Instagram, Facebook และ LinkedIn ของ Yindii






