พอแล้วดี The Creator เปิดโครงการปีที่ 7 โมเดลขับเคลื่อนธุรกิจด้วย “ความพอดี” เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

ก้าวเข้าสู่ปีที่ 7 แล้ว สำหรับโครงการพอแล้วดี ​ The Creator  โครงการที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนานักธุรกิจไทยให้เติบโตภายใต้ “ความพอดี” ทั้งกำไรทางธุรกิจ เกื้อกูลชุมชน เกื้อกูลโลก ตามแนวคิดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หรือศาสตร์พระราชา (Sufficiency Economy Philosophy – SEP) อันนำไปสู่ความเข้มแข็งของธุรกิจ สังคม และโลกในอนาคตอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน

ดร. ศิริกุล เลากัยกุล ผู้อำนวยการ โครงการพอแล้วดี The Creator กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของโครงการพอแล้วดี The Creator ว่า เกิดจากแนวคิดที่ว่าทุกคนมีโอกาสที่จะเป็นนักธุรกิจที่เกื้อกูลคนอื่นได้ โดยทั่วไปคนชอบคิดว่าหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง คือการทำไร่ ทำนา ทำสวน นึกถึงแต่เรื่องการทำเกษตร แต่ความจริงที่พระองค์ท่าน ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงสอนไว้ สามารถนำไปปรับใช้ได้กับทุกรูปแบบของชีวิตและธุรกิจได้อย่างประสบความสำเร็จ มั่งคั่ง มั่นคง ยั่งยืน

สำหรับโครงการ “พอแล้วดี The Creator” ได้จัดการอบรมมาแล้ว 6 รุ่น ส่งเสริมนักธุรกิจรุ่นใหม่กว่า 120 แบรนด์ อาทิ  ไร่สุขพ่วง จันทรโภชนา  บ้านไร่ไออรุณ  The Yard Hostel  HOM Hostel & Cooking Club Hug Organic  ข้าวธรรมชาติ  ข้าวเพลงรัก ภูคราม Yano FolkCharm Kaspy Chew Green ว.ทวีฟาร์ม Dose BWILD ISAN บัวลอยกลมเกลียว madaraidee Greenery และอีกมากมาย

โดยปีนี้โครงการพอแล้วดี The Creator รุ่นที่ 7 ได้เปิดรับสมัครนักธุรกิจรุ่นใหม่ หัวใจเกื้อกูลทั่วประเทศ และคัดเลือกเพียง 16 แบรนด์  เพื่อเข้าร่วมการอบรมเชิงปฏิบัติการ (Training Workshop) เป็นระยะเวลารวมประมาณ 3 เดือน เพื่อแลกเปลี่ยน เรียนรู้ อบรม และพัฒนาให้เกิด “พอแล้วดี The Creator” ที่จะเป็นผู้นำการสร้างการเปลี่ยนแปลงในโลกธุรกิจ ให้เกิดการดำเนินธุรกิจตามแนวคิดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy Philosophy – SEP) ร่วมกับแนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) โดยนำทั้งสองศาสตร์มาประสานกันเพื่อให้เกิดการพัฒนาธุรกิจที่สอดประสานกับวิถีชีวิตและแนวคิดของการทำธุรกิจในโลกใหม่ที่ไม่ได้มองเพียงแค่ผลกำไรจากการดำเนินธุรกิจอย่างเดียว แต่ยังคำนึงถึงชุมชน สังคม สิ่งแวดล้อมและโลก พร้อมที่จะเป็นพลังธุรกิจที่จะขับเคลื่อนผลกำไรให้เกิดกับทั้งธุรกิจตน สังคม และ โลก ไปพร้อมๆ กัน เพื่อให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนที่จับต้องได้อย่างแท้จริง

นอกจากนี้ โครงการยังมีความมุ่งมั่นที่จะต่อยอดการสร้างนักธุรกิจรุ่นใหม่ หัวใจเกื้อกูลให้ขยายผลออกไปในวงกว้างทั่วประเทศมากยิ่งขึ้น โดยวางแผนจัด พอแล้วดี สัญจร ขึ้นในเมืองหลักทางธุรกิจใน 4 ภูมิภาคของไทย อาทิ เชียงราย ตรัง สุโขทัย บึงกาฬ หรือ ขอนแก่น และจะจัดภายในเดือน กันยายน – ตุลาคม คาดว่าเริ่มเปิดรับสมัครผู้สนใจเข้าฟังการอบรม ระยะเวลา 2 วันเต็ม ประมาณต้นเดือนสิงหาคม เปิดรับนักธุรกิจรุ่นใหม่ หัวใจเกื้อกูล ครั้งละไม่เกิน 25 – 30 แบรนด์ ซึ่งใน 2 วันของการอบรม จะเป็นการเรียนรู้ และ ฝึกปฏิบัติการจริงในเรื่องการสร้างแบรนด์ ผ่านแบรนด์ โมเดล และ การเข้าใจถึงหลักการสำคัญในการทำ Business Model Canvas (BMC) จากวิทยากรระดับประเทศ

แนะ 3 หลัก สร้างธุรกิจยั่งยืนยุค Post Covid

ดร.ศิริกุล กล่าวต่ออีกว่า ตอนนี้ทุกคน ทุกธุรกิจได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 อย่างเสมอหน้ากัน ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจเล็กหรือใหญ่ ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุดของคน สังคม และโลก เพราะเป็นช่วงเวลาที่ผู้คนและธุรกิจหันกลับมาคิดใหม่ ตั้งหลัก ทำใหม่ ผ่านการหาเป้าประสงค์ที่แท้จริง (purpose) ในการทำธุรกิจ การดำรงชีวิตอีกครั้ง เพื่อให้เกิดการทำธุรกิจให้ยั่งยืนหลังวิกฤต COVID-19 และปัจจัยสำคัญที่จะช่วยทำให้ธุรกิจยั่งยืนหลังวิกฤต COVID-19 มีอยู่ 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่

– พนักงานที่มีความรู้และมีศักยภาพ คือ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจยั่งยืน การสนับสนุนให้พนักงานมีบทบาทหน้าที่สับเปลี่ยนกันได้ จะทำให้องค์กรมีความยืดหยุ่นมากขึ้น และ เราอยู่ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในการทำงานมากขึ้นทุกวัน ธุรกิจจึงควรให้พนักงานมีโอกาสศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม เพราะ การพัฒนา เพิ่มพูนความรู้ให้กับพนักงานคือการสร้างกำลังสำคัญให้กับองค์กร

– การปรับเปลี่ยนกระบวนการจัดการภายในองค์กรให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตและรูปแบบการทำงานในยุคปัจจุบันมากขึ้น อาทิ การทำงานที่ไหนก็ได้ “work anywhere concept” อาจสร้างให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานมากกว่าการทำงานแบบต้องเข้าออฟฟิสเป็นประจำ

– การพึ่งพากัน การเกื้อกูลกันของธุรกิจ ชุมชน และ โลก เพราะการดำรงอยู่ของธุรกิจ/แบรนด์ในยุคปกติใหม่ จะถูกเรียกร้องจากผู้คนในโลกให้ดำรงอยู่ไม่ใช่แค่ผลกำไรของตนเองเท่านั้น เพราะตลาดหดตัว กำลังซื้อลดลง แต่ธุรกิจ/แบรนด์ที่ดำรงอยู่ด้วยเป้าประสงค์ (purpose) ที่เกื้อกูลทั้งธุรกิจตน สังคม และ โลก จะเป็นธุรกิจที่ทุกผู้คนจะชื่นชอบและภักดี การพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อชุมชน (local economy) และ เศรษฐกิจสร้างสรรค์ (creative economy) จะกลายเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญสูงสุดของการเติบโตทางเศรษฐกิจของทุกธุรกิจ/แบรนด์ เพราะการที่ต้องพึ่งพาเศรษฐกิจจากต่างประเทศเป็นหลักนับเป็นความเสี่ยงที่สูงมาก ดังนั้นการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อชุมชนและสร้างสรรค์ จึงเป็นคำตอบในการสร้างธุรกิจ/แบรนด์ให้เติบโตอย่างยั่งยืนในยุคปกติใหม่นี้อย่างแน่นอน

“ในฐานะ “พอแล้วดี The Creator” ผู้พร้อมจะเป็นผู้สานต่อศาสตร์พระราชา ทำให้สังคมและภาคธุรกิจได้ประจักษ์ว่า ความพอเพียงพอประมาณ และการเกื้อกูลอย่างสมดุลจะสามารถนำพาทุกส่วนที่เกี่ยวข้องไปสู่ความเจริญก้าวหน้าร่วมกันได้ และปีนี้เป็นปีที่ 7 ที่โครงการ “พอแล้วดี The Creator” ได้จัดขึ้นอีกครั้งหนึ่งด้วยการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารกสิกรไทย และบริษัท สมาร์ท คอส ในฐานะองค์กรที่ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนและการสร้างนักธุรกิจที่รับผิดชอบต่อสังคม และที่น่าประทับ ใจยิ่งคือได้รับความร่วมมืออย่างสูงยิ่งจากวิทยากรระดับประเทศผู้ล้วนมีความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการ การสร้างแบรนด์ การทำการตลาด ตลอดจนการสร้างนวัตกรรมสังคม ผู้พร้อมสละเวลาและให้ความรู้ต่อผู้เข้า  ร่วมโครงการทุกคนอย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง”

Stay Connected
Latest News