โค้ก เปิดตัวบรรจุภัณฑ์รีไซเคิล นำร่องขนาด 1 ลิตร พร้อมผนึกพันธมิตร ชวนผู้บริโภค ‘แยกขยะ คืนขวด’ หวังเพิ่มซัพพลาย Bottle to Bottle

กลุ่มธุรกิจโคคา-โคล่า ในประเทศไทย เปิดตัวบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากพลาสติก PET รีไซเคิล (rPET) 100% (ไม่รวมฉลากและฝา) สำหรับเครื่องดื่ม ‘โค้ก’ ออริจินัล และ สูตรไม่มีน้ำตาล ขนาด 1 ลิตร สำหรับจำหน่ายทั่วประเทศไทยแล้ว

ปัจจุบันทุกตลาดที่​ ‘โคคา -โคล่า’ ทำตลาดอยู่จากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก จะมีอย่างน้อย 1 แบรนด์ ที่มีการใช้บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจาก rPET ​ รวมทั้ง​ประเทศในภูมิภาค​อาเซียน เช่น อินโดนีเซีย เมียนมา เวียดนาม ​ขณะที่ในประเทศไทย หลังจากมีการปลดล็อกให้สามารถนำ rPET มาบรรจุอาหารได้ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ก็ได้เดินหน้าใช้ rPET จากทาง ENVICCO ซึ่งเป็นผู้ผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลรายแรกของประเทศไทย ที่ได้รับการรับรองจาก อย. และมีเทคโนโลยีการรีไซเคิลที่ทำให้เม็ดพลาสติกรีไซเคิลมีคุณสมบัติทัดเทียมกับเม็ดพลาสติกใหม่ และสามารถนำไปใช้ผลิตบรรจุภัณฑ์ที่สัมผัสอาหารได้ เพื่อมาเป็นวัตถุดิบสำหรับการผลิตบรรจุภัณฑ์สำหรับโค้ก ขนาด 1 ลิตร

คุณศรุต วิทยารุ่งเรืองศรี ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ การสื่อสาร และความยั่งยืน บริษัท โคคา- โคล่า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การขับเคลื่อนดังกล่าวสอดคล้องกับวิสัยทัศน์​​ World Without Waste เพื่อร่วม​ขับเคลื่อนความยั่งยืนของโคคา-โคล่าทั่วโลก ​โดยวางเป้าหมายที่ต้องพิชิตได้ในแต่ละระยะ เช่น ในปี 2025 บรรจุภัณฑ์ทั้งหมดจะต้องสามารถนำไปรีไซเคิลได้ทั้ง 100% และในปี 2030 ​บรรจุภัณฑ์ราว 50% ต้องผลิตมาจากวัสดุรีไซเคิล (Recycle Content) รวมทั้งเพิ่มความสามารถในการเก็บกลับบรรจุภัณฑ์ได้เทียบเท่ากับปริมาณที่ขายไป

“สำหรับการขับเคลื่อนตามวิสัยทัศน์ World Without Waste ในประเทศไทย จะขับเคลื่อนผ่าน 3 มิติ คือ Design ผ่านการออกแบบผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ต้นทางเพื่อช่วยให้รีไซเคิลได้ง่าย เช่น การเปิดตัวขวด rPET โค้ก 1 ลิตร ทั้งสูตรออริจิทัล และไม่มีน้ำตาลในวันนี้ รวมทั้งการเปลี่ยนสีขวดสไปร้ท์จากสีเขียวเป็นแบบใส ที่มีการดำเนินงานไปก่อนหน้านี้ นอกจากจะโฟกัส Collect การดำเนินการผ่านโครงการต่างๆ เพื่อเพิ่มปริมาณในการเก็บกลับบรรจุภัณฑ์หลังจากบริโภคแล้ว ให้สามารถกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลให้มากที่สุด ซึ่งจำเป็นต้องอาศัย Partner ในการขับเคลื่อนแคมเปญร่วมกับพันธมิตรหลายภาคส่วน ทั้งการ Educate เรื่องของการแยกขยะ รวมทั้งส่งเสริมให้ผู้บริโภคสามารถส่งคืนบรรจุภัณฑ์เข้าระบบได้ง่ายและสะดวกที่สุด”​

ทั้งนี้ ในการเปิดตัวบรรจุภัณฑ์รีไซเคิลครั้งนี้ ยังได้จัดแคมเปญ “โค้ก” คิดเพื่อโลก กับขวดจากพลาสติกรีไซเคิล 100% ไม่รวมฉลากและฝาขวด ที่ห้างสรรพสินค้าเอ็มควอเทีย โดยมุ่งเน้นสร้างความตระหนักรู้และวิธีการที่ถูกต้องในการแยกขยะและการรีไซเคิล พร้อม​สื่อสารไปยังผู้บริโภคในวงกว้างผ่านสื่อโฆษณานอกบ้าน สื่อดิจิทัล เหล่าอินฟลูเอนเซอร์ รวมถึงกิจกรรมการร่วมคืนขวด “โค้ก” ในอีเว้นต์ของ “โคคา-โคล่า” ที่ผู้บริโภคจะได้ร่วมลุ้นของรางวัลและบัตร VIP สำหรับเข้าชมคอนเสิร์ต COKE Studio และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยผู้บริโภคสามารถร่วมรีไซเคิลได้โดยการนำขวดพลาสติกไม่จำกัดแบรนด์ไปหย่อนไว้ที่จุดรับขวดของ “โคคา-โคล่า” ณ ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ และเซ็นเตอร์พอยท์ สยามสแควร์ ซึ่งขวดพลาสติกที่รวบรวมได้จะถูกนำไปรีไซเคิลโดย บริษัท เอ็นวิคโค จำกัด เพื่อคืนชีวิตให้ขวดพลาสติกเหล่านั้นกลายเป็นบรรจุภัณฑ์ “โค้ก” ที่ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล 100% ไม่รวมฉลากและฝาขวด ที่นำมาใช้ได้อีกไม่รู้จบ

เร่ง Educated ผู้บริโภคแยกขยะ ​ช่วยเพิ่มซัพพลาย rPET

หลัง​นำร่องบรรจุภัณฑ์โค้ก rPET ในประเทศไทย ​สิ่งสำคัญที่ต้องขับเคลื่อนจากนี้คือ เร่งสร้างความมั่นใจต่อผลิตภัณฑ์รีไซเคิลในกลุ่มบรรจุภัณฑ์อาหาร เพราะแม้จะมีการสื่อสารมาสักระยะหนึ่งแล้ว แต่ยังมีผู้บริโภคบางส่วนที่ยังคงกังวล ดังนั้น จำเป็นต้องเพิ่มการ Educated ทั้งเพื่อสร้างความมั่นใจต่อผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะการรับรองมาตรฐาน อย. ของไทย ซึ่งมีความเข้มข้นมากกว่าในหลายตลาดทั่วโลก ทั้งประเภทวัสดุที่จะนำมาผลิตเม็ด rPET ที่จะนำมาจากกลุ่มบรรจุอาหารเท่านั้น หรือการพัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถป้องกันสารปนเปื้อนในระดับสูงสุด รวมไปถึงการอนุญาตที่จะค่อยๆ นำร่อง​ทีละกลุ่มโดยเริ่มจากพลาสติก PET ก่อน แทนที่จะอนุมัติให้แบบยกล็อต เพื่อค่อยๆ ศึกษาผลตอบรับต่างๆ อย่างรอบด้านรวมทั้งยังให้ความสำคัญกับผลกระทบต่อผู้บริโภคเป็นสำคัญ เป็นต้น

รวมไปถึงการเดินหน้าสร้างความตระหนักในการคัดแยกขยะ เพื่อสามารถเพิ่มปริมาณเก็บกลับบรรจุภัณฑ์ได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งทางโค้ก ได้ขับเคลื่อนผ่านแคมเปญหลัก “‘โค้ก’ ชวนแยก แลกลุ้นโชค กับ Trash Lucky” ซึ่งได้ดำเนินการมาต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 แล้ว โดย คุณณัฐภัค อติชาตการ Co-Founder & CEO Trash Lucky กล่าวว่า สามารถขยายความร่วมมือไปสู่พาร์ทเนอร์รายใหม่ๆ ได้เพิ่มขึ้นทุกปี รวมทั้งขยายพื้นที่ร่วมกิจกรรม ทั้งจำนวนจุดรับวัสดุรีไซเคิลที่เพิ่มเป็น 64 จุด ทั่วกรุงเทพฯ​ รวมทั้งในภูเก็ตอีก 5 จุด โดยการขับเคลื่อนมาตลอด 3 ปี สามารถเก็บคืนขวด PET กลับมารีไซเคิลได้แล้วกว่า 7 แสนขวด โดยคาดว่าหลังจบแคมเปญในช่วงสิ้นปี จะสามารถเพิ่มปริมาณเก็บกลับขวด PET จากแคมเปญได้มากกว่า 1 ล้านขวด

คุณณัฐนันท์ ศิริรักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นวิคโค จำกัด กล่าวว่า การเพิ่มปริมาณเก็บกลับเป็นปัจจัยสำคัญในการขยายบรรจุภัณฑ์ rPET ได้มากขึ้น เพราะเป็นต้นทางของการผลิตวัตถุดิบ โดยปัจจุบันมีปริมาณการบริโภคขวด PET ราว 4 แสนตันต่อปี  ขณะที่ปริมาณการเก็บกลับอยู่ที่ 60-80% และกลับเข้าสู่การเป็นบรรจุภัณฑ์ได้เพียง 6 หมื่นตันต่อปี ซึ่งเป็นของ ENVICCO กว่า 50% ส่วนที่เหลือจะกระจายไปในอุตสาหกรรมอื่นๆ ซึ่งไม่ใช่อาหาร เช่น เส้นใย ซึ่งหากสามารถเพิ่มการเก็บกลับขวด PET ได้มากขึ้น ผ่านระบบการแยกขยะอย่างถูกต้องก็เชื่อว่าจะสามารถเพิ่มปริมาณการผลิต rPET ในรูปแบบ Bottle to Bottle ได้มากขึ้นในอนาคต รวมท้ัง​​ช่วยลดคาร์บอนฟุตพรินท์เทียบกับการผลิตบรรจุภัณฑ์จากเม็ดพลาสติกใหม่ลงได้ถึง 50%

ด้านคุณณัฐศมน วงศ์กิตติพัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่การตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ในฐานะพันธมิตรสำหรับเป็นพื้นที่ตั้งจุดรับคืนผลิตภัณฑ์ กล่าวว่า เดอะมอลล์ กรุ๊ป คือ green retail ที่มุ่งเน้นการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์แห่งการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด ESG มาโดยตลอด รวมทั้งการเข้ามาสนับสนุนแคมเปญของโค้ก ด้วยการจัดพื้นที่วางขวดโค้กยักษ์ บริเวณด้านหน้ากูรเม่ต์ มาร์เก็ต ดิเอ็มควอเทียร์  เพื่อเป็นจุดรับวัสดุรีไซเคิล และส่งเสริมพฤติกรรมการคัดแยกบรรจุภัณฑ์ใช้แล้วอย่างยั่งยืน เพื่อสื่อสารผ่านลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการที่มีทั้งคนไทยและต่างชาติ  จะสามารถช่วยสร้างการตระหนักรู้และมีส่วนสนับสนุนให้โครงการประสบความสำเร็จ

Stay Connected
Latest News