ExperienceTop Stories

RECO Collective 2025 เปิดตัว​ 6 แบรนด์​น้องใหม่ ‘Circular Design’ โดดเด่น ทั้ง ‘สร้างสรรค์’ และ ‘ยั่งยืน’

โครงการ RECO Collective 2025 มีเป้าหมายสำคัญในการส่งเสริมให้เรื่อง​ 'ความยั่งยืน' สร้างความได้เปรียบให้​ธุรกิจได้ โดยเฉพาะการต่อยอดศักยภาพจากการเลือกใช้ 'วัสดุยั่งยืน' ตั้งแต่ต้นทางการออกแบบ ไปจนตลอดห่วงโซ่ธุรกิจ

บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) บริษัทเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ประกาศความสำเร็จ โครงการ RECO Collective 2025 ที่ปิดฉากอย่างสวยงาม ด้วยการจัดงาน Final Show ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ณ Gaysorn Urban Resort กรุงเทพฯ

พร้อมความสำเร็จของ 6 แบรนด์ SME ที่เข้าร่วมโครงการ  RECO Collective 2025 ในปีนี้ เป็นเวลากว่า 5 เดือน รวมทั้ง​การยกระดับ​เพื่อขยายสู่เชิงพาณิชย์ ภายใต้การผสานหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์  และแนะนำตัวผ่านเวที  RECO Collective 2025 Final Show ซึ่งแต่ละแบรนด์มีความโดดเด่นในการต่อยอดวัสดุรีไซเคิลจากเส้นใยพลาสติก rPET มาผสมผสานกับดีไซน์ที่สร้างสรรค์จากเหล่าดีไซเนอร์ไทยรุ่นใหม่ เพื่อสร้างตัวตนที่โดดเด่นและแตกต่างให้กับแบรนด์ของตัวเอง และสอดคล้องกับแนวคิด Sustainable Fashion ได้อย่างลงต้ว

โดยทั้ง 6 แบรนด์ จากโคงการ RECO Collective 2025 ในปีนี้ได้ขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์จากแฟชั่น มาสู่กลุ่มเฟอร์นิเจอร์เพิ่มเติมด้วย เพื่อเป็นต้นแบบและสร้างแรงบันดาลใจ ในการต่อยอดการใช้วัสดุยั่งยืน ไปยังผลิตภัณฑ์ที่ในวงกว้างและหลากหลายมากขึ้น และเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการผลักดันการเติบโตของ Circular Economy ​ โดยทั้ง 6 แบรนด์ ประกอบด้วย

– Mobella – แบรนด์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความเป็นไทย นำเสนอคอลเลคชัน ‘ZERO’ ซึ่งเป็นนิยามใหม่ของเฟอร์นิเจอร์แบบ zero-waste ที่ผลิตมาจากวัสดุรีไซเคิล PET (rPET) 100% โดยผสานงานหัตถศิลป์ไทยแบบดั้งเดิม เข้ากับแนวคิดความยั่งยืนสมัยใหม่

– Anew.Craft.Studio – ด้วยการผสานงานฝีมือไม้สักแบบดั้งเดิมเข้ากับดีไซน์สมัยใหม่ แบรนด์นี้ใช้เทคนิค Shou Sugi Ban ในการสร้างสรรค์เฟอร์นิเจอร์ด้วยดีไซน์เฉพาะตัว มีความทนทาน โดยใช้วัสดุเหลือทิ้งน้อยที่สุด

– Daybreak – การนำเสนอรองเท้าไลฟ์สไตล์สำหรับกิจกรรมกลางแจ้งที่มีน้ำหนักเบา ซึ่งผลิตจากเส้นใยป่านธรรมชาติ แบรนด์นี้ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งผสมผสานเส้นทางมรดกของการเดินป่าเข้ากับความอเนกประสงค์ที่ทันสมัย

– Endless Holiday – คอลเลคชัน ‘Very Endless Holiday’ สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการแฟชั่นที่ยั่งยืน โดยผสมผสานลายพิมพ์ที่เป็นเอกลักษณ์ โทนสีสันที่สดใส และวัสดุที่เป็นนวัตกรรม

– tISI – คอลเลคชัน ‘VANCANS’ ของแบรนด์นี้ ผสมผสานผ้าจากเส้นใย rPET เข้ากับงานทอผ้าพื้นเมือง ช่วยให้มั่นใจว่า ความยั่งยืนนั้นทั้งมีสไตล์และใช้งานได้จริง

– KH EDITIONS – ด้วยคอลเลคชัน ‘SIAM ISLAND’ แบรนด์นี้ได้ผสมผสานเทคนิคงานฝีมือและอุตสาหกรรมเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างสรรค์การผสมผสานระหว่างศิลปะและแฟชั่น ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากทิวทัศน์ชายฝั่งของประเทศไทย

สร้างโอกาสให้ธุรกิจด้วย ‘ความยั่งยืน’

เป้าหมายสำคัญของโครงการ RECO Collective 2025 มาจากความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนความยั่งยืนให้กลายเป็นความได้เปรียบทางธุรกิจ ทั้งจากการเลือกใช้วัสดุยั่งยืนตั้งแต่ต้นทางของการออกแบบ การผลิต ส่งเสริมให้เกิดห่วงโซ่อุปทานที่ยั่ง​ยืน และเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการนำผลิตภัณฑ์ที่มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้เข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น

ขณะที่ อินโดรามา เวนเจอร์ส ในฐานะผู้ผลักดันโครงการจะให้การสนับสนุน​​แบรนด์น้องใหม่เหล่านี้ ด้วยแหล่งทรัพยากร  การให้คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ และการสร้างเครือข่ายในอุตสาหกรรม โครงการนี้ส่งเสริมให้บริษัทแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ และของตกแต่งบ้าน นำวัสดุรีไซเคิลมาใช้ โดยเฉพาะเส้นใย PET รีไซเคิล (rPET) ที่มาจากขวด PET  เพื่อแสดงพลังของการออกแบบหมุนเวียน (circular design) การผสมผสานความยั่งยืนเข้ากับความสามารถในการสร้างผลกำไร และการวางตำแหน่งให้ SMEs เป็นผู้นำในการเปลี่ยนผ่านสู่โมเดลการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืนมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ แบรนด์ที่เข้าร่วม​โคงรการจะได้เวิร์กช็อปในโปรแกรม RECO Incubation Lab ​ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของ RECO Collective ​ผ่านาการฝึกอบรมและให้คำปรึกษาแบบเข้มข้นเป็นเวลา 2 วัน  พร้อมข้อมูลเชิงลึกทางธุรกิจ​  และกรณีศึกษาจากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม โดยมีพันธมิตรอย่างเป็นทางการของ RECO Collective อาทิ Jaspal Group และ Ecotopia ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับกลยุทธ์การขยายธุรกิจค้าปลีก Thai Taffeta แบ่งปันความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการจัดหาวัสดุที่ยั่งยืน Dapper นำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกลยุทธ์อีคอมเมิร์ซ และ Gaysorn Amarin ให้คำแนะนำแบรนด์ต่างๆ เกี่ยวกับการวางตำแหน่งแบรนด์ลักชัวรี

คุณอาราธนา โลเฮีย ชาร์มา รองประธานบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส กล่าวว่า “โครงการ RECO Collective ไม่ได้เป็นเพียงเวทีแสดงผลงานเท่านั้น แต่ยังเป็นแพลตฟอร์มสำหรับการลงมือทำ โดยการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับพลังของการรีไซเคิลและการเปลี่ยนแปลง เรากำลังทำให้ความทะเยอทะยานนี้กลายเป็นความจริง ภารกิจของเราคือการส่งเสริมให้ SMEs ในท้องถิ่นสามารถนำวัสดุรีไซเคิลมาใช้ในผลิตภัณฑ์ของตนเองได้ ช่วยให้พวกเขาขยายธุรกิจได้ ขณะเดียวกันก็ผนวกความยั่งยืนเข้ากับกลยุทธ์การเติบโตของตนเอง”

RECO Collective 2025 กำลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในภูมิทัศน์ทางธุรกิจ โดยทำให้แนวคิดการหมุนเวียน (circularity) ไม่ได้เป็นเพียงทางเลือกอีกต่อไป แต่กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรม ผ่านการให้คำปรึกษาเชิงกลยุทธ์ ความร่วมมือด้านค้าปลีก และการมุ่งเน้นความยั่งยืนที่ขับเคลื่อนด้วยธุรกิจ ทั้งนี้ อินโดรามา เวนเจอร์ส กำลังส่งเสริมผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม พร้อมกับผลักดันการพัฒนาห่วงโซ่อุปทาน PET และโพลีเอสเตอร์ที่ยั่งยืนในระยะยาว