Top StoriesTrending

‘หาดทิพย์’ สร้างเครือข่าย ‘พันธมิตรเพื่อการรีไซเคิลในภาคใต้’ วางระบบ Bottle-to-Bottle Recycling ครั้งแรกของกลุ่ม ‘โคคา โคล่า’ ทั่วโลก หนุนขับเคลื่อนแผนบรรจุภัณฑ์ยั่งยืน

การสร้างเครือข่าย 'พันธมิตรเพื่อการรีไซเคิลในภาคใต้' ของหาดทิพย์ ​เป็นการวางโครงสร้างพื้นฐานเพื่อขับเคลื่อนความยั่งยืนด้านบรรจุภัณฑ์ รวมทั้งความสามารถในการคอนโทรลปริมาณซัพพลายของวัตถุดิบ rPET รวมไปถึงต้นทุนด้านราคา พร้อมทั้งลดผลกระทบจากบรรจุภัณฑ์มที่จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ด้วย

ในฐานะผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้า​ โคคา-โคล่า โดย​​รับผิดชอบ​​ทำตลาดใน 14 จังหวัดภาคใต้ ‘หาดทิพย์’ จึงให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายด้านความยั่งยืน ให้สอดคล้องไปกับเป้าหมายที่ โคคา -โคล่า ตั้งเป้าไว้ เพื่อสามารถบรรลุ Net zero และการขับเคลื่อนสู่ความยั่งยืนในมิติอื่นๆ

โดยเฉพาะด้านการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งการส่งเสริมให้บรรจุภัณฑ์ทั้งหมดให้สามารถนำไปรีไซเคิลได้ รวมทั้งเป้าหมายที่ท้าทายเพิ่มมากขึ้น อย่างการเก็บกลับบรรจุภัณฑ์หลังการบริโภค ​และการเพิ่มสัดส่วนการใช้ Recycle Content ในบรรจุภัณฑ์ได้มากขึ้น ซึ่ง​ทาง โคคา -โคล่า ได้ปรับเป้าหมายในการเก็บกลับบรรจุภัณฑ์ มาอยู่ที่ 70-75% ภายในปี 2035 จากเดิมตั้งเป้า 100% ภายในปี 2030 และการใช้บรรจุภัณฑ์รีไซเคิล 35-40% ภายในปี 2035 จากเดิมต้ังเป้าไว้ 50% ภายในปี 2030

ที่ผ่านมา หาดทิพย์ให้ความสำคัญ​ในการส่งเสริมบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การ​ลงทุนไป​กว่า 800 ล้านบาท เพื่อพลิกฟื้นธุรกิจขวดแก้ว ส่งเสริมการใช้บรรจุภัณฑ์แบบ Reuseable และช่วย​ลดปริมาณการเกิดขยะพลาสติก  รวมทั้งการพยายามลดน้ำหนัก​บรรจุภัณฑ์และฝาพลาสติกลงอย่างต่อเนื่อง

ขยายโครงสร้างพื้นฐาน Bottle-to-Bottle Recycling

ล่าสุด ได้​ประกาศความร่วมมือ​ ‘พันธมิตรเพื่อการรีไซเคิลในภาคใต้’ (Southern Recycling Alliance) เพื่อการขับเคลื่อนด้านการ​รีไซเคิลบรรจุภัณฑ์ขวดพลาสติก PET ร่วมกันทั้งซัพพลายเชน ได้แก่ บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) ​ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มในเครือโคคา-โคล่า,  บริษัท อ๊อกซิเทค จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการเก็บรวบรวมวัสดุใช้แล้วเพื่อการรีไซเคิล และ บริษัท รอยซ์ ยูนิเวอร์แซล จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการรีไซเคิลวัสดุใช้แล้วควบวงจร

ความร่วมมือครั้งนี้ จะเป็นการนำระบบ Reverse Logistics  หรือระบบโลจิสติกส์ย้อนกลับมาใช้​​ในการเก็บขวดพลาสติก PET ใช้แล้ว เพื่อนำกลับไปผลิตเป็นเม็ดพลาสติกรีไซเคิล (rPET) และนำกลับมาผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มอีกครั้ง (Bottle-to-Bottle Recycling) ซึ่งนับเป็นการริเริ่มจัดทำโครงการในลักษณะนี้เป็นครั้งแรกของอุตสาหกรรมเครื่องดื่มในประเทศไทย รวมทั้งเป็นครั้งแรก​ในกลุ่ม​ธุรกิจโคคา-โคล่า​ ทั่วโลกอีกด้วย

พลตรี พัชร รัตตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในฐานะผู้นำตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ในพื้นที่ภาคใต้ หาดทิพย์ตระหนักถึงการใช้บรรจุภัณฑ์อย่างรับผิดชอบ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบ​เป็นปัญหาตกค้างในสิ่งแวดล้อม และกระทบต่อชุมชนในพื้นที่ภาคใต้ที่ล้อมรอบด้วยทะเล ทำให้ที่ผ่านมาได้ลงทุน​กว่า 800 ล้านบาท เพื่อพลิกฟื้นธุรกิจขวดแก้ว และ​พยายามลดน้ำหนักบรรจุภัณฑ์และฝาพลาสติกลงอย่างต่อเนื่อง

รวมทั้งความร่วมมือคร้ังล่าสุดนี้ เพื่อร่วมเก็บขยะบรรจุภัณฑ์และนำกลับเข้าสู่ระบบรีไซเคิล ผ่านความร่วมมือซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการ​เข้าถึงเครือข่ายของพันธมิตรด้านการเก็บรวบรวมบรรจุภัณฑ์ โดยเฉพาะขวดพลาสติก PET ได้อย่างกว้างขวางมากขึ้น รวมทั้งการทำงานร่วมกับผู้ผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิล เพื่อร่วมส่งเสริม​โครงสร้างพื้นฐาน เพื่อขับเคลื่อนสู่เป้าหมายความยั่งยืนด้านบรรจุภัณฑ์ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ภาคใต้ไปได้พร้อมกัน​

ผนึกเครือข่าย ​ขับเคลื่อน ‘บรรจุภัณฑ์ยั่งยืน’

คุณนันทิวัต ธรรมหทัย รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ – องค์กรสัมพันธ์และการสื่อสาร บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการความร่วมมือนี้ เป็นการเข้าไปต่อจิ๊กซอว์ในการขับเคลื่อนสู่ความยั่งยืนด้านบรรจุภัณฑ์ได้แบบครบลูป ทั้งเรื่องการจัดการบรรจุภัณฑ์หลังการบริโภค และส่งเสริมการใช้บรรจุภัณฑ์รีไซเคิลภายในโครงการเดียว  จากที่ก่อนหน้าจะขับเคลื่อนแบบแยกภารกิจเพื่อบรรลุแต่ละเป้าหมาย และเน้นทำด้วยตัวเอง เช่น การเข้าไปส่งเสริมชุมชนเรื่องกา​รคัดแยกขยะ หรือการซื้อเม็ดพลาสติกรีไซเคิลเพื่อนำมาใช้ในการผลิตบรรจุภัณฑ์รีไซเคิล ​​แต่ความร่วมมือนี้จะเป็นการเข้ามาเชื่อมโยง แต่ละส่วนในห่วงโซ่ให้ทำงานร่วมกัน และสร้างอิมแพ็คได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเบื้องต้นจะทำเป็นโครงการนำร่อง​​ตั้งแต่เดือน ก.ย. 2568 ไปจนถึง มิ.ย. 2569

“หาดทิพย์จะเข้ามาสนับสนุน ทั้งการส่งเสริมชุมชนในการคัดแยกขยะ เพื่อนำส่งให้ทางอ๊อกซิเทค เพื่อนำไปคัดแยก ทำความสะอาด และทำให้เป็นเกล็ด เพื่อนำส่งให้ทางรอยซ์ ยูนิเวอร์แซลไปแปรรูปเป็นเม็ดพลาสติก rPET เพื่อนำมาผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์ของหาดทิพย์ได้ใหม่อีกครั้ง โดยตั้งเป้าได้น้ำหนักพลาสติก rPET จากโครงการนี้อย่างน้อย 100 ตัน  ซึ่งนอกจากเข้าไปช่วยสนับสนุนชุมชนในการคัดแยกขยะแล้ว ยังทำหน้าที่ขนส่งภายในกระบวนการ จากการมีระบบขนส่งที่แข็งแรงในการดำเนินธุรกิจอยู่แล้ว มาสู่การ Reverse เพื่อส่งเสริมระบบขนส่งหลังการบริโภค โดยจะนำเกล็ดพลาสติกจากผู้คัดแยกไปส่งให้ผู้ผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิล และนำกลับเข้ามาสู่โรงงานเพื่อใช้ในกระบวนการผลิตบรรจุภัณฑ์ต่อไป ที่สำคัญคือ วัตถุดิบในการผลิตจะมาจากบรรจุภัณฑ์ที่เกิดขึ้นจากการบริโภคและการบริหารจัดการภายในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งเกิดจากความร่วมเรงร่วมใจของผู้คนในภาคได้อย่างแท้จริง” 

นอกจากขยายความร่วมมือในห่วงโซ่ เพื่อร่วมบริหารจัดการบรรจุภัณฑ์หลังการบริโภคแล้ว ความร่วมมือนี้ ยังช่วยเพิ่มความมั่นคงด้านบรรจุภัณฑ์ให้หาดทิพย์ด้วย โดยเฉพาะการป้องกันซัพพลาย​ที่เป็นเม็ดพลาสติกรีไซเคิลขาดแคลน เนื่องจาก เม็ดพลาสติก rPET จากโครงการนี้จะนำไปใช้ผลิตบรรจุภัณฑ์ให้ทางหาดทิพย์ทั้งหมด รวมทั้งยังมีส่วนในการช่วยลดต้นทุนจากราคาเม็ดพลาสติก  rPET ที่ปัจจุ​บันสูงกว่า Virgin Plastic ที่ราว 40% เนื่องจากเป็นความร่วมมือในรูปแบบ Strategic Partners จากเดิมที่เคยเป็นเพียงลูกค้าเท่านั้น ทำให้ในอนาคตหากมีปริมาณวัตถุดิบ rPET มากพอและสม่ำเสมอ หาดทิพย์อาจจะมีแผนในการขยายกลุ่มบรรจุภัณฑ์ rPET ให้เพิ่มมากขึ้นได้ จากปัจจุบันมีสัดส่วนบรรจุภัณฑ์ rPET ในพอร์ตที่ราว 2%  

สำหรับพันธมิตรทั้ง 2 ราย ภายในโครงการ ต่างเป็นผู้เชี่ยวชาญ ทั้ง ‘อ๊อกซิเทค’ ที่จะดำเนินการด้าน​การรวบรวม จัดเก็บ และคัดแยกขยะ โดยมีเครือข่ายทั้งชุมชนและซาเล้งภายในพื้นที่ในการช่วยนำบรรจุภัณฑ์พลาสติกหลังการบริโภคกลับเข้าสู่ระบบแบบ Closed Loop ได้อีกครั้ง ขณะที่ ‘รอยซ์ ยูนิเวอร์แซล’ ก็มีมาตรฐานการผลิตที่เป็นไปตามข้อกำหนดของทางโคคา-โคล่า และตามมาตรฐานที่ อย. กำหนด

ดร. เศกสันต์ อุดมศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อ๊อกซิเทค จำกัด กล่าวว่า จากประสบการณ์กว่า 14 ปี ในการทำงานร่วมกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ ด้านการเก็บรวบรวมวัสดุและบรรจุภัณฑ์พลาสติกใช้แล้วมาแปรรูปเป็นเกล็ดพลาสติก เพื่อนำไปรีไซเคิล โดยเฉพาะในพื้นที่ที่สุ่มเสี่ยงที่จะเกิดเป็นขยะทะเล รวมทั้งยังมีโครงการ​ที่เกี่ยวข้องกับ Plastic Credit เพื่อการเก็บและรีไซเคิลพลาสติก ที่ได้รับรองมาตรฐาน Verra  รวมทั้งการร่วมเป็นพันธมิตรครั้งนี้ จะ​ช่วย​ยกระดับการแปรรูปวัสดุและบรรจุภัณฑ์ใช้แล้ว เพื่อตอบโจทย์การรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์ที่สัมผัสอาหาร (Food-Grade Recycling) ได้ดียิ่งขึ้น ​ภายใต้การ​นำระบบการตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability System) ที่ผ่านการใช้งานกับองค์กรระดับโลกมาสนับสนุนในเรื่องนี้ได้ด้วย โดยระบบนี้สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าเกล็ดพลาสติกที่ผลิตในแต่ละล็อตมีที่มาจากขวดที่จัดเก็บในพื้นที่ใด​​ ทำให้​​มีข้อมูลที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ในเชิงคุณภาพและเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมการจัดเก็บและรวบรวมในพื้นที่นั้นๆ ได้ในอนาคต

คุณธัชวัช เตชะมงคลจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท รอยซ์ ยูนิเวอร์แซล จำกัด กล่าวว่า  รอยซ์ ​​​​ยูนิเวอร์แซล เป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านการรีไซเคิลวัสดุใช้แล้วให้เป็นสินค้าที่มีความสวยงาม คงทน และได้คุณภาพมาตรฐาน ซึ่ง​สามารถผลิตเม็ดพลาสติก rPET ได้คุณภาพมาตรฐานระดับโลกตามที่​โคคา-โคล่า​กำหนด ซึ่งความร่วมมือนี้ เป็นก้าวแรกของความร่วมมือ เพื่อนำไปสู่โอกาสในการนำวัสดุใช้แล้วกลับมารีไซเคิลเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและมูลค่าสูง ตลอดจนซากผลิตภัณฑ์และขยะจากทะเลภาคใต้กลับมารีไซเคิลได้อีกมาก เพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจได้เพิ่มมากขึ้น

จากความมุ่งมั่นของพันธมิตรในโครงการ คาดว่าใน​อนาคต โครงการนี้อาจจะขยายความร่วมมือสู่การรีไซเคิลผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่มีมูลค่าได้สูงมากขึ้น รวมทั้งขยายความร่วมมือของพันธมิตรภายในโครงการไปในหลากหลายกลุ่มได้มากขึ้น พร้อมทั้งเพิ่มพื้นที่ในการดำเนินการเพื่อขับเคลื่อนระบบ Circularity แบบ Closed Loop ​ได้มากกว่าแค่พื้นที่ภาคใต้ แต่สามารถยกระดับสู่การขับเคลื่อนในระดับประเทศได้ต่อไป