Fast Furniture กำลังกลายเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ถูกจับตาในสหรัฐ ซื้อง่าย ทิ้งง่าย สร้างขยะกว่าปีละ 12 ล้านตัน

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครลอสแอนเจลิส กรมส่งเสริมการส่งออก รายงานถึงตลาดเฟอร์นิเจอร์สหรัฐฯ มีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงหลังวิกฤต COVID-19 ยอดขายเฟอร์นิเจอร์ทั้งสำหรับภายในบ้านและนอกบ้าน ในปี 2021 มีมูลค่าสูงกว่าปี 2019 ถึง 4 พันล้านเหรียญฯ

และเกือบทั้งหมดเป็นยอดขายเฟอร์นิเจอร์ประเภท Fast Furniture หรือเฟอร์นิเจอร์ที่มาจากระบบการผลิตจำนวนมาก หรือ mass production ที่ใช้เวลาในการผลิตไม่นาน และเน้นการออกแบบที่ตอบรับความนิยมมากกว่าแบบคลาสิก รวมทั้งมีความคงทนต่ำ อายุใช้งานได้เพียงชั่วคราว  โดยปกติเฉลี่ยไม่เกิน 5 ปี เป้าหมายเพื่อให้ผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มคนหนุ่มสาวสามารถซื้อเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน ที่ส่วนใหญ่เป็นบ้านหรืออพาร์ทเมนท์ขนาดเล็กให้สวยทันสมัยได้อย่างรวดเร็ว ในราคาที่สามารถซื้อหาได้ และเป็นกลยุทธการตลาดในการสร้างรายได้ต่อเนื่อง จากการขายสินค้าที่ผู้ซื้อสามารถตัดใจทิ้งได้ง่าย โดยไม่เสียดาย แล้วหาซื้อสินค้าใหม่ๆ ที่ทันยุคทันสมัยกว่าแทน

ธุรกิจค้าปลีก Fast Furniture ในสหรัฐฯ มีทั้งในระดับราคาถูกและราคาสูง แบรนด์ที่มีชื่อเสียงรู้จักกันแพร่หลายทั่วโลก เช่น Ikea, Target, West Elm, Pottery Barn, Crate & Barrel, CB2 และ Ethan Allen มีทั้งที่ขายสินค้าแบรนด์ของตนเอง เช่น Ikea หรือแบรนด์ของนักออกแบบ/โรงงานผลิตหลายรายเช่น Wayfair.com หรือ Amazon.com รวมทั้งที่ขายทั้งแบรนด์ของโรงงานผลิต และที่เป็นแบรนด์ของตนเองคือ Rivet และ Stone & Beam

สำหรับช่องทางขายของธุรกิจ Fast Furniture มีทั้งในร้านค้า และการขายผ่านทางระบบออนไลน์ โดยประมาณการณ์ว่า ในปี 2021 เฉพาะช่องทางการขายผ่านระบบออนไลน์ ก็มีมูลค่าเกินกว่า 2.7 หมื่นล้านเหรียญฯ และคาดว่าจะบรรลุ 4 หมื่นล้านเหรียญฯในปี 2030

อย่างไรก็ดี วิธีการผลิต วัตถุดิบที่นำมาผลิต และอายุการใช้งานที่สั้นมากของ Fast Furniture ถูกเพ่งเล็งว่าเป็นอีกหนึ่งตัวการที่กำลังทำลายสิ่งแวดล้อม โดย Environmental Protection Agency รายงานว่า แต่ละปีคนอเมริกันทิ้ง Fast Furniture มากกว่า 12 ล้านตัน สร้างขยะจำนวนมาก ที่สำคัญคือ Fast Furniture จำนวนมากผลิตจากวัตถุดิบที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ผลที่ตามมาคือกระแสต่อต้านสินค้า Fast Furniture ที่เชื่อกันว่าเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ยอดขายของ Wayfair ในฤดูร้อนปีนี้ลดลง จนบริษัทฯ ต้องออกประกาศรายงานแสดงความมุ่งมั่นในการสนับสนุนการผลิต และจัดส่งสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมตั้งเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงให้ได้​ 63% ภายในปี 2035

ด้าน​ Ikea ได้ออกประกาศจัดทำ sustainability strategy ที่เน้นการใช้วัสดุรีไซเคิลในการผลิตเพื่อลดการสร้างขยะ ภายในปี 2030 โดยในปีงบประมาณ 2021 มีรายงานว่า  99% ของไม้ที่ Ikea นำมาใช้ในการผลิตสินค้า มาจากการรีไซเคิล รวมทั้งได้รับประกาศนียบัตรรับรองจาก Forest Stewardship Council ซึ่งเป็นการการันตีว่ามาจากแหล่งผลิตที่ไม่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

Stay Connected
Latest News

ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค และสเปลล์ เดินหน้าองค์กรสู่ความยั่งยืนทุกมิติ ประกาศความสำเร็จ ติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อป รวมกว่า 56,000 ตร.ม. ร่วมลดการใช้พลังงานของประเทศ พร้อมสร้างคุณค่าต่อชุมชน สังคมและสิ่งแวดล้อม