Top StoriesTrending

เส้นทางสาย ‘กะเพรา’ เบื้องหลังความอร่อย ‘ข้าวกะเพราซีพีแรม’ ในเซเว่นฯ มากกว่าแค่ ‘วัตถุดิบ’ แต่คือการพัฒนาระบบอาหาร และคุณภาพชีวิตเกษตรกร

เปิดบื้องหลังความอร่อย 'ข้าวกะเพราถาดสีแดง​ ใน 7-Eleven' ​จากความมุ่งมั่นของ 'ซีพีแรม' ​​ในการพัฒนาธุรกิจจากต้นน้ำถึงปลายน้ำ โดยเฉพาะวัต​​ถุดิบ​สำคัญอย่าง 'กะเพรา' ​ที่จริงจังตั้งแต่​การวิจัยสายพันธุ์ 'กะเพราป่า' สู่การพัฒนาความมั่นคง-ความยั่งยืนทางอาหาร ยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรไทย

เมื่อวิถีชีวิตและไลฟ์สไตล์ในปัจจุบันเต็มไปด้วยความเร่งรีบ หลายคนจึงนิยม​พึ่งพาและฝากท้องไว้กับอาหารพร้อมทาน ส่งผลให้ตลาดเติบโตและได้รับความนิยม​เพิ่ม​ขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยเฉพาะการขับคลื่อนจากผู้นำตลาดอาหารพร้อมทานอย่าง ‘ซีพีแรม’ ที่สามารถเข้าใจอินไซต์ผู้บริโภคคนไทยได้อย่างถ่องแท้ นำมาสู่การพัฒนาเมนูอาหารที่มีทั้งรสชาติที่ดี ในแบบฉบับที่คนไทยคุ้นเคย รวมทั้งการพัฒนาความหลากหลายของเมนู เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภคมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดเติบโตและได้รับการยอมรับเพิ่มมากยิ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

​หนึ่งในเมนูยอดฮิต​ที่เชื่อว่าแทบทุกคนต้องเคยลิ้มลองกันมาแล้ว สำหรั​บ ‘ข้าวกะเพราถาดสีแดงใน 7-Eleven’​  ที่​แม้จะเป็นอาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน แต่ยังคงความ​​อร่อยจัดจ้าน หอมกลิ่นใบกะเพรา พร้อมรสเผ็ดซ่า ​​อันเป็นเอกลักษณ์ของ ‘ซีพีแรม’

จาก ‘ใบกะเพรา’ สู่ความมั่นคงใน​ระบบอาหาร 

เรื่องราวเบื้องหลัง ‘ข้าวกะเพราถาดสีแดง’ ​ไม่เพียงสะท้อน​ความมุ่งมั่นในการพัฒนารสชาติและคุณภาพทางโภชนาการที่ดีของซีพีแรมเท่านั้น แต่ยังสะท้อนการให้ความสำคัญเพื่อขับเคลื่อนความมั่นคงและความยั่งยืนทางอาหาร รวมไปถึง​การยกระดับคุณภาพชีวิต​เกษตรกรได้อย่าง​​แท้จริง

ปัจจุบันเมนูข้าวกะเพราของซีพีแรม มีกำลังการผลิตรวม 5.6 ล้านถาดต่อวัน ​ต้องใช้ใบกะเพราสดแต่ละวันมากกว่า 1.36 ตัน (เฉพาะใบ) สำหรับการผลิต 3 อันดับ เมนูกระเพรายอดนิยม ​ได้แก่  ข้าวกะเพราไก่คั่ว ข้าวกะเพราไก่ไข่ดาว และข้าวกะเพราหมู 

ดังนั้น ‘ใบกะเพรา’ จึงถือเป็นวัตถุดิบหลัก​ของซีพีแรม เพราะเป็น​กุญแจสำคัญ​ที่ช่วยสร้าง​รสชาติอันเป็นเอกลักษณ์และถูกใจคนไทย

แต่​ถึงแม้ว่า​​กะเพราจะเป็นพืชที่ปลูกง่าย โตไว และให้ผลผลิตได้ตลอดทั้งปี แต่ผู้ปลูกเองก็ยังต้องเจอ​ปัญหาหลายอย่าง ​ทั้งสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง​ส่งผลต่อการเติบโต การกำจัดศัตรูพืชที่ต้อง​สอดคล้องตามมาตรฐาน GAP วิธีการเก็บเกี่ยว และการใช้ทรัพยากรน้ำและดิน เป็นต้น

นำมาสู่การขับเคลื่อน ‘โครงการเกษตรกรคู่ชีวิต’ เพื่อ​ต้องการอยู่เคียงข้างเกษตรกรในการเผชิญความท้าทายเหล่านี้ และพัฒนาระบบการเพาะปลูกให้เป็นไปตามมาตรฐาน GAP พร้อมยกระดับคุณภาพผลผลิต รวมทั้งการสร้างรายได้ที่มั่นคงและเสริมสร้างความยั่งยืนให้​เกษตรกรได้อย่างยั่งยืน

ซีพีแรมยังศึกษาวิจัยและพัฒนาพันธุ์ ‘กะเพราป่า‘ ที่มีรสชาติเผ็ดร้อน กลิ่นหอมเฉพาะตัว แตกต่างจากกะเพราทั่วไป ซึ่งเมื่อนำมาปรุงอาหารก็จะให้กลิ่นที่หอมชวนรับประทานและรสชาติเข้มข้นเป็นพิเศษ โดย​​​ปัจจุบัน ซีพีแรมได้จดสิทธิบัตรสายพันธุ์กะเพราที่พัฒนาเองแล้วถึง 4 สายพันธุ์

คุณกอบชัย คงทวี ผู้จัดการทั่วไปอาวุโส บริษัท ซีพีแรม จำกัด (ลำพูน) กล่าวว่า ​โครงการเกษตรกรคู่ชีวิต​​​มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรมีรายได้มั่นคงจากการขายผลผลิตในราคาที่เหมาะสม ได้รับความรู้และทักษะการทำเกษตรอย่างยั่งยืน  รวมทั้งการยกระดับคุณภาพชีวิตภายในครัวเรือน และเป็​​นกลยุทธ์สำคัญ​ในการขับเคลื่อนตาม​​แนวคิด  Food 3S​ ได้แก่

– Food Safety  ความปลอดภัยทางอาหาร ​เพื่อควบคุมคุณภาพวัตถุดิบอย่างเข้มงวด ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางของกระบวนการผลิต

– Food Security ความมั่นคงทางอาหาร ผ่าน​การวางแผนการผลิตร่วมกับเกษตรกร เพื่อควบคุมปริมาณ​วัตถุดิบให้มีอย่างเพียงพอและต่อเนื่อง

– Food Sustainability ความยั่งยืนทางอาหารที่ส่งเสริมการจัดการเกษตรอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและรับผิดชอบต่อสังคม ​

“ซีพีแรม มุ่งขับเคลื่อนฝึกอบรม ส่งเสริม และเสริมสร้างความรู้แก่เกษตรกรครอบคลุมทุกขั้นตอนตั้งแต่การเตรียมดิน การใช้ปุ๋ยอย่างเหมาะสม และมอบสายพันธุ์กะเพราป่าที่พัฒนาขึ้น พร้อมตรวจสอบคุณภาพและให้คำแนะนำอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กะเพราจากโครงการฯ มีคุณภาพสูง สะอาด ปลอดสารพิษ และผ่านการรับรองมาตรฐาน GAP 100% ​ พร้อมทั้งการให้ความรู้การเก็บเกี่ยวอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้การใช้ทรัพยากรดินและน้ำมีประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากขึ้น”

คุณจามจุรี แก้วใสย ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซีพีแรม จำกัด กล่าวว่า ​​​​การพัฒนาสายพันธุ์กะเพราป่า​​ เพื่อช่วยให้ได้วัตถุดิบที่มีคุณสมบัติ​ตามเกณฑ์ที่ต้องการและหลากหลาย ทั้งความสามารถต้านทานสภาพอากาศที่แปรปรวนได้ ​​ การเติบโต​​และให้ผลผลิตได้เร็ว คุณภาพของใบที่มีกลิ่นหอมและรสเผ็ดเข้มข้น รวมถึงความทนต่อโรคและแมลง เพื่อลดการใช้สารเคมี ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยต่อสุขภาพของเกษตรกรภายในโครงการด้วย

“ซีพีแรมยังส่งผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่ให้คำแนะนำตั้งแต่กระบวนการเพาะปลูก จัดส่งเมล็ดพันธุ์ การตัดแต่งกิ่ง การคัดแยกผลผลิต ไปจนถึงการออกแบบโรงเรือนที่เหมาะสม พร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร เช่น ระบบเซนเซอร์ควบคุมน้ำอัตโนมัติและระบบบันทึกข้อมูลออนไลน์ เพื่อติดตามและควบคุมผลผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดการลดการใช้ปุ๋ยเพื่อลดการปลอดปล่อยก๊าซเรือนกระจก กล่าวได้ว่าช่วยปูพื้นฐานการเกษตรที่ยั่งยืนแก่ชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม”

มากกว่าพัฒนา ‘วัตถุดิบ’ แต่ดูแลคุณภาพชีวิตเกษตรกร

โครงการเกษตรกรคู่ชีวิต​ ยังให้ผลลัพธ์มากกว่าแค่วัตถุดิบและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ แต่คือการสร้างความยั่งยืนทางอาหารและยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรได้อย่างแท้จริง เพราะเมื่อเกษตรกรได้เรียนรู้วิธีการปลูกกะเพราอย่างเป็นระบบและเทคนิคการเก็บเกี่ยวที่มีประสิทธิภาพ ที่ช่วยให้​ทำงานได้ง่ายและได้ผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้น ​ที่สำคัญคือมั่นใจในความสะอาดและปลอดภัย รวมทั้งมีตลาดรับซื้อที่แน่นอน ผ่านการรับประกันราคาที่เป็นธรรม ​ควบคู่ไปกับการได้รับการสนับสนุนองค์ความรู้และเทคโนโลยีใหม่อย่างต่อเนื่อง

คุณภานุวัฒน์ วิชัยรัตน์ หรือ “ลุงหนุ่ย” ผู้ริเริ่มกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกะเพรายั่งยืน จังหวัดลำพูน และเกษตรกรต้นแบบ กล่าวถึงการขับเคลื่อน​โครงการเกษตรกรคู่ชีวิตในลำพูนว่า  ปัจจุบันมีเกษตรกรเข้าร่วม 22 ครัวเรือน ทุกบ้านสามารถสร้างผลผลิตได้มากขึ้นและมีรายได้ที่มั่นคง โดย​ซีพีแรม​​ดูแลเกษตรกรแบบองค์รวม​ ตั้งแต่​ต้นทางการปลูก เก็บเกี่ยว จนถึงปลายทางเพื่อนำวัตถุดิบไปประกอบอาหาร  พร้อมทั้งการจ้างให้​คนในชุมชน​ช่วยเด็ดใบกะเพรา ช่วยสร้างกิจกรรมภายในครอบครัวที่ทำร่วมกันได้ทุกช่วงวัย ทั้งเด็กเล็กและคนสูงอายุ เสริมสร้างความอบอุ่นภายในครอบครัว ไม่ต้องออกไปทำงานไกลบ้าน

“การเป็นส่วนหนึ่งของโครงการยัง​​สร้างความภาคภูมิใจในอาชีพเกษตร เมื่อผลผลิตจากไร่กลายเป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่ผู้คนบริโภคทุกวัน ทำให้รู้สึกว่าอาชีพเกษตรกรมีคุณค่าและเป็นส่วนสำคัญของประเทศ ซึ่งอยากให้เกษตรกรคนอื่น ๆ เข้ามาร่วม​โครงการฯ เพื่อให้ชุมชนเติบโตได้อย่างแข็งแรงและสุขภาพที่ดีขึ้น จากการทำเกษตรที่ปลอดภัยไม่ต้องใช้สารเคมีในแปลงเพาะปลูก​​”

ซีพีแรม ยังคงขยายผล ‘โครงการเกษตรกรคู่ชีวิต‘ สู่พื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหาร และความยั่งยืนทางอาหาร ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง เปี่ยมโภชนาการ และมีรสชาติอร่อยในราคาที่เข้าถึงง่าย ข้าวกะเพราของซีพีแรมทุกถาดจึงไม่ได้เป็นเพียงอาหารอร่อย แต่ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นเพื่อเป็นฟันเฟืองสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนอย่างยั่งยืน เพื่อให้ทุกมื้ออาหารเป็นมากกว่าความอิ่มท้อง แต่คือการสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้แก่เกษตรกรและสังคมไทย