นักธุรกิจการตลาดจะคุ้นเคยมากๆ กับคำว่า Strategy Engagement หรือ การมีส่วนร่วมของลูกค้ากับกลยุทธ์แบรนด์สินค้า เป็นความสัมพันธ์กับลูกค้ามากกว่าการซื้อ เพราะเกิดคุณค่า ความไว้วางใจ การมีส่วนร่วมของชุมชน ในที่สุดจะกลายเป็นแบรนด์เลิฟ
ถ้าหากนำโมเดลที่กล่าวข้างต้น มาทำกับกิจกรรมของสโมสรฟุตบอลในไทยพรีเมี่ยลีกที่ทุกทีมมีสปอนเซอร์อยู่ล่ะ?
ดังที่เคยกล่าวไปก่อนหน้านี้ว่า กีฬาฟุตบอล กลายเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ โดยเฉพาะประเทศไทยในเกมส์ไทยลีก ทีมอย่าง SCG เมืองทองยูไนเต็ด ไม่ได้ทำเพียงเรื่องสปอนเซอร์ชิพเท่านั้น หากความเป็นหุ้นส่วน ได้นำความแข็งแกร่งขององค์กรหลายเรื่องเข้ามา Engagement
ที่น่าสนใจมาก เพราะนำปรัชญาเอสซีจี 4 Core Values หนึ่งใน 4 เป็นเรื่อง “เชื่อมั่นในคุณค่าของคน” เข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งในกรณีฟุตบอล แบดมมินตัน และกอล์ฟ จึงมีความพร้อมในส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพคน ด้วยกีฬา
กิจกรรมเฉพาะกลุ่มครอบครัวพ่อแม่ลูก โดยเฉพาะลูกชาย-หญิง 7-12 ปีที่มีความมุ่งมั่น มีทักษะฟุตบอล ถูกคัดเลือกผ่านเพจเฟสบุก SCG Sports ร่วมงาน “Finding the Next Messi J” ร่วมใกล้ชิด “เจ – ชนาธิป สรงกระสินธ์”หรือ “เมสซี่ เจ”และ คุณพ่อ “ก้องภพ สรงกระสินธ์” ที่มาถ่ายทอดประสบการณ์ และเคล็ดลับ การฝึกซ้อมที่ทำให้ประสบความสำเร็จเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับน้องๆ เยาวชนไทย ณ สนามเอสซีจี สเตเดี้ยม
“การที่ลูกจะประสบความสำเร็จถึงตรงนี้ได้ พ่อแม่ต้องสนับสนุนมากๆ นักกีฬาปัจจุบันที่เราเห็น จะต้องมีความพร้อมมากในการเตรียมตัวเป็นนักกีฬา การเตรียมตัวร่างกาย การฝึกซ้อม อาหารการกิน วินัย คนอื่นจะทำไม่ได้นอกจากพ่อแม่ พ่อแม่ต้องดูเรื่องนี้ก่อนจึงจะสามารถสร้างเด็กได้ ที่เราเห็นนักกีฬาอาชีพชื่อดังของเราตอนนี้ เพราะพ่อแม่เข้าใจ และต้องการสนับสนุนให้ฝันของลูกเป็นจริง…”
วีนัส อัศวสิทธิถาวร ผู้อำนวยการสำนักงาน Enterprise Brand Management Office เอสซีจี แลกเปลี่ยนมุมมองวิถีคนไทยในการเลี้ยงลูกระหว่างการเรียนหนังสือ และการเล่นกีฬา ซึ่งการจะเป็นนักกีฬาอาชีพ จะต้องทุ่มเทเวลาให้กับการซ้อม ซ้อม และซ้อม การเรียนก็ผ่านในภาคบังคับ ซึ่งเป็นวิธีที่พ่อแม่ต้อง “เลือก”
![](https://sdthailand.com/wp-content/uploads/2017/11/SDThailand-SCG-Finding.3.jpg)
“ลูกชอบฟุตบอล จะใช้เวลาซ้อมวันหยุด วันธรรมดาจะเรียนตามปกติ จริงๆ ก็เป็นแฟนทีมเอสซีจีเมืองทองฯ อยู่แล้ว การมาร่วมกิจกรรมครั้งนี้ ได้รับแรงบันดาลใจหลายอย่างจากเจและคุณพ่อ…” หนึ่งในคุณพ่อที่มาร่วมงานเล่าให้
หลังจากที่เด็กๆ (ว่าที่เมซี่เจคนต่อไป) พร้อมแล้วที่ลงสู่สนามฯ เมื่อเดินลอดประตูทางเข้าสนามเป็นแถว เด็กหลายคนนำมือตัวเองแตะที่พื้นสนาม แบบที่เห็นนักฟุตบอลทำเมื่อลงสนาม ก่อนที่จะไปประจำฐานที่แบ่งไว้ เพื่อให้เมซี่เจและพ่อ เวียนมาสอนเทคนิคเล็กๆ ที่เป็นเคล็ดลับในการเตะฟุตบอล
กิจกรรมเล็กๆ เฉพาะกลุ่มนี้ ใช้เวลาช่วงบ่ายๆ 3 ชั่วโมงในวันเสาร์ นอกจากเด็กๆ จะได้พบปะนักฟุตบอลคนโปรดแล้ว ก็ยังมุ่งมั่นจะก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง และได้รับการส่งเสริมที่ดีจากครอบครัว มาสร้างแรงบันดาลใจ เพื่อผลักดันตนเองสู่ความสำเร็จ ในอนาคตพร้อมจะเป็นแบบอย่างที่ดีให้เยาวชนคนอื่นๆ ต่อไป ก็เพราะ “เชื่อมั่นในคุณค่าคน” เช่นเดียวกัน