ตะลึง!!! ปรากฏการณ์น้ำเปลี่ยนสี (Red tide) ทำให้กุ้งล็อบสเตอร์กว่า 500 ตัน มาเกยฝั่งในแอฟริกาใต้

เมื่อวันที่ 2 มีนาคม ที่ผ่านมา ได้เกิดปรากฏการณ์กุ้งล็อบสเตอร์สายพันธุ์ West coast rock จำนวนกว่า 500 ตัน ว่ายมาเกยตื้นในอ่าวเซนเฮเลน่า ประเทศแอฟริกาใต้

ทางกรมการป่าไม้ การประมง และสิ่งแวดล้อม ของประเทศแอฟริกาใต้ ได้ออกมาแถลงว่า การเกยตื้นของเหล่ากุ้งล็อบสเตอร์ดังกล่าวเกิดจากสาเหตุการก่อตัวของแพลงก์ตอนพืช (phytoplankton) จำนวนมากตามปกติในบริเวณอ่าว St. Helena ตลอดช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เกิดปรากฏการณ์น้ำเปลี่ยนสี (Red tide) ที่แม้จะดูสวยงามแต่กลับแฝงไปด้วยอันตรายที่สามารถส่งผลกระทบต่อชีวิต โดยการก่อตัวดังกล่าวกินพื้นที่ 50-60 กิโลเมตร ส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำของเมือง Elands, Lambert’s และ Doring bays

ปรากฏการณ์น้ำเปลี่ยนสีเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติในน่านน้ำชายฝั่งทะเลที่มีสาเหตุจากความเข้มข้นของสาหร่ายขนาดจิ๋วที่รวมตัวกัน ส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบบนิเวศทางทะเลเนื่องจากสาหร่ายหรือแพงก์ตอนพืชที่ตายแล้วจะลอยตัวขึ้นสู่ระดับน้ำทะเลทำให้พืชและปะการังไม่สามารถสังเคราะห์แสงได้ทำให้ระดับออกซิเจนในน้ำลดลง ส่งผลให้พืชและสัตว์น้ำในบริเวณนั้นตายลงในที่สุด โดยสาหร่ายบางสายพันธุ์มีสารพิษที่เป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำและมนุษย์

ผลของการเกิดปรากฏการณ์น้ำเปลี่ยนสีนี้ มีผลกระทบถึงอุตสาหกรรมการประมงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากการตายของสัตว์น้ำทางทะเล ในขณะที่คุณภาพน้ำไม่ดีและกลิ่นเหม็นที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เหล่านี้ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวชายฝั่งด้วย

นอกจากนี้ จากการรายงานของเว็บไซต์ Greenpeace ยังระบุถึงผลวิจัยของนักวิจัยจากสถาบัน the Environment Protection Agency ถึงสาเหตุของการเร่งให้เกิดปรากฏการณ์น้ำเปลี่ยนสีได้บ่อยขึ้น ว่า “อุณหภูมิโลกและอุณหภูมิของน้ำในมหาสมุทรที่สูงขึ้นทำให้สภาพแวดล้อมแปรปรวนเป็นตัวเร่งให้เกิดการเติบโตของสาหร่ายมากขึ้นกว่าเดิม ดังนั้น มนุษย์เองเป็นก็ปัจจัยสำคัญที่ทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกสูงขึ้นเนื่องจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากกิจกรรมต่างๆของมนุษย์เอง”

โดยกรมฯ ยังออกโรงเตือนชาวบ้านในละแวกนั้นไม่ให้นำ กุ้งล็อบสเตอร์ ปลา หรือสัตว์มีกระดองอื่นๆที่ตายจากการเกยตื้นครั้งนี้ไปบริโภคเนื่องจากสัตว์เหล่านั้นอาจปนเปื้อนสารพิษ ที่อาจส่งผลต่อระบบหายใจและการระคายเคืองผิวหนัง

ทั้งนี้ ทางกรมฯ ร่วมกับหลายภาคส่วนได้วางแผนเพื่อทำความสะอาดชายหาดและเก็บกุ้งล็อบสเตอร์ที่ยังมีชีวิตอยู่เพื่อนำไปปล่อยสู่ทะเลอีกครั้งเมื่อสภาพน้ำทะเลกลับมาสู่ภาวะปกติ

 

Credit :

https://www.news24.com/news24/southafrica/news/sandf-police-assisting-with-clean-up-after-mass-rock-lobster-walkout-on-west-coast-20220302

https://www.iol.co.za/news/south-africa/western-cape/watch-red-tide-causes-estimated-500-tons-of-lobster-walkout-along-west-coast-38175fa3-0f44-42d0-87bd-76ff041ab2bf

https://www.greenpeace.org/thailand/story/11725/ocean-sanctuaries-red-tide-impact/

Stay Connected
Latest News

สิงห์ เอสเตท สานต่อโครงการ “ปลูกป่าด้วยปลายนิ้ว” ปีที่ 3 เดินหน้าปลูกป่า 1 ล้าน ตร.ม. สร้างพื้นที่สีเขียว มุ่งสู่องค์กรที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนครบวงจร ตามปรัชญา “Go Beyond Dreams”