ExperienceTop Stories

จระเข้ คอร์ปอเรชั่น ​เดินหน้าโปรเจ็กต์ Blue Carbon จากป่าชายเลน เร่งเครื่องสู่ ‘​องค์กรคาร์บอนเป็นกลาง’​ ตามเป้าหมายปี 2050

โครงการ Jorakay Green Earth เป็นต้นแบบของการลงมือทำจริงเรื่องความยั่งยืน ที่สร้างผลกระทบเชิงบวกได้ทั้งการดูดซับคาร์บอน เพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ รวมทั้งช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตคนในชุมชนไปพร้อมกัน

หลัง​ได้รับการจัดสรรจากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง  ให้เป็นผู้ดูแลฟื้นฟูพื้นที่ป่าชายเลนใน จ.ตรัง รวม 3 โครงการ พื้นที่รวม 62.5 ไร่ บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด จึงได้เริ่มขับเคลื่อนโครงการ Jorakay Green Earth ในปี 2024 ที่ผ่านมา ภายใต้ความร่วมมือทั้งกับภาครัฐ เอกชน และชุมชน ไม่ว่าจะเป็น​กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เครือข่าย Thailand Mangrove Alliance และชุมชนในพื้นที่ เพื่อร่วมกันดูแลฟื้นฟูป่าชายเลนให้กลับมามีความสมบูรณ์ และสร้างประโยชน์ให้ชุมชนในพื้นที่ได้อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ โครงการ​ ‘Jorakay Green Earth พาหัวใจสีเขียวไปร่วมปลูกป่า’ ถือเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนเรื่องความยั่งยืนของจระเข้ คอร์ปอเรชั่น ตามกรอบ ESG ทั้งความสามารถในการดูดซับคาร์บอน รวมทั้งเพิ่ม​ความหลากหลายทางชีวภาพ และ​ช่วยเพิ่มรายได้ให้ชุมชนในพื้นที่ได้อีกทางหนึ่งอีกด้วย

นายศุภพงษ์ เพชรสุทธิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า  บริษัทมุ่งมั่นที่จะให้การสนับสนุนงบประมาณเพื่อขับเคลื่อนโครงการอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 10 ปี โดย​ในปีแรกนี้ได้ใช้งบ​ราว 77% ของงบดำเนินงานที่จะใช้ทั้งหมด​ในปีแรก เพื่อกระจายรายได้ผ่าน​การจ้างงานชุมชนในพื้นที่ ทั้งเพื่อการปรับปรุงพื้นที่ เพาะกล้า ปลูกต้นไม้ กำจัดวัชพืช และดูแลแปลงปลูกอย่างต่อเนื่อง​ ทำให้ชุมชนในพื้นที่มีรายได้เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งมีส่วนร่วมในการดูแลโครงการทที่สามารถสร้างประโยชน์ให้กับพื้นที่ของตัวเองร่วมกัน

ขณะที่การ​ขับเคลื่อนโครงการ Jorakay Green Earth ในปีที่ 2 นี้ ได้เริ่มยกระดับมาสู่มิติการสร้างผลกระทบเชิงบวกด้านสิ่งแวดล้อมที่สามารถจับต้องได้ ด้วยการเดินหน้ากระบวนการวัดผลอย่างเป็นระบบ ตามมาตรฐานการลดก๊าซเรือนกระจกโดยสมัครใจของประเทศไทยผ่าน โครงการ T-VER (Thailand Voluntary Emission Reduction Program) ที่ดำเนินการโดยองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ TGO เพื่อเป็นการขับเคลื่อนแผนในการบรรลุเป้าหมายสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายใยปี 2050 และบรรลุ Net Zero ภายในปี 2065

“หากพื้นที่ป่าชายเลนที่บริษัทดูแลอยู่จำนวน  62.5 ไร่  ผ่านการรับรองและได้ขึ้นทะเบียน T-VER ในอนาคต บริษัทจะได้รับการรับรองปริมาณก๊าซเรือนกระจก ( GHG) ที่สามารถเก็บกักได้  ​ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่ม Blue Carbon (บลูคาร์บอน) ที่มีความสามารถในการดูดซับคาร์บอนได้มากกว่าคาร์บอนเครดิตทั่วไปถึง 4 เท่า​ และนำไปใช้ชดเชยการปลดปล่อย GHG Emission จากการดำเนินธุรกิจได้ในทุกขอบเขต ทั้งสโคป 1 ,2 และ 3  เพื่อช่วยให้บริษัทสามารถบรรลุเป้าหมายในการขับเคลื่อนสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำ ควบคู่ไปกับการมีส่วนช่วยดูแลสังคมและชุมชนไปพร้อมกัน  ซึ่งถือเป็นการสร้างต้นแบบนโยบายด้านความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม และตอกย้ำการปลูกป่าเพื่อสร้างคาร์บอนเครดิตอย่างเป็นระบบ และสามารถนำไปใช้ชดเชยได้จริงในตลาดคาร์บอนระดับประเทศ โดยคาดว่าคาร์บอนเครดิตที่ได้จากโครงการ T-VER จะชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากกว่า 1,200 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าตลอดระยะเวลา 10 ปี “

อย่างไรก็ตาม ในการขับเคลื่อนเป้าหมายสู่ Carbon Neutral ในปี 2050 และ Net Zero ในปี 2065 นอกจากแนวทาง​ชดเชยด้วย Blue Carbon ผ่านโครงการปลูกป่าชายเลนแล้ว ทางจระเข้ คอร์ปอเรชั่น ยังให้ความสำคัญในกระบวนการ  Decarbonization ผ่านการดำเนินธุรกิจใน 5 ด้านสำคัญ ตามแนวทาง 5D ทั้งการพัฒนากระบวนการผลิตให้สามารถลดคาร์บอนในภาพรวมลงได้กว่า 18 ล้านกิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (KgCO2e), การลดปริมาณและการจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ ให้ได้ 1.6 แสนกิโลกรัม การพัฒนานวัตกรรมเพื่อลดสารพิษหรือฝุ่นลงกว่า 3.9 ล้านกิโลกรัม รวมทั้งการเพิ่มสัดส่วนยอดขายในกลุ่ม Green Product ให้ได้ 65% จากปัจจุบันมีสัดส่วนที่ 63% รวมทั้งมิติสังคมที่มุ่งส่งเสริมคุณภาพชีวิต พร้อมพัฒนาทักษะให้เยาวชนและผู้คนในสังคม ผ่านการขับเคลื่อนในหลากหลายโครงการ โดยที่ Jorakay Green Earth เป็นหนึ่งในโครงการด้วยเช่นกัน

จากนโยบายและต้นกล้า สู่การวัดผลจริงในภาคปฏิบัติ

สำหรับการขับเคลื่อนแผน Decarbonization เพื่อมุ่งสู่ Carbon Neutral และ Net Zero ให้ได้ตามแผน​ ขณะนี้ทางบริษัทได้ทำการวัดปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินธุรกิจเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการวิเคราะห์และวางแผนเพื่อขับเคลื่อนในแต่ละมิติให้สามารถลด Emission ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

รวมท้ัง​การลงพื้นที่ตรวจสอบและประเมินผลป่าชายเลนในโครงการ Jorakay Green Earth อย่างเป็นระบบ เพื่อเร่งจัดทำเอกสารข้อเสนอโครงการและเข้าสู่ขั้นตอนการทวนสอบโดยหน่วยงานภายนอก (Validation and Verification Body หรือ VVB) เพื่อสามารถขึ้นทะเบียน T-VER ได้ในขั้นตอนต่อไป  ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนครั้งนี้ด้วยเช่นกัน ​​

“เราเลือกสร้างคาร์บอนเครดิตด้วยป่าชายเลน เพราะที่แห่งนี้คืออนาคตของเศรษฐกิจสีเขียว ป่าชายเลนดูดซับคาร์บอนมากกว่าป่าบนบกถึง 4 เท่า โดยพื้นที่เพียง 1 ไร่ สามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 9.4 ตันต่อปี การปลูกป่าชายเลนจึงเป็น ‘กลไกที่ทรงพลัง’ ในการลดคาร์บอน นอกจากนี้ โครงการนี้ยังช่วยสร้างความมั่นคงของชายฝั่ง อนุบาลสัตว์น้ำ และเพิ่มรายได้ชุมชนในระยะยาว การฟื้นฟูป่าชายเลน จึงเป็น ‘ทางเลือกที่ทรงพลัง’ ในการสร้างคาร์บอนเครดิตที่ยั่งยืนและมีคุณค่าต่อระบบนิเวศอย่างแท้จริง” คุณศุภพงษ์  กล่าวทิ้งท้าย

จระเข้ คอร์ปอเรชั่น มุ่งหวังให้โครงการ Jorakay Green Earth เป็นต้นแบบของการลงมือทำจริงเรื่องความยั่งยืน โดยจระเข้ เป็นองค์กรเอกชนรายแรกของพันธมิตร 33 องค์กร ที่ลงมือปลูกต้นกล้าและดูแลป่าชายเลนบนพื้นที่กว่า 62.5 ไร่ พร้อมดูแลต่อเป็นระยะเวลา 10 ปี ในอนาคต จระเข้ มุ่งเดินหน้าสร้างมาตรฐานใหม่และเป็นต้นแบบให้องค์กรเอกชนไทยดำเนินนโยบายด้านความยั่งยืนอย่างเป็นระบบ พร้อมสร้างสรรค์วงการก่อสร้างสีเขียวที่ดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการเปลี่ยนแปลงโลกให้ดีขึ้น