‘ป่าไม้’ ถือเป็นแหล่งดูดซับคาร์บอน Carbon Sink ที่สำคัญของโลก รายงานพบว่า ในรอบ 5 ปี มีการตัดไม้ทั่วโลกกว่า 625 ล้านไร่ต่อปี โดย 90% เกิดขึ้นในเขตร้อน โดยเฉพาะทวีปแอฟริกา จากการเติบโตของประชากร และเกษตรกรรม
ป่า กับกับดูดซับคาร์บอน
การสำรวจพื้นที่ป่าทั่วโลก พบว่า มีพื้นที่รวมกว่า 4 พันล้านเฮกตาร์ หรือราว 2.5 หมื่นล้านไร่ (31%) หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของพื้นที่ทั่วโลก
Top 5 ประเทศที่มีพื้นที่ป่ามากที่สุด โดยพื้นที่มากกว่าครึ่ง (54%) ของพื้นที่ป่าทั่วโลก อยู่ใน 5 ประเทศ ต่อไปนี้
1. รัสเซีย : มีพื้นที่ 815 ล้านเฮกตาร์ คิดเป็น 20% ของพื้นที่ป่าทั่วโลก
2. บราซิล : มีพื้นที่ 497 ล้านเฮกตาร์ คิดเป็น12% ของพื้นที่ป่าทั่วโลก
3. แคนาดา : มีพื้นที่ 347 ล้านเฮกตาร์ คิดเป็น 9% ของพื้นที่ป่าทั่วโลก
4. สหรัฐอเมริกา : มีพื้นที่ 310 ล้านเฮกตาร์ คิดเป็น 8% ของพื้นที่ป่าทั่วโลก
5. จีน : มีพื้นที่ 220 ล้านเฮกตาร์ คิดเป็น 5% ของพื้นที่ป่าทั่วโลก
ขณะที่ประสิทธิภาพในการดูดซับคาร์บอน จะขึ้นอยู่กับชนิดของป่าแต่ละประเภท ได้แก่
- ป่าธรรมชาติ ดูดซับคาร์บอน 0.95 ตัน CO2/ไร่/ปี
- ป่าเศรษฐกิจ ดูดซับคาร์บอน 1.36 ตัน CO2/ไร่/ปี
- ป่าชายเลน ดูดซับคาร์บอน 2.75 ตัน CO2/ไร่/ปี
‘ป่าไม้ไทย’ หายไปไหน?
สำหรับประเทศไทย มีพื้นที่ป่า 31.5% หรือ 102 ล้านไร่ คิดเป็นอันดับ 31 ของโลก ข้อมูลในช่วงปี 2565 – 2567 พื้นที่ป่าทั่วประเทศ ลดลงราว 3.5 แสนไร่ ซึ่งถือว่าการลดลงมากที่สุดในรอบ 10 ปีย้อนหลัง
โดยเหตุผลที่พื้นที่ป่ายังคง ‘ลดลง’ ทุกปี มาจากสาเหตุต่อไปนี้
- การเปลี่ยนที่ดินเป็นพื้นที่เกษตรกรรม
- สิ่งปลูกสร้างรองรับการท่องเที่ยว
- การลักลอบตัดไม้ หาของป่า ปัญหาไฟป่า
ร่วมปกป้องพื้นที่ป่า ฟื้นฟูระบบนิเวศ
สำหรับแนวทางในการขับเคลื่อน เพื่อสามารถช่วยปกป้องและฟื้นฟูป่าไม้ของไทย อาทิเช่น
- หลัก 4Ps (Public-People-Private Partnerships) ความร่วมมือระหว่างรัฐ ประชาชน เอกชน
- มาตรการจูงใจให้ทุกภาคส่วนมีบทบาทอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม
- ภาครัฐเร่งทบทวนนโยบายแนวเขตป่า ปรับปรุงประสิทธิภาพการบริหารจัดการ
- บังคับใช้ กฎหมาย ด้านป่าไม้ และการใช้ที่ดิน
- การจัดการพื้นที่แนวกันชนรอบป่า และกลไก คาร์บอนเครดิต ภาคป่าไม้ หรือการส่งเสริม ป่าชุมชน
- ส่งเสริมการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพนอกพื้นที่คุ้มครอง (OECMs)






