นิวยอร์คจัดนิทรรศการเชิดชูจิตอาสาฝ่าวิกฤติโควิดปี2563 “ปู-เจส” สองสามีภรรยาคนไทยเข้าร่วมด้วย

เมื่อช่วงต้นปี 2563 สถานการณ์โควิด-19 ที่นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เข้าขั้นวิกฤติเมื่อมีผู้เสียชีวิตในแต่ละวันหลายร้อยคน จนกลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลก

สภาพบ้านเมืองในนิวยอร์คเหมือนเมืองร้างที่เห็นกันในภาพยนตร์ ร้านอาหารปิด ข้าวของขาดแคลน ผู้คนมืดมนสิ้นหวัง แต่ในวิกฤตินั้นก็ยังมีแสงสว่างดวงเล็ก ๆ เกิดขึ้น เมื่อสองสามีภรรยาคนไทย ปู-กันยาวีร์ และเจส คาลโว เจ้าของร้านอาหารไทย Thai Farm Kitchen อาสาที่จะเป็นเทียนเล็กๆเล่มหนึ่งที่จุดขึ้นมาเพื่อเป็นแสงสว่างให้กับชุมชนในช่วงเวลาที่มืดมิดขณะนี้ เพื่อให้ความอบอุ่น ความหวัง เพื่อสร้างพลังบวกให้เกิดขึ้นในชุมชน

ปู กันยาวีร์ เคยให้สัมภาษณ์ในช่วงนั้นไว้ว่า “เราประกาศที่จะให้ความช่วยเหลือโดยจะส่งมอบอาหารกลางวันไปถึงหน้าประตูบ้านของผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ติดเชื้อ และผู้ที่เดือดร้อนและไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ส่วนค่าใช้จ่ายนั้นค่อนข้างสูง ประมาณ $500 US หรือประมาณ ฿16,500 บาท ต่อวัน เงินทุนทั้งหมดเป็นของเราเองทั้งสิ้น”

กว่า 3 เดือนที่ปูและเจส ลุกขึ้นมาช่วยสังคมอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย การกระทำของพวกเขาช่วยให้เกิดพลังขับเคลื่อนที่ยิ่งใหญ่ที่ชาวเมืองอีกจำนวนหนึ่งลุกขึ้นมาเป็นจิตอาสาเข้ามาช่วยเหลือผู้ที่กำลังลำบากจากสถานการณ์โควิด จนผ่านพ้นวิกฤติไปได้ด้วย

จนสื่อ NEWS 12 BROOKLYN สื่อท้องถิ่น และสื่อไทยต่างยกย่องการกระทำของสองสามีภรรยาคนไทยอย่างล้นหลาม ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ที่ผ่านมา ณ AVENUE C Plaza บรู๊คลิน นิวยอร์คซิตี้ ทางเมืองเคนซิงตัน (KENSINGTON) ณ นครนิวยอร์ค ได้ให้เกียรติจัดนิทรรศการเชิดชูเกียรติเหล่าจิตอาสาทั้งหลายที่ลุกขึ้นมาช่วยเหลือเหลือชาวเมืองนิวยอร์คที่กำลังยู่ในสภาพจิตใจที่ย้ำแย่ในเวลานั้นให้สามารถฝ่าวิกฤติไปได้ หนึ่งในภาพนิทรรศการทมี่แสดงคือภาพของ ปู-กันยาวีร์ และเจส คาลโว ที่จับมือกับพนักงานในร้านอาหารและคนไทยอีกจำนวนหนึ่งเพื่อนำอาหารกล่องเข้าไปมอบให้กับคนด้อยโอกาส ซึ่งภายในงานมีการแสดงดนตรี ภาพถ่ายเหตุการณ์รำลึกถึงเหตุการณ์ที่เหล่าจิตอาสาลุกขึ้นมาแสดงพลังช่วยเหลือ รวมทั้งบทความบนถนนกลางเมือง KENSINGTON ซึ่งได้รับความสนใจจากชาวเมืองที่เข้ามาร่วมชมนิทรรศการอย่างมากมาย รวมทั้งมาแสดงความขอบคุณต่อน้ำใจแบบชาวไทยทั้งสองอย่างไม่ขาดสาย ซึ่งภาพนิทรรศการดังกล่าวจะเปิดแสดงต่อเนื่องไปจนถึง 31 ธันวาคมสิ้นปีนี้ เพื่อให้เกียรติยกย่องการกระทำของคนดีที่เสียสละเพื่อเป็นตัวอย่างต่อชาวนิวยอร์คต่อไป

ปู กันยาวีร์ กล่าวถึงความรู้สึกหลังจากที่ได้เดินชมนิทรรศการแล้วว่า “รู้สึกภูมิใจที่ได้สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย จากการที่ได้เป็นส่วนเล็ก ๆ ในการช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากในช่วงสถานการณ์มืดมนในช่วงโควิดกำลังแพร่ระบาด ได้เห็นได้รับรู้ได้สัมผัสกับเหตุการณ์น่าสะพรึงกลัว แต่เราก็ขอเป็นแค่แสงเทียนเล็ก ๆ ในยามมืดมน ให้ผู้คน เพื่อนบ้านในชุมชนได้ชุ่มชื่นหัวใจ”

ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่นครนิวยอร์คเริ่มกลับมาตึงเครียดอีกครั้งเนื่องจากการแพร่ระบาดอย่างหนักอีกระลอกของสายพันธุ์เดลต้า แม้กระทั่งผู้ที่ฉีดวัคซีนไป 2 เข็มแล้วก็อาจกลับมาเป็นโควิดได้อีก

อย่างไรก็ตามการประกอบธุรกิจต่าง ๆ ก็ยังดำเนินไปได้อย่างปกติ รวมทั้งประชาชนสามารถใช้ชีวิตเกือบปกติ แต่ยังต้องสวมหน้ากากป้องกันอยู่ ขณะที่ทางนครนิวยอร์คยังเดินหน้ารณรงค์ให้ประชาชนฉีดวัคซีนป้องกัน ซึ่งวัคซีนที่จัดหามาให้ประชาชนมี 3 ยี่ห้อด้วยกันคือ ไฟเซอร์ โมเดอร์น่าและจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน โดยขณะนี้ชาวนิวยอร์คฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มเกือบทุกคนยกเว้นเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี และผู้ที่ไม่ประสงค์จะฉีดวัคซีน ส่วนผู้ที่อายุ 70 ปีขึ้นไป เริ่มฉีดBoosterเข็มที่ 3 แล้ว

เนื่องจากนครนิวยอร์คเป็นพื้นที่อันตรายจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดอย่างหนัก ดังนั้นเมื่อเริ่มมีการฉีดวัคซีนให้ประชาชนทางรัฐบาลจึงเร่งรณรงค์ให้ประชาชนมาฉีดวัคซีนโดยด่วนถึงกับออกโปรโมชั่นเชิญชวนผู้ที่มาฉีดวัคซีนเข็มแรกจะได้รับเงิน 100 ดอลล่าร์ทันที รวมถึงเพิ่มความสะดวกสบายด้านสถานที่ฉีดวัคซีนแก่ประชาชนหลายจุดให้มาฉีดฟรี อาทิ โรงพยาบาล ร้านขายยาทั่วไป ห้างสรรพสินค้า สถานีจอดรถโดยสาร เป็นต้น และที่พิเศษคือเปิดจุดบริการฉีดวัคซีนฟรีให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศโดยไม่แบ่งเชื้อชาติ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สื่อนิวยอร์กชื่นชม “ปู-เจส” เจ้าของร้านอาหารไทย เดินตามรอย ร.๙ ทำอาหารแจกฝรั่งช่วงวิกฤติโควิด

 

Stay Connected
Latest News

KCG เปิดวิสัยทัศน์ CEO คนใหม่ ‘ดำรงชัย วิภาวัฒนกุล’ สร้างการเติบโตที่มั่นคง ยั่งยืน และพร้อมสู่อนาคตที่กำลังเปลี่ยนแปลง ทรานส์ฟอร์มองค์กร สานต่ออาณาจักรอาหารสไตล์ตะวันตก เนยและชีส