ครั้งแรกของโลก ‘เรเว่’ เปลี่ยนไมล์รถอีวีเป็น ‘คาร์บอนเครดิต’ คืนให้ผู้ขับ BYD ผนึกพันธมิตรเร่งขับเคลื่อนสังคมคาร์บอนต่ำเต็มสูบ

ถือเป็นอีกหนึ่งพันธกิจในการขับเคลื่อนสังคมคาร์บอนต่ำ ​​เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมและนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคได้จริง ด้วยการเปลี่ยนไมล์ตามระยะทางในการขับรถยนต์อีวีมาเป็นคาร์บอนเครดิตเพื่อคืนกลับ​ให้ลูกค้าโดยตรง​เป็นครั้งแรกของโลก

โดย​ บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายและให้บริการหลั​​งการขายรถยนต์ไฟฟ้า BYD อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ถือเป็นบริษัทแรกในโลกที่มอบผลประโยชน์จาก Carbon Credit คืนให้กับลูกค้า เพื่อขับเคลื่อน​วิสัยทัศน์ “RÊVERLUTION”  (เรเว่ลูชัน) ในการผลักดันประเทศสู่สังคมคาร์บอนต่ำ​ ตามแผน​ NDC (Nationally Determined Contribution) ​ที่ตั้งเป้าหมายสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี พ.ศ. 2593 และ Net Zero ภายในปี พ.ศ. 2608  ซึ่ง​คาร์บอนเครดิตถือเป็นกลไกสำคัญในการต่อสู้กับปัญหา​การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศพร้อมทั้ง​สามารถขับเคลื่อน​ไปสู่เป้าหมาย​การสร้าง Carbon Neutral และ Net Zero ได้อย่างมีประสิทธฺภาพ 

พร้อมเปิดตัวโครงการคาร์บอนเครดิต​ เพื่อสนับสนุนการไปสู่เป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรม  และเป็นครั้งแรกของโลกที่มีการคืนคาร์บอนเครดิตให้กับลูกค้า BYD ตามระยะทางในการขับขี่ เพื่อนำ​คาร์บอนเครดิตที่ได้ไปแลกสิทธิประโยชน์ต่างๆ ผ่าน ​RÊVER Application ​ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มกลางที่ทางเรเว่พัฒนาขึ้น เพื่อดำเนินการคืนเครดิตหรือแลกสิทธิประโยชน์จากพันธมิตร โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ​ส่วนอัตราการคำนวณคาร์บอนเครดิตจะยึดตามมาตรฐาน  VERRA’s Verified Carbon Standard (VCS) ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล

คุณประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้ เป็นการเติมเต็ม EV Ecosystem ในประเทศให้สมบูรณ์มากขึ้น เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านประเทศไทยสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำตามเป้าหมายระดับประเทศ  ซึ่งการเข้ามาสร้างความร่วมมือในระดับผู้บริโภคครั้งนี้ จะเป็นอีกหนึ่งตัวเร่งการเติบโตให้ตลาดรถยนต์อีวี ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มเข้าสู่ระดับ Growth State ทั้งจากการมีช้อยส์ให้ผู้บริโภคมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรุ่นรถ แบรนด์ ความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ รวมทั้งการมีโปรแกรมกระตุ้นการขับขี่ โดยเชื่อว่าจะสามารถผลักดันยอดขาย BYD สิ้นปีได้ที่ 40,000 – 50,000 คัน รวมทั้งผลักดันตลาดอีวีโดยรวมในปีนี้ให้เติบโตได้มากกว่า​ 65,000 คัน หรืออาจจะแตะถึง 7- 8 หมื่นคัน จากภาพรวมตลาดรถยนต์ประมาณ 8 แสนคัน 

“การประกาศวิสัยทัศน์ใหม่ครั้งนี้ถือเป็นการประกาศความพร้อมและความร่วมมือจากหลากหลายพันธมิตรเพื่อผลักดันประเทศสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ขณะที่ความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่าน ทางเรเว่ได้ขยายสถานีชาร์จเรเว่ชาร์จเจอร์ (RÊVERSHARGER) จากการเข้าเป็นพันธมิตรกับบริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นท์ จำกัด (SHARGE) ​ผู้พัฒนาสถานีชาร์จที่เติบโตได้อย่างก้าวกระโดด เพื่อร่วมกันขยายสถานีชาร์จให้ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม Night Charge, Day Charge หรือ On the Go ผ่านการร่วมมือกับพันธมิตรในภาคอสังหา​ริมทรัพย์ และสถานีบริการน้ำมันบางจาก, Susco ทั่วประเทศ”

ด้าน คุณประธานพร พรประภา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด กล่าวว่า  เรเว่มุ่งมั่นสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านมาสู่ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากขึ้น ทั้งการขับเคลื่อนในเชิงนโยบาย รวมทั้งการสื่อสารเพื่อให้ผู้คนหันมา​ใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น รวมทั้งการเปิดตัวโครงการคาร์บอนเครดิต​ เพื่อช่วยกระตุ้นการขับขี่รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น

“ภายหลังการได้เป็นผู้จัดจำหน่ายและบริการหลังการขายรถยนต์ BYD พร้อม​เริ่มจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า BYD ATTO 3 เป็นรุ่นแรกในเดือน พ.ย. 2565 พร้อมสร้างกระแสในตลาดได้อย่างดี พร้อมเปิดตัวรุ่นที่สอง BYD DOLPHIN ในเดือน ก.ค. 2566 เพื่อสร้างแรงกระเพื่อมให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเติบโตได้ต่อเนื่องอย่างก้าวกระโดด รวมทั้งการเสริมความแข็งแรงให้โครงสร้างพื้นฐาน และการมีกิจกรรมเพื่อกระตุ้นผู้บริโภค ส่วนการคืนคาร์บอนเครดิตจะมอบให้ลูกค้าทุกคนที่สมัครเข้าร่วมโปรแกรมตั้งแต่ไมล์แรก ด้วยอัตราที่ทำให้ลูกค้าได้รับประโยชน์สูงสุด และเชื่อว่าจะช่วยสร้างการตระหนักรู้เรื่องคาร์บอนเครดิตให้ผู้บริโภคคนไทย เช่นเดียวกับที่เริ่มมีการตื่นตัวแล้วในหลายประเทศ​ โดยเฉพาะหลังการเคลมเครดิตรอบแรกในช่วงต้นปีหน้า จะทำให้มีผู้เข้าร่วมโปรแกรมเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง” 

คุณพีระภัทร ศิริจันทโรภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นท์ จำกัด (SHARGE) ​ผู้พัฒนาธุรกิจสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ Sharge ซึ่งได้ดำเนินการมากว่า 3 ปี พร้อมสร้างเครือข่ายสถานีชาร์จที่แข็งแกร่งกว่า 486 จุดใน 155 แห่ง โดย 75% อยู่ในภาคกลางของประเทศไทย เพื่อเป็นการแก้ปัญหาการต่อคิวตามสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบัน พร้อมแผนการขยายโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าภายหลัง​ร่วมทุนกับทางเรเว่ โดยจะทยอยเปลี่ยนแบรนด์มาเป็น RÊVERSHARGER พร้อมขยายสถานีเพิ่มเติมเพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวกและรองรับได้ทุกกลุ่มไลฟ์สไตล์

ทั้งนี้ เป้าหมายในการขยาย “RÊVERSHARGER”  มีแผนขยายเพิ่มเติมให้ครอบคลุมทั่วประเทศ 1,110 จุด ​แบ่งเป็น สถานีชาร์จไฟฟ้า กระแสตรง 394 จุด และสถานีชาร์จไฟฟ้ากระแสสลับ 716 จุด​ รวมทั้งการจับมือกับ​พันธมิตรในกลุ่มธุรกิจอสังหา อาทิ ​โรงแรมเดอะสแตนดาร์ด โครงการแสนสิริ และ โครงการชาญอิสระ อีกทั้งสถานีบริการน้ำมันบางจาก และ สถานีบริการน้ำมันซัสโก้ ซึ่งผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าจะคลายความกังวลในการเดินทางไกลได้อย่างสบายใจมากขึ้น

Stay Connected
Latest News