VRH Modern Life สุขภัณฑ์ตอบโจทย์ประหยัดน้ำ-พลังงาน

แนวโน้มคนไทยเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องนวัตกรรมที่ล้ำยุคพร้อมกับตอบโจทย์เรื่องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงานมากขึ้น

พิษณุ หทัยพันธลักษณ์ ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจ VRH Modern Life บริษัท วี.อาร์.ยูเนี่ยน จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายก๊อกน้ำและอุปกรณ์ในห้องน้ำสแตนเลสรายใหญ่ของเมืองไทย จึงเสาะหาผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนไทยระดับ Hi-End โดยขยายไลน์ VRH Modern Life นำเข้าสุขภัณฑ์และก๊อกน้ำ CONTI และ AXENT จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ผู้ผลิตแบรนด์ระดับชั้นนำของโลก ที่มีดีไซน์หรู ฟังก์ชั่นการใช้งานพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย และที่สำคัญเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

“แนวทางในการเลือกแบรนด์และผลิตภัณฑ์เข้ามาจำหน่ายจะพิจารณาจากรูปลักษณ์ของสินค้า และดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีทันสมัยในการใช้งาน นอกจากนี้ต้องมีอุปกรณ์หรืออะไหล่ที่สามารถดูแลรักษาได้ในระยะยาว ทั้งหมดนี้สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในรูปแบบของลูกค้า ภายใต้แนวคิด Comfort Comes Styled “ พิษณุ กล่าว

 

ถ้าไปเยือนประเทศสวิตเซอร์แลนด์จะพบว่า ห้องน้ำสาธารณะเกือบทุกแห่งจะใช้ก๊อกน้ำเปิด-ปิดอัตโนมัติระบบเซ็นเซอร์ ยี่ห้อ CONTI ซึ่งมีจุดเด่นคือ วาวด์ประหยัดน้ำและพลังงาน เพราะจะใช้พลังงานเพียงแค่เปิดและปิดก๊อกเท่านั้น ต่างจากก๊อกน้ำระบบเปิด-ปิดทั่วไปที่ต้องมีปลั๊กเสียบต่อจากไฟบ้านตลอดเวลา ทั้งนี้เพราะพลังงานที่ใช้มาจากแบตเตอรีมีอายุการใช้งานนานถึง 2 ปีครึ่งต่อการเปิด-ปิดก๊อกน้ำวันละ 500 ครั้ง ( ขณะที่ยี่ห้อทั่วไปอายุของแบตตารีเพียง 6 เดือน) แต่ถ้าเพิ่มอุปกรณ์โซล่าเซลล์ที่พึ่งพาพลังงานตรงจากหลอดLEDเข้าไป สามารถยืดอายุแบตตารี่ได้นานถึง 4 ปี และระบบเซ็นเซอร์ยังช่วยประหยัดน้ำเพราะน้ำจะไหลเมื่อต้องการใช้เท่านั้น

 

ข้อดีอีกประการของก๊อกน้ำเปิด-ปิดระบบเซ็นเซอร์คือ ผู้ใช้ไม่ต้องสัมผัสโดยตรงกับตัวก๊อก จึงไม่เป็นแหล่งแพร่เชื้อโรค ดังนั้นจึงเป็นที่นิยมใช้ในที่สาธารณะ เช่นห้องน้ำในสนามบิน ห้องน้ำในสวนสาธารณะ ห้องน้ำในร้านอาหารฟ้าสต์ฟู้ดชื่อดัง

ส่วน AXENT เป็นผู้นำด้านสุขภัณฑ์ชื่อดังจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์เช่นกัน นอกจากดีไซน์ที่โดดเด่นล้ำสมัยแล้ว ยังเป็นสุขภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยใช้เทคโนโลยีระบบ Vacuum Flush สุขภัณฑ์ AXENT จึงไม่มีแทงก์เก็บน้ำอยู่ด้านหลัง ( Tankless) ซึ่งจะใช้น้ำในการทำความสะอาดเพียงครั้งละ 3 ลิตร ขณะที่ยี่ห้อทั่วไปใช้น้ำถึง 5 ลิตรต่อการใช้งาน 1 ครั้ง
และการที่เป็นสุขภัณฑ์แบบ Tankless ที่ไม่มีแทงก์น้ำอยู่ด้านหลัง ช่วยลดการใช้เซรามิคลงถึง 30 % มีงานวิจัยระบุว่าถ้านำเซรามิค 30 % ต่อการใช้ทั้งปีมารวมกัน สามารถสร้างอาคารได้ 1 หลัง

พิษณุกล่าวเพิ่มเติมถึงช่องทางการจำหน่ายว่า จะเปิดตัว 2 แบรนด์นี้ครั้งแรกในงานสถาปนิก’61 ระหว่างวันที่ 1-6 พ.ค.นี้ ณ ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพค เมืองทองธานี และในเดือนก.ค.นี้ จะวางจำหน่ายที่ร้านบุญถาวร ทุกสาขา

Stay Connected
Latest News