ส่อง 10 เหตุผล คนรุ่นใหม่อยากเปลี่ยนงาน พร้อมวิธีรักษากลุ่ม Talent ในที่ทำงาน โจทย์ใหญ่ HR ‘สร้างประสบการณ์ที่ดีในการสมัครงาน’

Work Venture ผู้นำด้านที่ปรึกษาการสร้างแบรนด์นายจ้างและโซลูชั่นแบบครบวงจรของเมืองไทย เปิดเผยผลการสำรวจล่าสุด ถึงแรงจูงใจและพฤติกรรมการสมัครงานและการเปลี่ยนงาน

เพื่อเข้าใจถึงปัจจัยและความต้องการจากคนทำงานที่อาจเปลี่ยนแปลงไป อันเนื่องมาจากสภาวะสังคม เศรษฐกิจ เทคโนโลยี ช่วงอายุและยุคสมัย รวมถึงผ่านพ้นช่วงเวลาของการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 จะส่งผลอย่างไรกับทาเลนต์ไทยในปัจจุบัน

ทั้งนี้ จากการสำรวจที่นำเอาปัจจัยสำคัญในการดึงดูดและรักษาทาเลนต์มาจาก framework ของ Best Place To Work ลิขสิทธิ์ของ WorkVenture โดยเฉพาะ เพื่อใช้ตรวจสุขภาพนายจ้าง มุ่งค้นหาความสมบูรณ์เชิงประสบการณ์การจ้างงานซึ่งมีทั้งสิ้น 26 เรื่อง (drivers) ด้วยกัน

โดยกลุ่มตัวอย่างได้ตอบคำถามที่ว่า​  ‘เรื่องที่สำคัญที่สุดของที่ทำงานใหม่สำหรับคุณเวลาที่อยากจะเปลี่ยนงานคือเรื่องใด?’ ผลออกมาชัดเจนว่าใน 10 อันดับแรก ได้แก่

1. เงินเดือนที่สามารถต่อรองได้ (76%) 2. สวัสดิการและสิทธิพิเศษ (73%)  3. สมดุลระหว่างงานและการใช้ชีวิต (66%)

4. ความก้าวหน้าในสายอาชีพ (64%) 5. ความมั่นคงในการจ้างงาน (64%) 6. สถานที่ทำงาน (52%) 7. การทำงานเป็นทีม (46%)

8. ความเคารพและความเอาใจใส่ (46%) 9. ความเป็นมืออาชีพในการทำงาน (45%) และ 10. วัฒนธรรมของบริษัท (45%)

ขณะที่มีปัจจัยบางเรื่องกำลังส่งสัญญาณมาแรงให้นายจ้างได้ทราบถึงความต้องการ หรือคุณค่าที่ทาเลนต์กำลังมองหาในองค์กรนายจ้าง ได้แก่ การฝึกอบรมและการพัฒนาทักษะ ซึ่งหากนายจ้างมุ่งเน้นประสบการณ์ในเรื่องเหล่านี้และสื่อสารเล่าเรื่องราวอย่างสร้างสรรค์ให้ไปถึงยังกลุ่มผู้สมัครที่เป็นเป้าหมายในหลากหลายรูปแบบและช่องทางจะยิ่งมีผลต่อการรับรู้ ความสนใจ และความต้องการสมัครเข้าร่วมงานของทาเลนต์มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเสริมพลัง Brand Exposure ให้โดนใจตอบโจทย์เพิ่มการเปิดรับของกลุ่มคนทำงานเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้นด้วย

สิ่งที่น่าจับตามองอีกเรื่องหนึ่งคือ กลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่ช่วงอายุ 22-34 ปี ซึ่งเป็นประชากรกลุ่ม Gen Y ที่มีประสบการณ์ทำงานเริ่มเป็นหัวหน้างาน และ Gen Z ที่กำลังเข้าสู่วัยทำงาน (First Jobbers) กำลังมองหาคุณค่าใหม่ๆ ที่แตกต่างไปจากคนรุ่นก่อนๆ พวกเขาให้ความสำคัญกับโอกาสที่จะได้รับการพัฒนาความรู้ เพิ่มพูนทักษะความสามารถใหม่ๆ ได้รับคำแนะนำและมีที่ปรึกษาดีๆจากรุ่นพี่และผู้ใหญ่ในองค์กร การสร้างประสบการณ์โดยตรงเหล่านี้ให้จริงจัง ซัดเจน และเพิ่มมากขึ้น

นอกจากจะรักษาคนทำงานกลุ่มนี้ให้อยากที่จะอยู่และเติบโตกับองค์กรในช่วง 1-3 ปีแรกแล้ว การสื่อสารเล่าเรื่องราว (storytelling) ที่มาจากเรื่องจริงของคนทำงานจริงในองค์กรยังเป็นหลักฐานที่ทรงพลังให้กับทาเลนต์ในตลาดแรงงานอีกด้วย

นอกจากนี้ทาง WorkVenture ยังได้สำรวจถึงความต้องการและพฤติกรรมในการทำงานของทาเลนต์ไทยในยุคหลังโควิดเพิ่มติมอีกด้วยว่า ‘เวลาที่คุณมองหางานใหม่ ถ้าเลือกได้คุณอยากจะทำงานในรูปแบบไหนมากที่สุด?’ ผลปรากฎออกมาว่า ความต้องการที่จะปฏิบัติงานนอกส​ถานที่มากกว่าในสถานที่ (More Outsite 34%) ซึ่งใกล้เคียงกับความต้องการที่จะปฏิบัติงานในสถานที่มากกว่านอกสถานที่ (More Onsite 32%) ในขณะที่มีเพียง 9% เท่านั้น ที่ยังคงต้องการทำงานในสถานที่ทำงานเพียงอย่างเดียว

สำหรับความต้องการในด้านช่องทางการสมัครงานในปี 2023 นี้ กลุ่มตัวอย่างต่างยกให้ การได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์หรืออีเมลจากฝ่ายบุคคลของบริษัทเชิญชวนให้ไปสมัครงานเป็น รูปแบบที่ถูกใจที่สุด (22%) ใกล้เคียงกับ การสมัครงานผ่านเว็บไซต์รับสมัครงานทั่วไป (21%) ซึ่งข้อน่าสังเกตก็คือกลุ่มที่ถูกใจการได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์หรืออีเมลจากฝ่ายบุคคลมากที่สุดนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มที่มีช่วงอายุ 35 ปีขึ้นไป  ขณะที่กลุ่มที่ถูกใจการสมัครงานผ่านเว็บไซต์รับสมัครงานทั่วไป ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่ตั้งแต่ 34 ปี ลงมามากกว่ากลุ่มอื่น

ส่วนประเด็น ‘ขั้นตอนและกระบวนการรับสมัครงานตั้งแต่เริ่มต้นจนจบมีผลต่อการตัดสินใจไปร่วมงานที่บริษัทนั้นหรือไม่?’  นั้นกว่าครึ่ง (52%) ต่างตอบว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก โดยมีจำนวนที่ตอบใกล้เคียงว่า ค่อนข้างสำคัญในบางประเด็น อีก 43% ที่ส่งสัญญาณให้นายจ้างควรกลับมาทบทวน ออกแบบ และพัฒนาประสบการณ์ในการสมัครงานตั้งแต่จุดแรกจนถึงจุดสุดท้าย ก่อนเข้าร่วมงาน​ให้มีประสิทธิภาพ ราบรื่นและเกิดความประทับใจที่ดีก่อนเริ่มงาน

ในขณะที่รูปแบบการสัมภาษณ์งานนั้นมีผลจากช่วงโควิดทำให้การสัมภาษณ์งานแบบออนไลน์กลายเป็นอีกหนึ่งรูปแบบมาตรฐานที่เริ่มคุ้นชินจนเป็นการปฏิบัติกันเป็นปกติ สะดวกและประหยัดเวลาต่อกัน จนทำให้มีความต้องการจากทาเลนต์ถึง 45% เทียบกับสัมภาษณ์แบบพบตัวจริง 55%

ด้านการดูแลพนักงานและสวัสดิการ เรื่องไหนมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเข้าร่วมงานกับบริษัทนั้นๆ มากที่สุด? ทาเลนต์กลุ่มตัวอย่างต่างโหวตให้กับการทำประกันสุขภาพให้กับพนักงานมากที่สุด รองลงมาคือเปิดหลักสูตรและเวิร์คชอปให้พนักงานเข้าเรียน เพิ่มพูนทักษะได้ การมีโอกาสได้ไปทำงานในต่างประเทศ คลาสสอนภาษาต่างประเทศ และโรงอาหารและอาหารฟรีสำหรับพนักงาน ตามลำดับ

สุดท้ายกับเหตุผลของทาเลนต์ต่อคำถามที่ว่า ‘อะไรที่น่าจะเป็นสาเหตุใหญ่ที่จะทำให้ตัดสินใจลาออกจากงานปัจจุบันที่ทำอยู่ได้?’ โดย 5 เหตุผลยอดฮิต พบว่า

57%​ ยังคงเป็นเรื่องของรายได้และผลตอบแทนที่ต่ำหรือไม่เพียงพอ,​

51%​​ การที่ทุ่มเททำงานอย่างสุดความสามารถแล้วก็ยังไม่ได้รับการสนับสนุนและมองไม่เห็นความก้าวหน้าเติบโตกับที่นี่ได้เลย​

50%​ ชีวิตการทำงานไม่สมดุล/ไม่ตอบโจทย์ชีวิตส่วนตัว

40%​ อยู่ไปก็ไม่เห็นจะได้รับการพัฒนาอะไรจากที่นี่

และ 39% ฝ่ายบริหารจัดการไม่ดี

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ได้ค้นพบจากผลสำรวจทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นการส่งสัญญาณจากกลุ่มทาเลนต์สะท้อนไปยังนายจ้างให้หันมาทำการศึกษา และเข้าใจ​ความต้องการและพฤติกรรมของทาเลนต์ในตลาดที่เป็นกลุ่มเป้าหมายที่แท้จริงขององค์กร รวมถึงการให้ความสนใจ และรับฟังกลุ่มพนักงานปัจจุบันที่มีอยู่ในองค์กร เพื่อค้นหา เพิ่มเติม ปรับปรุง และแก้ไขให้ประสบการณ์การจ้างงานนั้นโดดเด่น เป็นจุดแข็งที่รักษาทาเลนต์คนในไว้ได้  และยังสามารถสามารถดึงดูดทาเลนต์ตัวท๊อปในตลาดได้อย่างทรงพลังจนกลายเป็นองค์กร Best Place To Work ตัวจริงเสียงจริงในปี 2023 นี้

Stay Connected
Latest News