ไม่เกินสิ้นปี ผู้ใช้ EV เตรียมชาร์จไฟที่เซ็นทรัลทุกศูนย์ ได้ทั่วประเทศ เล็งเติม EV Ecosystem ในเครือต่อ ทั้งเรสซิเดนท์ ออฟฟิศ และโรงแรม

ซีพีเอ็น ย้ำความเป็นผู้นำ ร่วมขับเคลื่อนประเทศสู่สังคมคาร์บอนต่ำ พิชิตเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) เพื่อสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทย พร้อมเติมเต็ม EV Ecosystem จับมือ ปตท. และ อีโวลท์ ขยาย EV Charging Station ทั้ง  37 ศูนย์ทั่วประเทศ รวม 400 ช่องจอด ภายในสิ้นปีนี้ ด้วยงบลงทุนรวมกว่า 200 ล้านบาท  

คุณวัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น กล่าวว่า เพื่อเป็นการส่งเสริม Green Lifestyle ของคนไทย และตอบรับเทรนด์พลังงานสะอาด โดยเฉพาะแนวโน้มการเติบโตของผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าที่จะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต พร้อมย้ำความเป็นผู้นำ Mixed-use Developer รายแรกที่จะมุ่งสู่ Net Zero ภายในปี 2050 จึงได้ร่วมมือกับพันธมิตรในกลุ่มพลังงานขนาดใหญ่ เพื่อร่วมกันเติมเต็ม EV Ecosystem ผ่านการขยายสถานีอัดประจุรถยนต์ไฟฟ้าในศูนย์การค้าของซีพีเอ็นท่ัวประเทศ รวมทั้งสิ้น 400 ช่องจอด ภายในสิ้นปีนี้  เพื่อร่วมสร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้งานรถยนต์ในการเปลี่ยนผ่านจากการใช้เครื่องยนต์สันดาปมาสู่การใช้รถยนต์อีวี

ทั้งนี้ เฟสแรกคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคม ของปีนี้ เพื่อตอบรับการเดินทางในทุกรูปแบบ ทั้งการเดินทางตามกิจวัตรประจำวัน (short haul) หรือเดินทางแบบเมืองเชื่อมเมือง (long haul) โดยศูนย์ของซีพีเอ็นจะสะท้อนการเป็นศูนย์กลางของทุกจังหวัดท่องเที่ยวจากเหนือจรดใต้ ผ่าน 37 สาขา  18 จังหวัด ทั่วประเทศ

สำหรับความโดดเด่นของจุดชาร์จรถไฟฟ้าในเซ็นทรัล คือ 1.) จุดชาร์จครอบคลุมทั่วประเทศ ทำให้เกิด Worry-Free Journey การเดินทางแบบไร้กังวล  2.) ความสะดวกสบาย ชาร์จไฟกับรถยนต์ได้ทุกแบรนด์ ทุกค่าย  3.) สถานที่และระบบชาร์จมีมาตรฐานและความปลอดภัยสูง และ 4.) ได้รับสิทธิประโยชน์มากมายจากกลุ่มเซ็นทรัล ส่งเสริม Eco-lifestyle Marketing ทั้งโปรโมชั่น และส่วนลด อาทิ ชาร์จฟรี 1 ชั่วโมงแรก เมื่อช้อปในศูนย์การค้าครบ 800 บาท สิทธิพิเศษมีจำนวนจำกัด เฉพาะ 1 เดือนแรก

“การขับเคลื่อนของซีพีเอ็นเพื่อสนับสนุนการใช้รถ EV ให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของคนไทย และร่วมกันดูแลโลกและสิ่งแวดล้อม พร้อมต่อยอดตามดีมานต์ของลูกค้าในอนาคต และมีแผนขยายไปสู่ธุรกิจอื่นๆ ในเครือ อาทิ ที่อยู่อาศัย,โรงแรม และ อาคารสำนักงานโดยคาดว่าจะมีส่วนช่วยในการลดการปลดปล่อยก๊าซ CO2 ให้ประเทศไทย ได้มากกว่า 5,250 ตันต่อปี  ซึ่งที่ผ่านมาซีพีเอ็นส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดในศูนย์การค้ามาโดยตลอด ผ่านการพัฒนาศูนย์การค้าในรูปแบบ Eco-Friendly Mall  รวมถึงมีจุดบริการส่งเสริมพฤติกรรมดูแลสิ่งแวดล้อม อาทิ EV-Charger และ Recycling Station และจุดทิ้งดี โดยวางโร้ดแม็ปลดการปลดปล่อยก๊าซ CO2 และ มลพิษจากธุรกิจสุทธิเป็นศูนย์ ผ่านการลดการใช้พลังงานให้ได้ 50% ลดการใช้ CFC และสารที่ทำลายชั้นบรรยากาศ และส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดหรือ Clean Energy ให้ได้อีก 50% รวมถึงการปลูกต้นไม้ให้ได้ 1 ล้านต้น”

คุณนพดล ปิ่นสุภา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่ม ปตท. โดย บริษัท อรุณ พลัส จำกัด (ARUN PLUS) ได้ขยายสถานีอัดประจุสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า on-ion ​(ออน ไอออน) ร่วมกับซีพีเอ็น เพื่อขยายความสามารถในการเข้าถึงสถานีได้อย่างครอบคลุม รองรับดีมานด์ตลาด EV และสร้างเครือข่ายพลังงานสะอาดผ่าน on-ion Mobile Application ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนการลงทุนนวัตกรรมพลังงานอนาคตของประเทศไทย โดยเฉพาะการลดความกังวลให้ผู้ใช้งานในการเดินทางได้ทั่วประเทศโดยไม่ต้องกังวลว่าแบตเตอรี่จะหมดระหว่างทาง

ทั้งนี้ พลังงานไฟฟ้าที่ได้รับจากสถานี on-ion ยังเป็นพลังงานสะอาดที่มาจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน 100% ด้วยการออกใบรับรองการใช้พลังงานหมุนเวียน หรือ Renewable Energy Certificates (RECs) และเป็นพลังงานหมุนเวียนที่ผลิตในประเทศไทยทั้งหมด  ปัจจุบัน กลุ่ม ปตท. ได้ลงทุนธุรกิจด้าน EV Value Chain รองรับการขยายฐานธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจร เพื่อร่วมสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทยให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นในทุกมิติ ทั้งในด้านการผลิต จำหน่าย ระบบกักเก็บพลังงาน แพลตฟอร์มเช่ายานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงพลังงานหมุนเวียนและการประหยัดพลังงาน

ด้าน คุณพูนพัฒน์ โลหารชุน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อีโวลท์ เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า พันธกิจของอีโวลท์ ในการพัฒนานวัตกรรมและโซลูชันเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าทุกกลุ่ม เพื่อพาคนไทยก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำ และผลักดันแนวคิดขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าในอนาคต ​โดย EV Charging Station​ ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญของการวางรากฐานให้ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าแข็งแรงขึ้น ซึ่งการร่วมมือกับเซ็นทรัลพัฒนาในครั้งนี้นับเป็นการร่วมมือครั้งสำคัญเพื่อเพิ่มศักยภาพในการขยายเครือข่ายสถานีชาร์จให้ผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าให้แข็งแกร่งและครอบคลุมมากขึ้น เข้าถึงสถานีชาร์จได้ง่ายขึ้น

อีโวลท์ในฐานะผู้ให้บริการสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร มุ่งขยายเครือข่ายสถานีชาร์จเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ At Home, At Work, At Play, At Travel ซึ่งเซ็นทรัลพัฒนาเป็นศูนย์การค้าชั้นนำที่มีโลเคชั่นใจกลางเมืองและจังหวัดหลักในแต่ละภูมิภาคที่ดี และอีโวลท์ที่จะเข้ามาช่วยเติมเต็มและเสริมความแข็งแกร่งของในส่วนของการขยายเครือข่ายสถานีชาร์จในศูนย์การค้าเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งาน โดยพร้อมเปิดให้ใช้บริการเต็มรูปแบบภายในปี 2565 ผ่าน EVolt Application ทั้งระบบ IOS และ Android พร้อมทีมงานที่ช่วยให้คำปรึกษาอย่างรวดเร็วตลอด 24 ชม. ผ่านทุกช่องทาง ทั้ง Call Center 02-114-7343 หรือ Line: @evolt_th

Stay Connected
Latest News