GC X SANSIRI ประกาศมุ่งสู่ Net Zero พัฒนานวัตกรรม สร้างสมดุลทั้ง ‘ธุรกิจ-สังคม-สิ่งแวดล้อม’

เมื่อ ความยั่งยืน กลายเป็นแกนหลักและเป้าหมายสำคัญของ​ทุกธุรกิจในปัจจุบัน เพื่อรักษาความแข็งแกร่งระยะยาว ท่ามกลางความเสี่ยงและความไม่แน่นอนจากปัจจัยรอบด้าน ทั้งบริบทของโลกและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ความขัดแย้งและการแข่งขันที่รุนแรง รวมทั้งการพัฒนาของเทคโนโลยี

ทำให้ภาคธุรกิจที่สามารถขับเคลื่อน​การเติบโต ควบคู่ไปกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม​ จะสามารถเป็นผู้รอดจากวิกฤตและความเสี่ยงต่างๆ รวมทั้งมีความพร้อมต่อโอกาสใหม่ๆ ที่อาจนำมาซึ่งการสร้าง New S-curve ให้ธุรกิจได้อีกครั้ง

สิ่งสำคัญนอกเหนือจากเป้าหมายและ​การวางยุทธศาสตร์เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนแล้ว ​แต่ละองค์กรจำเป็นต้องมีพันธมิตรเพื่อร่วมกันสร้าง Positive Impact ช่วยกันกระจายการพัฒนาหรือเพิ่มผลกระทบเชิงบวกได้มาก​กว่าการทำเพียงคนเดียวหรือต่างคนต่างทำ เพราะความร่วมมือของพันธมิตรที่ต่างมีความมุ่งมั่นและมองเป้าหมายเดียวกัน ​จะช่วยเพิ่มพลังในการขับเคลื่อนและสร้างประโยชน์ได้แบบทวีคูณ รวมทั้งยังเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทาง ​UN ระบุไว้ เพื่อการขับเคลื่อนสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน หรือ SDG Goals อีกด้วย

GC x แสนสิริ การร่วมมือของ 2 พันธมิตร

เช่นเดียวกับความร่วมมือของ 2 ผู้นำจาก 2 อุตสาหกรรม อย่าง GC หรือ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจเคมีภัณฑ์ระดับสากล เพื่อสร้างสรรค์คุณภาพชีวิต ด้วยแนวคิด Chemistry for Better Living และ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)​ ผู้นำ​ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ให้ความสำคัญต่อการดูแลคุณภาพชีวิตที่ดีของลูกค้า และยังเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายแรกของไทย ที่ตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net zero ภายในปี 2593 เช่นเดียวกับเป้าหมายที่ทาง GC วางไว้เช่นกัน

ความร่วมมือระหว่าง GC และ แสนสิริ จึงนับเป็นการต่อยอดความชำนาญ​ที่แต่ละฝ่ายมีอยู่ เพื่อเข้ามาช่วยเติมเต็ม​ระบบนิเวศในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และนวัตกรรมด้าน Smart Living เพื่อผลักดันสู่​ Green Society อย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำเพื่อส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า​​ ควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนสังคมคาร์บอนต่ำ เพื่อ​ลดผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อม ​ผ่านการสร้างสรรค์นวัตกรรมเคมีภัณฑ์ที่ตอบสนองการใช้ชีวิต รวมถึงส่งเสริมไลฟ์สไตล์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้ลูกบ้านแสนสิริในหลากหลายแนวทาง

เริ่มตั้งแต่ความร่วมมือระดับ​ต้นทางการก่อสร้าง เช่น การนำนวัตกรรมของ GC ไปพัฒนาเป็นวัสดุก่อสร้างให้โครงการต่างๆ ของแสนสิริ เช่น ไม้เทียม (Wood Composite) และผลิตภัณฑ์สำหรับตกแต่งทั้งภายในภายนอก ที่ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล, ​​นวัตกรรมเคมี​สีรักษ์โลก (non -VOC Solvent for Decorative Paint) ด้วย​ส่วนผสมจากธรรมชาติจึงปลอดภัยต่อผู้อยู่อาศัย ​ตอบโจทย์ได้ทั้งใช้ทาภายในและภายนอก รวมทั้งถังบรรจุน้ำ (Water Tank) ผลิตจากเม็ดพลาสติกคุณภาพสูงของ GC ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์​ที่มีคุณภาพสูงและมีความคงทน (Performance and Durable Product)

ไฟเบอร์กลาสเสริมแรง ตอบโจทย์นวัตกรรมบ้านสีเขียวเซฟโลก

รวมถึง การรุกนวัตกรรมบ้านสีเขียวเซฟโลก ด้วยการส่งมอบ GFRP Wiremesh หรือ ไฟเบอร์กลาสเสริมแรงในคอนกรีตความแข็งแรงสูง ที่ผลิตจาก Epoxy Composite สามารถใช้ทดแทนเหล็กเส้นได้ โดยมีจุดเด่นคือความแข็งแรงที่เทียบเท่าหรือสูงกว่าเหล็กเส้นแบบเดิม แต่น้ำหนักเบากว่าถึง 3 เท่า รวมทั้งยังไม่เป็นสนิม ไม่นำไฟฟ้า ​สามารถตัดได้ง่าย และมีอายุใช้งานนานกว่า 20 ปี ​โดยมีการ​ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่าเหล็กเส้นทั่วไปถึง 49.5% หรือ 40 ตัน/ปี จึงมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งปัจจุบันแสนสิริได้นำ GFRP Wiremesh ไปผลิตเป็นรั้วคอนกรีตสำเร็จรูป และนำไปใช้แล้วกว่า 40,000 ตรม. ในโครงการต่างๆ ได้แก่ เศรษฐสิริ, อณาสิริ และสราญสิริ

นอกจากนี้ยังได้ต่อยอดสู่​เฟอร์นิเจอร์รักษ์โลก ด้วยการนำเส้นใย Recycled Polyester คุณภาพสูงจากโครงการ Upcycling by GC  โดยได้นำร่องความร่วมมือ​กับ PASAYA และ SB Furniture ​​พัฒนาเป็นโชว์เคสผ่านเฟอร์นิเจอร์ในโครงการของแสนสิริ พร้อมเดินหน้าต่อยอดสู่แบรนด์พันธมิตรรายใหม่ๆ ในปีต่อมาอย่าง Pipatchara ที่นำผ้าอัพไซคลิงจากขวดพลาสติก PET ใช้แล้วจากโครงการ GC Upcycling Upstyling ​ในปี 2565 มาร่วมออกแบบคอลเลกชันกระเป๋าสุดหรู​ ​​เพื่อ​มอบให้​ลูกบ้านแสนสิริที่ทำการโอนบ้าน รวมถึงมีกระเป๋าใบเล็กที่สามารถดัดแปลง​เป็น Welcome Gift ใส่ของอเนกประสงค์ได้ด้วย

และในปี 2566 แสนสิริ ได้ร่วมมือกับ Fah Chak นำวัสดุรีไซเคิลมาพัฒนาสู่คอลเลกชั่นใหม่อย่าง ‘The Mirage’ ภายใต้ธีม Design for Sustainable Living ที่มีทั้งผลิตภัณฑ์ เก้าอี้นอน, หมอน และร่มริมสระน้ำ สไตล์ Georgian สุดหรูหรา ซึ่งมีวัสดุหลักคือผ้าที่ผลิตจากเส้นใยรีไซเคิลทั้งหมด และได้นำไปจัดแสดงพร้อมใช้งานจริงที่โครงการเศรษฐสิริ ดอนเมือง

คอลเลกชั่น ‘The Mirage’ ภายใต้ธีม Design for Sustainable Living ซึ่งใช้ผ้าจากเส้นใยรีไซเคิลทั้งหมด

​ต่อยอด​​ผลกระทบเชิงบวกรอบด้าน

นอกจากความร่วมมือผ่านการพัฒนาวัสดุหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทาง GC และแสนสิริยังให้ความสำคัญในการปลูกฝังพฤติกรรมคัดแยกขยะในชีวิตประจำวันของลูกบ้านอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการ​สร้างความตระหนักรู้ และการมีส่วนร่วมในการคัดแยกขยะ เพื่อ​นำไปรีไซเคิลอย่างถูกต้อง โดยได้เปิดตัว Drive-Thru Recycling Station จุดทิ้งขยะรีไซเคิลแบบไดรฟ์ทรู ซึ่งได้นำร่องในโคร​งการ​ Sansiri Backyard ใน T77 Community เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกและ​ให้ความรู้ ​ลูกบ้านแสนสิริในการแยกขยะได้ถูกประเภท ทั้งขวดพลาสติก PET, ขวดพลาสติก HDPE, ถุงพลาสติกยืด, กระป๋องอลูมิเนียม และขวดแก้ว

​ซึ่งการขับเคลื่อนครั้งนี้มี​​ ‘GC YOUเทิร์น แพลตฟอร์มบริหารจัดการพลาสติกใช้แล้ว เข้ามาช่วยลดเส้นทางขยะพลาสติกสู่หลุมฝังกลบ  ทั้งการรวบรวม คัดแยก และนำพลาสติกใช้แล้วกลับสู่กระบวนการรีไซเคิล ผ่าน ENVICCO โรงงานรีไซเคิลมาตรฐานระดับโลกผู้ผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูงระดับ Food Grade บริษัทใน GC Group และโรงงานพันธมิตร เพื่อขยายผลไอเดียเพิ่มมูลค่าด้วยกระบวนการอัพไซเคิล ภายใต้โครงการ SANSIRI x GC Fulfill Your Living Through Innovation ที่นำเส้นใยโพลีเอสเตอร์จากขวดพลาสติก PET ใช้แล้วมาเทิร์นเป็นชีวิตใหม่ เปลี่ยนจากขยะสู่ผลิตภัณฑ์สิ่งทอที่​กลับมาสร้างประโยชน์ได้อีกครั้ง

จุดทิ้งขยะรีไซเคิลแบบไดรฟ์ทรู ซึ่งนำร่องในโคร​งการ​ Sansiri Backyard

ไม่เพียงการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้​ลูกบ้านเท่านั้น แต่ทั้งแสนสิริ ​และ GC ยังมีจุดมุ่งหมายร่วมกันเพื่อขยายผลเชิงบวกไปสู่สังคมโดยรอบ​​ ทำให้วันเด็กครั้งล่าสุด​นี้ ​ GC ได้นำ ‘GC YOUเทิร์น แพลตฟอร์มเข้าไปร่วมสร้างความตระหนักรู้ในกลุ่ม​เด็กและเยาวชน​เรื่อง​การคัดแยกพลาสติกใช้แล้ว เพื่อนำไปเทิร์นเป็นชีวิตใหม่ที่สร้างประโยชน์ได้อีกครั้ง ผ่านกิจกรรมเทิร์นชีวิตให้ฝาขวดน้ำใช้แล้ว กลับมาเป็นคลิปอเนกประสงค์สุดเก๋ สร้างประโยชน์ได้ไม่รู้จบ ในกิจกรรม ‘Sansiri Backyard Children’s Day 2024’  ซึ่งได้​เนรมิตพื้นที่ภายใน T77 Community ให้กลายเป็นโรงละครสัตว์ท่ามกลางบรรยากาศฟาร์มใจกลางเมือง พร้อม​กิจกรรมเปิดตำราวิชาเกษตรให้เด็กๆ ได้ร่วมสนุกมากมาย ทั้งการเก็บผลไม้ ให้อาหารสัตว์ เก็บไข่ไก่สดๆ เพื่อให้เด็กมีประสบการณ์ที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น

ขณะเดียวกันยังให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมดูแลกลุ่มเปราะบางในสังคม ผ่านการใช้องค์ความรู้และเทคโนโลยีของแต่ละฝ่าย และขยายความร่วมมือไปสู่พันธมิตรเพิ่มเติมทั้ง P&G, Lotus’s และ Habitat Group ร่วมกันออกแบบที่อยู่อาศัย Upcycling Plastic House โดยแสนสิริได้นำความเชี่ยวชาญ​ด้านการดีไซน์บ้าน มาผสมผสานกับความเชี่ยวชาญด้านวัสดุรีไซเคิลของ GC จากการรวบรวมวัสดุที่จัดเก็บและคัดแยกของแพลตฟอร์ม GC YOUเทิร์น มาต่อยอดและออกแบบเพื่อให้สามารถตอบโจทย์การอยู่อาศัยและการใช้ชีวิตในแต่ละวันได้อย่างแท้จริง ซึ่งถือเป็นการต่อยอด​การคัดแยกพลาสติกใช้แล้ว ที่ไม่เพียง​ตอบโจทย์​เรื่อง​การลด Waste เพื่อดูแลสิ่งแวดล้อม แต่ยังช่วยลดความเหลื่อมล้ำ เพิ่มความเท่าเทียมให้กับกลุ่มเปราะบางในสังคมได้อีกทางหนึ่งด้วยเช่นกัน

Upcycling Plastic House เพื่อช่วยลดความเหลื่อมล้ำให้กลุ่มเปราะบาง

จะเห็นได้ว่า จุดหมายที่เหมือนกันของ 2 พันธมิตรระดับผู้นำ อย่าง GC และ แสนสิริ ที่แม้จะมาจากต่างธุรกิจ แต่มีความมุ่งมั่นร่วมกันที่ต้องการเปลี่ยนแปลงให้โลกดีขึ้น​ พร้อม​ช่วยกันเติมเต็มผลกระทบเชิงบวกภายในระบบนิเวศธุรกิจให้ครบทุกมิติ ทำให้ผลผลัพธ์ที่ได้นั้นมากกว่า​แค่การดูแลลูกบ้านหรือลูกค้าของธุรกิจ แต่เป็นการส่งต่อความสุขและขยายการพัฒนาเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างความเท่าเทียมให้แก่ผู้คนและสังคมโดยรอบได้ด้วย เป็นที่น่าติดตามว่า ภารกิจร่วมในอนาคต​ของทั้งสอง 2 ผู้นำ นับจากนี้ จะนำมาซึ่งการสร้างมูลค่าเพิ่มหรือนวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ทั้งต่อการขับเคลื่อนทางธุรกิจ รวมทั้งในมิติของการดูแลสังคม และสิ่งแวดล้อมให้สามารถเติบโตควบคู่กันไปได้อย่างสมดุลในอนาคตได้อย่างไรต่อไป ​

Stay Connected
Latest News