อายิโนะโมะโต๊ะ ลด Food Loss ในกระบวนการผลิตได้แล้ว 43% เร่งเครื่องเพิ่มทั้ง Productivity และ Value ขับเคลื่อนธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน

ข้อมูลจาก Food Waste Index Report ของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UN Environment Program) เปิดเผยว่า ในแต่ละปี อาหารกว่า 1,300 ล้านตัน หรือ 1 ใน 3 ของอาหารที่ผลิตได้ทั่วโลก ต้องกลายเป็นขยะอาหารที่ถูกทิ้งไปอย่างสูญเปล่าและสร้างก๊าซเรือนกระจกถึง 8%

กลุ่มบริษัทอายิโนะโมะโต๊ะ ในฐานะบริษัทผู้ผลิตอาหารชั้นนำระดับโลก จึงริเริ่มโครงการเพื่อช่วยลดการสูญเสียอาหารและทรัพยากรในก​ระบวนการบริหารจัดการธุรกิจตลอดห่วงโซ่ เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างเกิดประโยชน์สูงสุด​ ภายใต้แนวคิด “TOO GOOD, TOO WASTE”

โดยตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปีงบประมาณที่ผ่านมา อายิโนะโมะโต๊ะ ประเทศไทย สามารถลดปริมาณการสูญเสียอาหารและขยะอาหารได้แล้วถึง 43%  หรือ 843 ตัน ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งเป้าลดการสูญเสียไว้ 50% ภายในปี 2568 และกำลังดำเนินการอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน ผ่านการขับเคลื่อนกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าสูงสุด อาทิ การบริหารจัดการกระบวนการผลิตโดยไม่ก่อให้มีของเสีย การจัดการห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ที่เหมาะสมโดยใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีที่ทันสมัย การมุ่งลดของเสียในกระบวนการจัดจำหน่าย เป็นต้น

 

ทั้งนี้ แนวทางดังกล่าว ขับเคลื่อนอย่างสอดคล้องไปกับเป้าหมายสำคัญ เพื่อก้าวสู่การเป็น กลุ่มบริษัทผู้ส่งมอบแนวทางการแก้ปัญหาและนวัตกรรม (Solution Provider) ด้านอาหารและสุขภาพระดับโลก ​ภายใต้แนวคิด  “อายิโนะโมะโต๊ะสร้างคุณค่าร่วมกับสังคม (ASV)”  ผ่าน 3 แนวทางหลัก ได้แก่ การสร้างสังคมสุขภาพดี ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และการสร้างความยั่งยืนของโลก

พร้อมวางเป้าหมายสำคัญไว้ 2 ประการ ในมิติของการสร้างความยั่งยืนให้แก่โลก ได้แก่ การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินธุรกิจลง  50% ภายในปี พ.ศ. 2573​ และสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) รวมถึงลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี ​พ.ศ. 2593 

ขณะที่การขับเคลื่อนธุรกิจตามแนวทาง ASV เพื่อสอดคล้องกับ 3 แนวทางหลัก ทั้งการสร้างสังคมสุขภาพดี ​​ การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า รวมทั้งสร้างความยั่งยืนให้แก่โลก พร้อมทั้งพิชิตเป้าหมายเพื่อลดผลกระทบจากปัญหาสภาพอากาศ  มีแนวทางดังต่อไปนี้

1. ในส่วนของโรงงานและกระบวนการผลิต ให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพของพลังงาน และการใช้พลังงานหมุนเวียน เช่น การอนุรักษ์พลังงานและปรับปรุงกระบวนการผลิตให้ใช้พลังงานน้อยลง การปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ไฟฟ้าและเครื่องจักรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต การใช้เชื้อเพลิงชีวมวลและพลังงานแสงอาทิตย์แทนเชื้อเพลิงฟอสซิล

ซึ่งได้ติดตั้ง “โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมจากชีวมวล” เพื่อผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มได้กว่า 50,000 ตัน/ปี พร้อมพัฒนาเทคโนโลยี​ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่างต่อเนื่อง อาทิ เทคโนโลยีหม้อต้มไอน้ำพลังงานชีวมวล โดยใช้แกลบเป็นเชื้อเพลิงเพื่อลดการใช้เชื้อเพลิงจากน้ำมันเตา หรือการติดตั้ง Solar Rooftop บนพื้นที่หลังคาอาคารโรงงาน ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 130,000 ตันต่อปี

2. การจัดการส่วนเกินจากกระบวนการผลิตเพื่อให้เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ร่วม หรือ BY PRODUCT อย่างผลิตภัณฑ์ปุ๋ยน้ำ อามิ-อามิ® ที่นำน้ำหมักที่เหลือจากกระบวนการผลิตผงชูรส ซึ่งอุดมไปด้วยคุณค่าและสารอาหารที่จำเป็นจำนวนมาก มาต่อยอดให้เกิดประโยชน์ทางการเกษตร ซึ่งขับเคลื่อนมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544

3. แนวทาง “การจัดการด้านบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน” ​ซึ่งกระบวนการผลิตสินค้า​ รวมถึงกระบวนการขนส่ง มีการใช้พลาสติกเป็นจำนวนมาก อายิโนะโมะโต๊ะจึงนำแนวคิดเรื่องบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาปรับใช้ โดยลดปริมาณการใช้พลาสติกสำหรับห่อหุ้มบรรจุภัณฑ์สินค้าบางชนิดลง แต่ยังคงสามารถรักษาคุณภาพของสินค้าไว้ได้ดีเช่นเดิม เช่น ยกเลิกการใช้ถุงพลาสติกพอลิเอทิลีน (PE Bag) ในการห่อหุ้มแพ็กบรรจุภัณฑ์ของสินค้า “ผงชูรสอายิโนะโมะโต๊ะ” ขนาด 1 กิโลกรัม และวัตถุปรุงแต่งอาหาร “รสดี” ขนาด 850 กรัม ซึ่งช่วยลดปริมาณพลาสติกลงได้ถึง 127 ตัน/ปี หรือเทียบเท่ากับขวดน้ำพลาสติกขนาด 1.5 ลิตร จำนวน 4.2 ล้านขวด

4. กลไกการจัดซื้ออย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการจัดหาวัตถุดิบที่มีแนวทางที่เป็นมิตรหรือส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด อาทิ การเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์กระดาษที่ผลิตตามมาตรฐาน FSC เป็นต้น

5. การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรน้ำตลอดกระบวนการผลิตให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด ตามหลักการ 3Rs (Reduce, Reuse, Recycle) ​ผ่านทุกกิจกรรมทางธุรกิจในทุกโรงงานและสถานประกอบการ มุ่งสู่การเป็น “โรงงานสีเขียว” ที่มีส่วนร่วมรักษาทรัพยากรน้ำและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน​ โดยได้นำเทคโนโลยีประสิทธิภาพสูงในการบำบัดน้ำที่เหลือจากกระบวนการผลิตให้มีคุณภาพที่สูงกว่าที่กฏหมายกำหนดก่อนปล่อยคืนสู่แหล่งน้ำตามธรรมชาติ รวมถึงการนำมาหมุนเวียนใช้ภายในโรงงานอีกด้วย ปัจจุบัน บริษัทฯ สามารถลดปริมาณการใช้น้ำต่อหน่วยการผลิตลงได้ถึง 91%

6. โรงงานผลิตผงชูรสอายิโนะโมะโต๊ะ กำแพงเพชร ซึ่งถือเป็นต้นแบบโรงงานสีเขียว​ ยังได้เปิดให้ผู้สนใจสามารถเข้าเยี่ยมชมการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ผ่านแพลตฟอร์มเยี่ยมชมโรงงานเสมือนจริง ที่เปิดตัวเมื่อเดือนกันยายน  2565  เพื่อเป็นอีกหนึ่งองค์วามรู้ สำหรับผู้สนใจศึกษากระบวนการดำเนินงานต่างๆ ของ Green Factory  ซึ่งให้ความรึ็สึกเหมือนได้เดินทางไปเยี่ยมชมโรงงานจริงๆ สะท้อนภาพลักษณ์การเป็นบริษัทผู้ผลิตอาหารชั้นนำที่เข้าใจความต้องการของผู้บริโภค และตอกย้ำเจตนารมณ์การทำธุรกิจตามแนวทาง Bio-Circular-Green Economy เพื่อส่งเสริมการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนควบคู่ไปด้วย

7. การมีส่วนร่วมพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทยให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืนตั้งแต่ต้นน้ำ จนถึงปลายน้ำ ภายใต้แนวคิด “Thai Farmer Better Life Partner” โดยอายิโนะโมะโต๊ะ มีส่วนช่วยสนับสนุนการใช้ผลิตผลมันสำปะหลังของเกษตรกรไทยมากถึง 520,000 ตันต่อปี ด้วยการใช้แป้งมันสำปะหลังจำนวนมากเพื่อเป็นวัตถุดิบสำหรับผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท

8. การมีส่วนร่วมกับเกษตรกรในกระบวนการเพาะปลูกวัตถุดิบ ทั้งส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ให้ความรู้ด้านการปรับปรุงดิน พัฒนาสายพันธุ์มันสำปะหลัง เพื่อให้ได้พันธุ์ที่มีคุณภาพและทนทานทั้งต่อสภาวะอากาศและโรคติดต่อ โดยเริ่มจากเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ในจังหวัดกำแพงเพชร พร้อมจัดตั้งห้องวิเคราะห์โรคใบด่างฯ ด้วยวิธี DAS-ELISA โดยตั้งแต่ปี 2564 ถึงปัจจุบันได้สนับสนุนท่อนพันธุ์และต้นพันธุ์มันสะอาดปราศจากโรคใบด่างฯ กว่า 150,000 ต้น​ และทำแปลงทดลองร่วมกับเกษตรกรสำหรับขยายต้นพันธุ์มันสำปะหลังที่สะอาด ปราศจากโรคใบด่าง และทนทานต่อโรค เพื่อเป็นการควบคุมและตัดวงจรการระบาดของโรค ทั้งในพื้นที่กำแพงเพชรและจังหวัดใกล้เคียง โดยมีเป้าหมายทำแปลงร่วมกับเกษตรกรในจังหวัดกำแพงเพชร จำนวน 500 ไร่ในปีนี้ และเพิ่มอีก จำนวน 1,000 ไร่ ในปีถัดไป

9. ในมิติของการช่วยส่งเสริมสุขภาพดีของประชากรโลกจำนวนกว่าหนึ่งพันล้านคน ในฐานะผู้บริโภคผงชูรสอายิโนะโมะโต๊ะ ที่มีความพยายามคงความอร่อยและความสมดุลในมื้ออาหาร โดยใช้รสชาติ “อูมามิ” ส่งเสริมการรับประทานอาหารที่มีโภชนาการที่เหมาะสม รวมถึงผงชูรสมีส่วนช่วยในการลดการใช้เครื่องปรุงรสที่มีรสเค็ม เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคได้รับประทานอาหารที่อร่อยและดีต่อสุขภาพ รวมทั้งให้ความสำคัญในการเข้าถึงสินค้าของผู้บริโภค ทั้งในด้านการจัดจำหน่ายและราคา

10. แนวทางในการดำเนินธุรกิจทั่วโลกของกลุ่มบริษัทอายิโนะโมะโต๊ะ  ให้ความสำคัญกับการปรับใช้และคำนึงถึงวัฒนธรรม รสชาติและอาหารประจำท้องถิ่น เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์กับวิถีชีวิตและความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่ได้เหมาะสมที่สุดเป็นสำคัญ

Stay Connected
Latest News